คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

บุญไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

พุทธศาสนิกชนต่างเคารพนับถือพระอริยสงฆ์รูปนี้ นอกจากพระคาถาศักดิ์สิทธิ์แล้ว คำสอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธศาสนิกชนให้ความสนใจ และเลื่อมใสอย่างยิ่ง

สัมมารินน้ำชา

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) หรือ หลวงพ่อโต เป็นผู้ที่มีเมตตาสูงมาก ว่ากันว่าใครขออะไรจากท่านมักจะไม่ผิดหวัง แม้แต่กัณฑ์เทศน์ท่านก็ให้ใครต่อใครได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันท่านไม่ค่อยถือตัวหรือติดในสมมติ ผู้คนจึงมองว่าท่านมีพฤติกรรมแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร หาว่าท่านเป็น “พระบ้า” ก็มี

อย่างไรก็ตาม หากเป็นเรื่องความถูกต้องแล้ว ท่านเข้มแข็งมั่นคงมาก ไม่ยอมโอนอ่อนเลย แต่ก็มิใช่แข็งกระด้าง หากมีกุศโลบาย สมัยที่ท่านมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี ได้รับนิมนต์เข้าไปเทศน์ในจวนของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งเป็นขุนนางที่มีอำนาจที่สุดในเวลานั้น แม้แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงเกรงใจ

เมื่อขึ้นธรรมาสน์ให้ศีลเสร็จ ก็เริ่มแสดงพระธรรมเทศนา ระหว่างนั้นขุนนางที่รับใช้สมเด็จเจ้าพระยาฯ รวมทั้งพวกที่มาจากหัวเมืองพากันหมอบกับพื้นฟังธรรมกันเป็นแถว ตรงข้ามกับสมเด็จเจ้าพระยาฯ กลับนั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ ไขว่ห้างรินน้ำชาฟังเทศน์

หลวงพ่อโตจึงเทศน์ว่า “สัมมามัวรินกินน้ำชา มิจฉาหมอบก้มประนมมือ”

สมเด็จเจ้าพระยาฯ ได้ยินก็โมโห ลุกเข้าเรือนไปทันที ส่วนหลวงพ่อโตก็ลงจากธรรมาสน์กลับวัดระฆัง ว่ากันว่าสมเด็จเจ้าพระยาฯ ขุ่นเคืองท่านอยู่นาน

 

บุญไม่เต็มเม็ด เต็มหน่วย

อีกคราวหนึ่งท่านได้รับนิมนต์เทศน์ฉลองวัดใหม่ของยายแฟง ยายแฟงผู้นี้เป็นแม่เล้าที่ร่ำรวยจากน้ำพักน้ำแรงของโสเภณี เมื่อยายแฟงมีอายุมากขึ้นอยากทำบุญครั้งใหญ่เพื่อลบรอยบาป จึงบริจาคเงินสร้างวัด ตั้งชื่อว่า “วัดใหม่ยายแฟง” เมื่อสร้างวัดเสร็จยายแฟงดีใจมากที่สามารถสร้างวัดได้อย่างเศรษฐี แม้มีอาชีพเป็นแม่เล้า

เมื่อหลวงพ่อโตขึ้นธรรมาสน์ ท่านได้เทศน์ให้ยายแฟงฟังต่อหน้าว่า

“ยายแฟงสร้างวัดครั้งนี้ได้ผลอานิสงส์บกพร่อง ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเงินที่สร้างวัดเป็นเงินที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนอื่นที่ไม่ชอบด้วยธรรมเนียม ถ้าเปรียบอานิสงส์นี้ ด้วยเงินเหรียญบาท ยายแฟงก็ได้ไม่เต็มบาท จะได้สักสลึงเฟื้องเท่านั้น นี่ว่าอย่างเกรงใจกันนะ”

สลึงเฟื้องนั้นเป็นจำนวนเท่ากับค่าตัวของหญิงโสเภณีในซ่องของยายแฟง

ใครฟังแล้วก็ชอบใจ หัวเราะกันใหญ่ แต่ยายแฟงไม่ขำด้วย มีแต่ความขุ่นเคืองใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยายแฟงก็เห็นจริงตามที่ท่านว่า จึงไม่โกรธเคืองท่านต่อไป

 

คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.