ความตาย

ความตายอยู่แค่ปลายจมูก

แสงแดดจ้าส่องกระทบผืนทรายและท้องทะเลเบื้องหน้าทำให้ฉันต้องหยีตาสู้กับแสง แล้วรีบเอาผ้าคลุมไหล่ในกระเป๋าเป้ขึ้นมาคลุมหัวบังแดด และใส่แว่นตาดำช่วยพรางแสงที่ร้อนแรงนั้น

ทะเลในช่วงเวลาน้ำลงดูช่างราบเรียบเงียบสงบ มีเพียงคลื่นเล็ก ๆ ซัดขึ้นมาสัมผัสชายหาดอย่างแผ่วเบา ฉันรู้สึกถึงความอ้างว้างและมีคำถามบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ฉันยังคงเดินลงน้ำต่อไปจนน้ำเริ่มสูงขึ้นมาเกือบถึงเข่า โดยรอบบริเวณนี้เต็มไปด้วยโขดหิน น้ำดูไม่ค่อยใส และยังมีซากเศษอิฐเศษกำแพงกระจายเกลื่อน ทำให้ฉันหวนรำลึกนึกถึงภาพอดีตที่เคยเกิดขึ้นที่นี่

“หนีเร็ว หนีเร็ว น้ำมาแล้ว คนตายกันเกลื่อนหาดทางโน้นหมดแล้ว” เป็นคำบอกเล่าของแม่ค้าขายน้ำมะนาวปั่นที่ฉันช่วยอุดหนุนหนึ่งแก้ว เธอเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เสียงตะโกนร้องบอกให้หนีทำให้เธอรีบกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะของชาวบ้านแถวนั้นหนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด นอกจากทรัพย์สินที่สูญหาย บ้านเรือนพังเสียหายแล้ว ยังมีความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ นั่นคือ สภาพลูกหลานของเธอที่เธอไปตามหาจนเจอว่าเสียชีวิตโดยร่างติดอยู่ตามยอดต้นมะพร้าว เป็นความสูญเสียที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจแม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 11 ปี

สึนามิที่ซัดเข้าชายฝั่งไทยในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นำความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เป็นมหันตภัยทางธรรมชาติชนิดที่ฉันไม่เคยคาดคิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ ฉันนึกถึงภาพนักท่องเที่ยวที่ต่างพากันมาเลี้ยงฉลองเทศกาลคริสต์มาสในประเทศไทย บรรยากาศริมหาดของค่ำคืนวันที่ 25 ธันวาคม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเต็มใบหน้า ความรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุขที่มีให้กันของคู่รัก ครอบครัว เพื่อนฝูง แต่เพียงชั่วข้ามคืน ใครจะคาดคิดว่าเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเมื่อคืนจะกลายเป็นเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา น้ำทะเลที่เคยสวยใสไร้พิษสงกลับกลายเป็นกราดเกรี้ยวกวาดต้อนกลืนกินชีวิตผู้คนและทำลายอาคารบ้านเรือนให้พังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง

ในขณะที่ฉันยังยืนแช่อยู่ในน้ำนั้น บรรดาคลื่นเล็ก ๆ ซัดมากระทบขาจนน้ำกระเซ็นเปียกชายกระโปรง จังหวะที่ฉันก้มลงสำรวจดูชุดที่เปียกน้ำ ความคิดบางอย่างเกี่ยวกับความตายก็ผุดขึ้นมา ก่อนหน้านี้ฉันมีความคิดเหมือนกับใครหลาย ๆ คนที่มักคิดว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัว เรายังมีเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกยาวนาน แต่หากลองคิดดูให้ดี ความตายมันอยู่ใกล้ตัวเรามาก ล้อมรอบตัวเราอยู่เหมือนน้ำทะเลที่รายล้อมตัวฉันในตอนนี้ ความตายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ใกล้จนเรามองไม่เห็นเพราะมัวแต่มองเรื่องอื่น ๆ ที่ไกลตัวออกไป และทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าเราคงยังไม่ตายในวันนี้พรุ่งนี้

ความตาย
Image by David Mark from Pixabay

ฉันลองหลับตาแล้วกำหนดตามดูลมหายใจเข้า – ออก ตลอดเวลาฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ปลายจมูก “นี่ไง เรายังไม่ตาย เรายังหายใจอยู่ ถ้าหากเราตาย เราก็หยุดหายใจ ความตายมันดูรู้ได้ มันอยู่ที่ปลายจมูกนี่เอง” “แล้วนี่ฉันยังเหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะตายจากไปนะ” “เวลาของฉันมันเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้วใช่ไหม”

เสียงแม่ตะโกนเรียกให้ฉันขึ้นจากน้ำเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน ทำให้ฉันต้องเดินกลับขึ้นฝั่ง ทิ้งทะเลอันเงียบสงบไว้เบื้องหลังในระหว่างที่ฉันเดินกลับมาขึ้นรถ ใจฉันยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องของความตาย ไม่ว่าจะเป็นจากภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ ภัยจากผู้ก่อการร้าย หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน ต่างก็พรากชีวิตคนที่เรารักหรือตัวเราไปก่อนเวลาอันควรได้ทั้งนั้น แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะมีมากมายเพียงใด สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้งความตายได้ เราไม่อาจรู้เลยว่า วันนี้ที่เราก้าวเท้าออกจากบ้าน เราจะได้กลับมาบ้านหรือไม่ เราไม่อาจรู้เลยว่า พ่อแม่และญาติพี่น้องที่เรารัก วันพรุ่งนี้เขาจะยังมีลมหายใจให้เราได้พบเห็นพูดคุยด้วยไหม

ฉันรีบโผเข้ากอดแม่ “โอ๊ย กอดแม่ทำไม แม่ร้อน ดูซิเนี่ย ไปยืนตากแดดอยู่ในน้ำทำไม หัวเหอนี่ร้อนเชียว” เสียงแม่โวยวายตามเคย “ก็หนูอยากกอดแม่แน่น ๆ หนูรักแม่นี่คะ” ฉันไม่รู้ว่าโอกาสที่จะได้กอดผู้หญิงคนนี้ คนที่คอยปกป้องดูแลเฝ้าห่วงใยฉันทั้งชีวิตจะมีอีกนานแค่ไหน

พ่อนั่งคอยฉันกับแม่อยู่ที่รถ พ่อเป็นผู้ชายที่ทนลำบากทั้งชีวิตเพื่อครอบครัว ฉันรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีที่ยังได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคนพ่อแม่ลูก พ่อออกรถเพื่อเดินทางต่อ เช่นเดียวกับชีวิตของฉันที่ต้องดำเนินต่อไป แต่ความคิดของฉันไม่เหมือนเดิมแล้ว ชายหาดที่เขาหลัก จังหวัดพังงา กระตุ้นให้ฉันได้ตรึกตรองและมีคำตอบดี ๆ ให้กับชีวิต เวลาที่เหลือต่อจากนี้ ไม่ว่าจะสั้นหรืออีกยาวไกลแค่ไหน ฉันจะใช้มันอย่างคุ้มค่า เวลาที่เรายังมีลมหายใจนั้นมีค่ายิ่งนัก ฉันจะทำดีกับทุกคนที่ฉันรักให้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นความกตัญญูต่อพ่อแม่หรือผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่เลี้ยงดูหรือให้ความอุปการะค้ำชูฉันมาจนเติบโต ฉันจะระลึกนึกถึงท่านเหล่านั้น และจะรีบตอบแทนพระคุณท่าน

ณ วันนี้ สำหรับฉัน ความตาย ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป แต่มันกลับอยู่ใกล้ ๆ แค่ลมหายใจที่ปลายจมูกนี่เอง ดังนั้นจงอย่าประมาทว่าเราจะมีชีวิตต่อไปอีกยาวไกล เพราะไม่แน่ว่า เวลาเพียงเสี้ยววินาทีอาจพรากเราและคนที่เรารักให้ไม่ได้กลับมาเจอกันอีก วันพรุ่งนี้อาจไม่มีก็เป็นได้

 

ที่มา  นิตยสาร Secret

เรื่อง  สุญญตา

Image by Jieun Lee from Pixabay

Secret Magazine (Thailand)

IG @Secretmagazine


บทความน่าสนใจ

ทำอย่างไรเราจะคิดถึงความตายได้โดยที่ไม่กลัวตาย โดย พระไพศาล วิสาโล

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.