ถัดจากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเล่าธุรกิจเดิมและอดีตที่เขาบอกว่าไม่ต่างจากนิยาย “ชีวิตผม เหมือนละครน้ำเน่าเล่มละไม่กี่บาท ที่พวกคุณเคยอ่านหรอก ผมก็เหมือนครอบครัวคนจีนส่วนใหญ่ในสมัยก่อน ที่มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย แบบไม่ได้มีอะไรติดตัวมา คุณพ่อเริ่มกิจการเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ ชื่อ “เตียเอ๊กเซ้ง เฟอร์นิเจอร์”
“ผมเริ่มทำงานตั้งแต่ 10 ขวบ ทุกเย็นหลังเลิกเรียนก็จะช่วยงาน จนสามารถเป็นนายช่างใหญ่ได้เต็มตัวด้วยวัยเพียง 13 ปี ทั้งพ่นสี ตัดกระจก เจาะมือจับ และประกอบตู้ และต่อมาก็ตัดสินใจออกจากโรงเรียนจบเพียงแค่ชั้น ม.1 เพราะฐานะการเงินทางบ้านไม่ค่อยดี จึงเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เรียนแทน ต่อมาเมื่อมองเห็นว่าการค้าขายแบบเดิมไม่อาจเพิ่มยอดขายได้ จึงตัดสินใจมาทำร้านเองในปี 2520 จึงเป็นที่มาของ หจก.เพชรเกษมเครื่องเรือน”
คุณสมชายเป็นลูกคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน และเขาก็เปิดตัวธุรกิจของเขาอย่างสง่างาม เมื่อเขานำเครื่องครัวที่ทำจากไฟเบอร์กลาสมาจัดแสดงที่สนามกีฬาหัวหมาก หลังจากนั้นสินค้าของเขาก็กลายเป็นที่นิยม ไม่เพียงเท่านั้นคุณสมชายยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์ มียอดขายอันดับต้นของประเทศ และถูกนำไปใช้ประกอบในฉากละครหลายเรื่อง นับได้ว่าเป็นการแจ้งเกิดนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงได้อย่างเหลือเชื่อ ดังนั้นคุณสมชายจึงเปลี่ยนชื่อจาก หจก.เพชรเกษมเครื่องเรือนมาเป็น บริษัทสตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอริ่ง
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไม่สามารถทำงานในบริษัทที่เขาเป็นผู้สร้างชื่อเสียงได้อีกต่อไป เพราะความไม่ลงตัวในหลายด้าน จนนำไปสู่การฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมถึง 13 คดี ทำให้เงินทองที่สะสมมาหมดไปกับคดีฟ้องร้อง ลูกสาวคนเล็กของเขายังเรียนไม่จบ เขาตระหนักได้ว่าชีวิตต่อไปนี้ของเขาต้องสู้เพื่อลูก นับว่าเป็นคุณพ่อและหัวหน้าครอบครัวที่ใจเพชรมาก
“ผมไม่เคยกลัวความลำบาก ผมไม่เคยกลัวตาย ผมผ่านความเป็นความตายมาแล้ว แต่สิ่งที่ผมห่วงคือลูก เขาทุกคนได้รับผลกระทบหมด บางคนอยู่ในภาวะซึมเศร้า แต่ผมสอนลูกผมทุกคนเสมอให้เป็นนักสู้ ให้อยู่อย่างสมถะ และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างคนที่พร้อมจะเดินหน้าต่อ แบบไม่ท้อ และให้อดทน ผมเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะเป็นวันของผมและครอบครัว”
ซีเคร็ตหวังว่าชีวิตใหม่ของคุณสมชาย ศรีสกุลภิญโญจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ให้มีใจที่เข้มแข็ง และหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาได้ แม้แต่คุณสมชายเองจากอาหารโปรดในวัยเด็กของเขา และความคิดในช่วงหนึ่งที่จะทำราดหน้าขาย และวันนี้เขาก็ได้มายืนอยู่หน้าเตาและได้ปรุงอาหารที่เขาชื่นชอบมากที่สุด
คุณสมชายยังบอกอีกว่า นอกจากจะขายหน้าร้านที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมแล้ว ยังอยากจะทำแฟรนไชซ์ ให้กับ คนงานและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง เพราะเป็นคนของตนและภรรยา ซึ่งได้ทำงานมาด้วยกันหลายสิบปี ได้มีอาชีพ เงินลงทุนตั้งต้น ไม่เกิน 20,000 บาท ก็สามารถทำและขายได้ เพราะราดหน้าเป็นอาหารที่ใครก็ทานได้ และขายไม่ยาก
ร้าน “ราดหน้าเอ็กจือ” แห่งนี้ให้บริการอาหารระดับเหลา ทั้งราดหน้าธรรมดา และเป๋าฮื้อ กระเพาะปลาชามยักษ์ เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 ณ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม โซน 4 แวะไปอุดหนุนกันได้นะคะ
ที่มาและภาพ
www.facebook.com/louis donlaporn srisakulpinyo
บทความน่าสนใจ
น้องกิจ เด็กขายโตเกียวสู้ชีวิตแห่งตลาดท่าน้ำปากเกร็ด
พอลร์ ผู้พิชิตไพร หนุ่มกะเหรี่ยงตาบอด สู้ชีวิตปลุกปั้นโรงงานเนยถั่วเพื่อเด็กด้อยโอกาส
แหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา สู้ชีวิตปลดหนี้ 50 ล้านสำเร็จ เพราะมีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง
คุณลุงหลังค่อม คนสู้ชีวิต หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับจ้างปีนตัดแต่งต้นไม้
อ๋อง – พัฒนะ พันธุ์เทวะ ดาราหนุ่ม นักสู้ชีวิต ได้ดีทุกวันนี้ เพราะมีพี่ชายเป็นไอดอล