วิธีลดความอคติ

วิธีลดความอคติ ปรับตัวให้เข้ากับเจ้านายที่ทำงานไม่เก่ง โดยขุนเขา สินธุเสน (ชมคลิป)

วิธีลดความอคติ ปรับตัวให้เข้ากับเจ้านายที่ทำงานไม่เก่ง โดยขุนเขา สินธุเสน (ชมคลิป)

วิธีลดความอคติ ปรับตัวให้เข้ากับเจ้านายที่ทำงานไม่เก่ง ต้องทำอย่างไร ติดตามชมคลิปกันค่ะ โดยขุนเขา สินธุเสน

วิธีลดความอคติที่มีต่อหัวหน้างานที่ทำงานไม่เก่ง แต่ต้องทำงานร่วมกัน จะต้องคิดยังไง

มีหลายวิธีนะครับในการแก้ไขสิ่งนี้ วิธีแรกเลยเนี่ยก็คือ ขอให้มองว่าคนทุกคนที่ก้าวมาถึงจุดนี้มีอดีตเสมอนะครับ อดีตของเขาคืออะไรเราลองคิดดูให้ดีว่า คน ๆ หนึ่งถ้าเกิดขึ้นมาแล้ว เขาทำงานได้ไม่เก่ง เขาไม่ค่อยจะฉลาดแบบที่เราต้องการ เขาพูดจาไม่ดี หรือว่าเขาดูขี้เกียจอย่างเนี่ยนะครับ

คน ๆ หนึ่งเขาต้องเผชิญอะไรมาบ้างในชีวิต เขาต้องได้รับการเลี้ยงดูแบบไหน ต้องได้รับการศึกษามาแบบไหน ต้องเติบโตมาในครอบครัวอย่างไร เขาถึงจะมาอยู่ยืนอยู่ในจุดนี้

พอเราเข้าใจแล้วว่า เขาก็เป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่อยากจะ ไม่ได้มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตมากนัก ตอนเด็ก ๆ อาจจะถูกพ่อแม่บอกว่า หน้าอย่างแกทำไรไม่ได้หรอก ทำอะไรไม่เจริญหรอก ไม่สำเร็จหรอก ไม่เอาไหนแน่นอน

ทุกอย่างที่คน ๆ หนึ่งเป็น มีที่มา ลองเทียบดูระหว่างคนแบบนั้นกับคนที่พ่อแม่ หรือคนที่เลี้ยงดูตอนเด็ก ๆ ให้กำลังใจว่า เธอทำได้แน่นอน เธอจะเป็นอะไรก็ได้ที่เธอหวัง เธอจะเป็นอะไรก็ได้ที่เธอฝัน เธอทำได้ทุกอย่างลูกพ่อลูกแม่เป็นได้หมดถ้าต้องการอะไร คนเหล่านั้นเมื่อเติบโตมาเป็นหัวหน้าหรือทำงาน 90 % – 100% ก็จะเป็นคนที่มีพลังในการทำงาน

ผมก็คนหนึ่งที่มีกำลังใจ คุณพ่อคุณแม่บอกผมเสมอนะครับ ว่าเธออยากจะเป็นอะไร ลูกอยากจะเป็นอะไรเป็นได้หมดเลยนะครับ หรือว่าแม้แต่ของเพื่อน ของเพื่อนผมที่อยู่ในนิตยสารเดียวกันนี้เนี่ย ก็คือว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ผมเออจำไม่ได้ เออของเขาเนี่ยนะครับจำไม่ได้ละ บอกเขาว่า ลูกจะเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น you can be anything นะครับ

คนที่เขาไม่เชื่อมั่นในตัวเอง แล้วขี้เกียจเนี่ยต้องดูเขาเป็นผู้ทีน่าสงสาร เราอย่าไปอคติต่อเขา แต่ให้เมตตาเขา ว่าเขาทำดีที่สุดในจุดที่เขายืนอยู่แล้วนะครับ ถ้าเรามีเมตตาเราจะเกลียดเขาน้อยลง

สองครับก็คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนทำก็คือ ให้มีสามอย่างนะครับ จำไว้ว่า

เราต้องเลือกระหว่าง เปลี่ยน กับ ปล่อย ถ้าเราไม่เปลี่ยน แล้วก็ไม่ปล่อย เราก็จะตรงกลางคือเปื่อยนะครับ เปลี่ยนก็คือว่าเราเนี่ยต้องไปเปลี่ยนเขา หรือเปลี่ยนตัวเรา อย่างเช่นว่าตัวเราต้องทำงานเก่งขึ้นมองให้เป็นโอกาสสิครับ หัวหน้าไม่เก่งเราจะได้เก่ง เมื่อเราเก่งเราจะได้เป็นหัวหน้าแทนเขาในอนาคต หรือไม่คนอื่น ๆ ก็จะเห็นว่าเราทำงานประสิทธิภาพมีแค่ไหน

เพราะว่าหัวหน้าคนนี้ไม่ได้มีผลกับการทำงานมาก เท่ากับตัวเราที่มีผลต่อการทำงานของตัวเอง หัวหน้าจะแย่แค่ไหนมันอยู่ที่เราต่างหากแสดงศักยภาพได้มากแค่ไหน เวลาคนเขาจะโปรโมทเรา หรือขึ้นเงินเดือนให้เราเขาไม่ได้ดูนะครับว่าหัวหน้าเราดีหรือไม่ดี เขาดูว่าเราดีหรือไม่ดี เพราะฉะนั้นจะไปแคร์มากทำไมว่าหัวหน้าดี ไม่ดี

เลือกตัวแรกเลยครับอยากเปลี่ยน เปลี่ยนเลย เปลี่ยนตัวเองหรือไม่เปลี่ยนตัวเขาให้ได้นะครับ หรือถ้าเปลี่ยนเขาไม่ได้ เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ปล่อยครับ ปล่อยก็คือว่าปล่อยเขาไปให้เขาเป็นอย่างนั้น let go อันแรก คือ let’s go อันที่สอง คือ let go เปลี่ยน ไม่ก็ปล่อย ปล่อยให้เขาเป็นไป ปล่อยตัวเรา ปล่อยใจให้เราสบาย เพราะไม่งั้นเรานั่งอยู่ตรงกลางเนี่ย มันจะเรียกว่าเปื่อยนะครับ

เปื่อยก็คือว่าจะเปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน จะปล่อยก็ไม่ปล่อย เอาแต่บ่นอย่างนั้นพร่ำบ่นทุกวัน ทำไมมันแย่อย่างนี้ เอาแต่นินทาหัวหน้า เอาแต่วิจารณ์เขา แต่ไม่เปลี่ยนแล้วไม่ปล่อยก็จะเปื่อย เราเองก็จะไม่ก้าวหน้า หัวหน้าเองก็จะไม่ได้พัฒนาตัวเอง แล้วชีวิตก็จะไปไม่ถึงไหน

ทั้งทุกข์ แถมยังทึ่มด้วย ทุกข์ ทึ่ม เงินก็ไม่มีนะครับ พูดง่าย ๆ ว่า ทุกอย่างเปื่อยไปหมดเลย งั้นเลือกให้ดีครับจะเปลี่ยนหรือจะปล่อย

แล้วทำตามนั้นเลยนี่คือสิ่งวิธีที่จะเคล็ดลับนะครับ ในการอยู่กับ หรือว่ารับมือกับหัวหน้าที่เรามีอคติด้วยครับ

 

ขอบคุณ คุณขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

การรู้จักตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดข้อคิดย้อนมองตัวเอง จากคุณขุนเขา สินธุเสน (ชมคลิป)

30 ข้อคิดด้านความมั่งคั่ง ความสำเร็จ และความสุข จากขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร

อัศวินอุตุกับปีศาจทั้ง ๘ วรรณกรรมเยาวชนเล่มแรกของ ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร

อยู่กับคำวิจารณ์อย่างไร ให้ใจเป็นสุข โดย ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร (ชมคลิป)

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.