พระวินัย สิ่งที่พระและฆราวาสควรรู้ไว้ไม่เสียหลาย
พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติ พระวินัย เอาไว้ เพื่อเป็นกรอบให้พระในพระพุทธศาสนาปฏิบัติตาม (เปรียบเหมือนกฎหมายของพระ) โดยมีจุดมุ่งหมายให้หมู่สงฆ์อยู่อย่างเป็นสุข มีกิเลสตัณหาน้อยลง ชาวบ้านเลื่อมใสพระ และเพื่อให้พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องดำรงอยู่อย่างยาวนาน พระที่ละเมิดพระวินัยซึ่งพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ก็จะ อาบัติ หรือ ต้องอาบัติ
คำว่า อาบัติ มาจากภาษาบาลีว่า อาปัตติ หมายถึง การทำผิดทางวินัยสงฆ์ ซึ่งการทำผิดขั้นร้ายแรงที่สุดก็คือ อาบัติปราชิก การทำผิดพระวินัยในระดับนี้จะมีโทษหนัก พระที่ทำอาบัติปาราชิกจะสิ้นสุดจากความเป็นพระทันที และไม่สามารถบวชใหม่ได้อีก
การทำผิดขั้นรุนแรงรองลงมาเรียกว่า อาบัติสังฆาทิเสส (เช่น แตะต้องผู้หญิงด้วยจิตกำหนัด, ทำหมู่สงฆ์ให้แตกกัน เป็นต้น) จะต้องรับโทษให้ต้องอยู่ในที่สงบในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อให้สำรวมกายใจแล้วพิจารณาความผิดของตน หากอยู่รับโทษจนครบแล้วสำนึกผิด ก็จะพ้นอาบัติ
นอกเหนือจากนี้ยังมีอาบัติในระดับที่รองลงมา ซึ่งเป็นการทำผิดที่ไม่ร้ายแรงมาก จึงมีโทษไม่หนักมากเท่าสองระดับแรก เช่น อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ อาบัติถุลลัจจัย อาบัติปาฏิเทสนียะ อาบัติทุกกฏ อาบัติทุพภาสิต เป็นต้น
เราจึงสามารถกล่าวได้ว่า พระวินัยมีความสำคัญมาก หากสงฆ์ไม่ทำตามพระวินัย หมู่สงฆ์ก็จะอยู่กันอย่างมีความทุกข์ มีกิเลสตัณหามากขึ้น ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา คำสอนถูกบิดเบือน และศาสนาถูกทำลาย
สอดคล้องกับในพระไตรปิฎกอีกบทหนึ่ง คือ อุททานคาถา พระไตรปิฎก เล่มที่ 4 พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 1 ข้อ 146 ซึ่งได้กล่าวเอาไว้ว่า พระวินัยจะนำความสุขมาสู่พระที่มีศีล และป้องกันไม่ให้พระทุศีล ได้ใจพระที่มีศีลจะเป็นผู้รักษา และเผยแผ่ศาสนาของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างไม่ต้องสงสัย และเป็นผู้ที่ทำสิ่งที่ควรทำ
ส่วนพระที่ไม่รู้จักพระวินัยย่อมไม่สามารถรักษาความสำรวมของตน รวมถึงไม่สำรวมศีลด้วย เมื่อใดพระยังสามารถรักษาพระวินัยเอาไว้ได้ เมื่อนั้นได้เชื่อว่าพระพุทธศาสนายังไม่เสื่อมสูญ
ด้วยเหตุดังกล่าว เราชาวพุทธทุกคนที่ปรารถนาจะช่วยรักษาพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องให้ดำรงอยู่ยาวนาน สามารถทำได้ด้วยการให้ความเคารพศรัทธาพระที่ปฏิบัติตนตามพระวินัย เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้พระที่ไม่ดีมีจำนวนน้อยลง เหลือแต่พระดี ๆ ที่จะเผยแผ่และสั่งสอนธรรมะของพระพุทธเจ้า เพื่อชักนำให้ชีวิตของผู้คนจำนวนมากในสังคมไปสู่ความเจริญ มีศีลธรรมมากขึ้น สุดท้าย ทั้งศาสนาและสังคมก็จะเจริญไปพร้อมกัน แต่ถ้าเราทำตรงข้ามก็จะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม
หลายคนคงยังไม่ลืมว่า แท้จริงแล้วผู้ที่มาบวชในพระพุทธศาสนาควรเป็นผู้ที่มุ่งฝึกตนเพื่อลดกิเลส ควรเป็นผู้มุ่งปฏิบัติตนตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ควรเป็นผู้สืบทอดและเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า ส่วนผู้ที่ไม่กระทำสิ่งเหล่านี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะเรียกว่าเป็น สาวกของพระพุทธเจ้า
ที่มา
อาบัติในพระไตรปิฎก คู่มือดูพระแท้ โดย ณัฐพบธรรม
บทความที่น่าสนใจ
Dhamma Daily : ถ้าพบเห็นพระทำผิดพระวินัย…จะทำอย่างไรดี
เปิดพระวินัย 4 ข้อ ที่ทำให้พระเป็นปาราชิก
นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ผู้ให้กำเนิดการถวาย ผ้าอาบน้ำฝน
Dhamma Daily: สีกา โทรศัพท์พูดคุยกับพระสงฆ์ นานเป็นชั่วโมง เป็นการผิดวินัยสงฆ์หรือไม่