ซีเคร็ตชวนอ่าน : ฝึกใจง่าย ๆ เก่งได้อีก หนังสือธรรม Mindfulness ที่ใคร ๆ ก็ต้องอ่าน
เมื่อทราบว่าสำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะกำลังออกผลงานเล่มใหม่ของดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ชื่อว่า “ ฝึกใจง่าย ๆ เก่งได้อีก ” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Mindfulness in Action” เป็นหนังสือธรรมะสำหรับองค์กร แล้วคนที่ไม่ได้ทำงานในองค์กรหรือบุคคลทั่วไปสามารถอ่านได้ไหม ขอบอกได้เลยว่าหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงก็ทำให้รู้สึกว่า สิ่งที่ดร.วรภัทร์บอกว่าสามารถพัฒนาองค์กรได้คือ “Mindfulness” หรือ “การเจริญสติ” เป็นสิ่งสำคัญต่อคนรุ่นปัจจุบันมาก เพราะการเจริญสติจะทำให้เรากลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ คนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตเร่งรีบ ทำงานด้วยความกดดัน และทำงานหนักมากขึ้น การเจริญสติจึงเป็นทางออกที่ช่วยลดความเครียดได้ อย่างคำที่พูดว่า “สติมาปัญญาเกิด” แต่ทว่าหนังสือธรรมะเล่มนี้นอกจากพนักงานออฟฟิศและผู้บริหารที่ควรอ่านแล้ว บุคคลทั่วไปก็ควรที่จะอ่าน เพราะดร.วรภัทร์กล่าวถึงการเจริญสติที่ดีควรบ่มเพาะตั้งแต่เด็ก ซึ่งผู้ปกครอง หรือคุณครูผู้สอนวิชาศีลธรรม หรือพระพุทธศาสนา ควรนำวิธีการเจริญสติในหนังสือเล่มนี้ไปประยุกต์กับนักเรียนได้ เพราะการเจริญสติไม่ได้มีแค่การนั่งสมาธิเท่านั้น ผู้ปกครองก็สามารถนำการเจริญสติมาบ่มเพาะลูกได้ เพื่อให้เขามีภูมิต้านความเครียดด้วยการรู้สึกตัวและกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
บทแรก ดร.วรภัทร์กล่าวเรื่องปัญหาในออฟฟิศได้ถูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสวมหน้ากากเข้าหากัน ซุบซิบนินทา ไม่กล้าแสดงความคิดในที่ประชุม ไม่กล้าคิดนอกกรอบ ไม่สนใจเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพ เป็นต้น คิดว่าถ้าปล่อยให้พนักงานหรือผู้บริหารเป็นอย่างต่อไปองค์กรจะไปรอดหรือไม่ ? อันนี้ผู้อ่านจะได้คำตอบจากหนังสือเล่มนี้
ทำไมตะวันตกให้ความสนใจการเจริญสติกันมาก ผู้ประสบความสำเร็จที่มีชื่อเสียงอย่าง สตีฟ จอส์บ, บิล เกตต์ และอื่น ให้ความสำเร็จกับการทำสมาธิ และนำมาใช้กับบุคคลในองค์กร ตัวอย่างเช่น Google มีการจัดโปรแกรมให้พนักงานเข้ากิจกรรมอบรมเจริญสติ เขาวัดจากการทำวิจัยโดยแบ่งกลุ่มวิศวกรออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่ทำงานเต็มเวลา 100 % กับ กลุ่มที่ทำงานแค่ 80 % แล้วแบ่งเวลาที่เหลือ 20 % มาทำกิจกรรมเจริญสติ พบว่ากลุ่มแรกมักมีปัญหาใจร้อน ทะเลาะกัน แต่กลุ่มที่สองกลับไม่มีปัญหา ทำงานด้วยอย่างราบรื่น และต่างฝ่ายต่างรับฟังกันดี นี่เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ Google ให้ความสำคัญต่อกิจกรรมเจริญสติในองค์กร
ฝึกใจง่าย ๆ เก่งได้อีกเป็นหนังสือธรรมะที่ทำให้เข้าใจว่าการเจริญสติช่วยให้การทำงานออกมามีประสิทธิภาพได้อย่างไร ดร.วรภัทร์ทำให้เรื่องการเจริญสติในพระพุทธศาสนาที่ใครหลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นเรื่องเสียเวลา ให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย จับต้องได้ และ ปฏิบัติไม่ยาก ยังมีความเป็นหนังสือ How to ที่อ่านง่าย มีงานวิจัยมากมายที่พิสูจน์เรื่องนี้มารับรอง ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือธรรมะที่น่าอ่านปฏิบัติตามเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
ทำไมการเจริญสติจึงช่วยแก้เครียดได้ เมื่อเรามีสติ หรือกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ สติจะเป็นตัวกั้นความคิดออกไป ความเครียดเกิดขึ้นจากความคิดที่ไม่ดี ก็จะถูกตัดออกไป แล้วเมื่อความเครียดที่เป็นความทุกข์ละออกไป ความสุขก็จะเกิดขึ้น มีกำลังใจในการทำงานขึ้น เมื่อสมองว่างก็จะมีความคิดที่สามารถแก้ปัญหานั้นได้อัตโนมัติ
แต่สำหรับพนักงานที่อยากพัฒนาศักยภาพการทำงานของตนเองให้ดีขึ้น หรืออยากแก้ปัญหาความเครียดในการทำงาน การฝึกสติด้วยวิธีต่าง ๆ ที่ดร.วรภัทร์แนะนำก็สามารถทำได้ ถึงจะไม่มีเวลามาก เช่น การถือแก้วน้ำเดินด้วยสติ ขณะที่เราจะเดินจากโต๊ะทำงานไปกดน้ำดื่ม หรือเดินไปซื้อกาแฟที่ร้านก็สามารถเดินด้วยสติได้ ซึ่งดร.วรภัทร์แนะนำขั้นตอนปฏิบัติไว้ หรือระหว่างวันพักเบรกอาจเจริญสติด้วยการขบเคี้ยวอาหารว่าง ตัวอย่างที่ดร.วรภัทร์แนะนำคือการคบถั่วลิสงเจริญสติ ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจ ฝึกใจง่าย ๆ เก่งได้อีกยังมีกลยุทธและสาระความรู้อีกมากรอคุณอยู่
เชื่อว่า หากเจ้าขององค์กร หรือผู้บริหารอ่านมาจนถึงหน้าสุดท้าย น่าจะตัดสินใจได้ว่า ควรให้องค์กรของคุณมีสถานที่สำหรับเจริญสติไว้เลยหรือ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้เจริญในงานและธรรม
สามารถสั่งซื่้อและสอบถามได้ที่ >>> www.facebook.com/amarindhamma
หรือ เว็บไซค์อมรินทร์บุ๊ก >>> www.amarinbooks.com
เรียบเรียง : ชนินทร์ ผ่องสวัสดิ์
ภาพ : กฤษดา อนุนาท สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ
บทความน่าสนใจ
ซีเคร็ตรีวิว 9 หนังสือธรรมะน่าอ่าน ที่คุณไม่ควรพลาดใน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 47
ปฏิบัติธรรม ง่าย กว่าที่คิด (ง่ายจริงหรือ ต้องลองอ่าน)
ซีเคร็ตชวนอ่าน ทำไมพุทธจึงเป็น ศาสนาแห่งความจริง
ฃลงโทษด้วยความรัก บทความที่ อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้อ่าน
