ย้อนหลังกลับไปราว 4,000 ปี ณ ดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาในปัจจุบัน คือที่ตั้งของ ”อียิปต์” อาณาจักรอันยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองด้วยศิลปวิทยาการ
ภาพเค้ารางของอดีตที่ยังคงแจ่มชัดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นพีระมิด มหาวิหาร รูปสลัก หรือแม้แต่เรื่องราวของฟาโรห์ เทพเทวีอันศักดิ์สิทธิ์ และมัมมี่ ล้วนสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหลายต่อหลายรุ่นต่างพยายามค้นคว้าไขปริศนาความลี้ลับเหล่านี้ให้จงได้ รวมถึง ฌอง ฟรองซัวส์ ชองโปลียง (Jean-Franæois Champollion) ชายชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้ถอดรหัสอักขรวิธีและความหมายของอักษรรูปภาพโบราณ ”เฮียโรกลิฟ” (Hieroglyph) ได้เป็นคนแรกของโลกด้วย ยังผลให้นักวิชาการสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวของอียิปต์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ชองโปลียงเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1790 ที่เมืองฟีแยค (Figeac) ทางใต้ของฝรั่งเศส เริ่มต้นชีวิตการเรียนตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่ปีด้วยการสอนของฌากส์ โจเซฟ พี่ชายแท้ ๆ ของเขาเอง แม้จะเป็นการสอนอย่างง่าย ๆ แต่ชองโปลียงก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ผิดกับเด็กในวัยเดียวกัน และเขามีความสนใจด้าน “ภาษา” เป็นพิเศษ

ชองโปลียงสามารถอ่านและเขียนภาษาฝรั่งเศสได้ด้วยวัยไม่ถึง 5 ปี และเรียนรู้ภาษาทางตะวันออก ทั้งภาษาฮีบรู อารบิก ซิริแอก และภาษาจีนด้วยตนเอง จนอ่านออกเขียนได้ด้วยวัยเพียง 10 ปี
หนึ่งปีต่อมาชองโปลียงเข้าศึกษาต่อที่เมืองเกรอน็อบล์ (Grenoble) ซึ่งที่นั่นนอกจากเขาจะได้เรียนภาษาคอปติก สันสกฤต และเปอร์เซียเพิ่มเติมแล้ว ชองโปลียงยังได้พบกับ ฌอง บัปติสท์ ฟูริเยร์ ผู้ทำให้เขารู้จักอียิปต์แบบทุกซอกทุกมุม และเริ่มสนใจงานโบราณคดี การตีความอักษรภาพเฮียโรกลิฟนับแต่นั้นมา
เด็กหนุ่มวัย 17 ปีเริ่มงานด้านอียิปต์วิทยาด้วยการเขียนสารานุกรมเล่มแรกชื่อว่า “อียิปต์ภายใต้ฟาโรห์” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เมื่อแวดวงวิชาการมองว่า ผลงานของเขาเป็นเพียงงานรวบรวม ไม่มีการนำเสนอข้อมูลหรือทฤษฎีใหม่ ๆ
ทว่าความล้มเหลวในวันนั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้ชองโปลียงเกิดความพยายามมากยิ่งขึ้น โดยมีโจทย์สำคัญรออยู่คือ ต้องอ่านอักษรภาพเฮียโรกลิฟในแท่งหินโรเซตตาให้สำเร็จเป็นคนแรกด้วยปณิธานที่แน่วแน่ว่า
“ผมจะพยายามใช้ความรู้ความสามารถที่มีอ่านอักษรเฮียโรกลิฟให้สำเร็จจงได้ เพราะนั่นคือเกียรติยศสูงสุดในชีวิตที่จะได้ถ่ายถอดวาทะศักดิ์สิทธิ์จากเทพเจ้าให้เป็นที่ประจักษ์แก่มนุษย์รุ่นหลัง”
ชองโปลียงทุ่มเททั้งชีวิตในการศึกษารูปแบบอักษรในดินแดนใกล้เคียง ดินแดนตะวันออกไกล รวมถึงคลุกคลีอยู่กับโบราณวัตถุและโบราณสถานในอียิปต์เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด แม้เส้นทางนี้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อเลยสักครั้ง คิดเพียงแต่ว่า ”นี่คือความท้าทายที่สุดในชีวิต” และมุ่งมั่นต่อไป
ในที่สุดเมื่อปี ค.ศ. 1828 ความมุ่งมั่นกว่าสองทศวรรษของชองโปลียงก็สัมฤทธิผล เมื่อเขาพิสูจน์ได้ว่า ชาวอียิปต์มีอักษรภาพถึง 640 ตัว เป็นพยัญชนะผสม 75 ตัว แต่ที่นิยมใช้มีประมาณ 50 ตัว อีกทั้งอักษรบางตัวยังเขียนได้หลายแบบ มีหลายความหมายภายใต้ระบบการเขียนจากซ้ายไปขวาและขวาไปซ้าย
ความลับในแท่งหินโรเซตตาที่เก็บงำมานานกว่าพันปีจึงได้เปิดเผยออกมา พร้อม ๆ กับเป็นกุญแจไขความลับในบรรดาจารึกรุ่นก่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี และด้วยผลงานชิ้นเอกนี้ จึงทำให้ ฌอง ฟรองซัวส์ ชองโปลียง ได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งอียิปต์วิทยา (The Father of Egyptology) ผู้สร้างคุณูปการแก่นักวิชาการรุ่นต่อ ๆ มา
ทว่าฌอง ฟรองซัวส์ ชองโปลียง กลับชื่นชมความสำเร็จนี้ได้ไม่นานนัก เพราะเพียงแค่สี่ปีให้หลัง ชองโปลียงก็ล้มป่วยและเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 42 ปีในอียิปต์ แผ่นดินที่เขาทุ่มเทศึกษาค้นคว้ามาตลอดทั้งชีวิต
เพียงเปลี่ยนความผิดหวังมาเป็นกำลังใจ ผสานกับความมุ่งมั่นและพยายาม ไม่ว่าอุปสรรคน้อยใหญ่แค่ไหนก็ไม่อาจหยุดยั้ง ”ความสำเร็จ” ได้ ดังเช่นฌอง ฟรองซัวส์ ชองโปลียง ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง ปาปิรัส
ภาพ wikipedia
บทความน่าสนใจ