ยา วิเศษ บทความให้แง่คิด โดย พระไพศาล วิสาโล
ในฐานะพยาบาล เกื้อจิตร แขรัมย์ ตระหนักดีว่ากายกับใจนั้นเกี่ยวข้องกันมาก ดังนั้นผู้ป่วยทุกคนที่เธอดูแล นอกเหนือจากการเยียว ยา ร่างกายแล้ว เธอยังให้ความสำคัญกับจิตใจของเขาด้วย
ประสบการณ์อันยาวนานทำให้เธอจัดเจนในการดูแลรักษาใจของผู้ป่วย จนเพื่อน ๆ ในโรงพยาบาลบุรีรัมย์มักขอความช่วยเหลือจากเธอเสมอ
เด็กชายคนหนึ่งอายุ 11 ปี มีอาการปวดหัวตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แม่พาไปรักษาหลายโรงพยาบาล หมดเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ตอนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์นั้น นอกจากปวดหัวอย่างหนักจนอาเจียนแล้ว เด็กยังมีอาการตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
หมอสันนิษฐานว่าเด็กมีเนื้องอกในสมอง จึงส่งตรวจซีทีสแกน แต่ไม่พบความผิดปกติ หมอจึงคิดว่าเด็กอาจมีปัญหาทางจิต แต่ก่อนที่หมอจะส่งเด็กไปหาหมอจิตเวช พยาบาลที่เห็นเหตุการณ์ขอให้เกื้อจิตรมาดูผู้ป่วยรายนี้ เพราะเกรงว่าถ้าเด็กได้รับยาจากหมอจิตเวช อาจจะมึนงงจนเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง
เมื่อเกื้อจิตรไปถึง แม่เด็กเฝ้าแต่ถามว่าลูกเธอจะหายไหม เกื้อจิตรดูอาการของเด็กแล้วถามแม่ว่ามีลูกกี่คน แม่เด็กตอบว่ามีสี่คน
“คนโตเรียนมหาวิทยาลัย หน้าตาดี เรียนเก่ง คนที่สองอยู่ ม.5 เรียนเก่ง คนที่สามคือเขานี่แหละ ส่วนคนที่สี่เป็นผู้หญิงอยู่ ป.2 อายุ 8 ขวบ”
“รักลูกเท่ากันไหม” เกื้อจิตรถาม
“รักเท่ากันเลย” คือคำตอบ
“ลูกสี่คน ถ้ารักลูกเท่ากัน ด่าเท่ากันไหม”
“ไม่เท่ากัน ฉันด่าเจ้าคนป่วยนี่แหละมากที่สุด ทั้งด่าทั้งตี” แม่เด็กยังพูดต่อว่า “มันดื้อค่ะ มีวันหนึ่งฉันด่ามัน ไล่มัน มึงไปให้พ้น ๆ”
“เคยบอกรักลูกคนนี้ไหม”
“ไม่เคยสักที ไม่เคยบอกรักลูก มีแต่ด่ากับตี” เธอยังเล่าต่อว่า “ลูกชายคนนี้โง่มาก ไปโรงเรียนครูก็ด่าว่าควาย ทำไมแกไม่เก่งเหมือนพี่เหมือนน้องแกบ้าง”
คุยไปสักพัก เกื้อจิตรก็ย้อนถามถึงประวัติของแม่เด็ก ซักไปได้หน่อย แม่เด็กก็ร้องไห้ แล้วยอมรับว่าพ่อแม่ไม่ค่อยรักเธอเท่าไหร่ เพราะชอบดุด่าเธอ พอพูดออกมาเธอก็ได้คิดว่า เธอทำกับลูกชายคนนี้เหมือนกับที่พ่อแม่ของเธอทำกับเธอตอนเด็ก ๆ
มาถึงตรงนี้เกื้อจิตรจึงบอกว่า มี “ยาวิเศษ” ที่จะช่วยลูกของเธอได้ นั่นคือ “ให้เธอกลับไปกอดลูก แล้วบอกว่าแม่รักลูกนะ” รวมทั้งบอกตายายที่บ้านด้วยว่าให้ทำ
อย่างเดียวกัน เท่านั้นไม่พอ เกื้อจิตรยังแนะนำให้ไปบอกครูที่โรงเรียนว่าอย่าดุด่าหรือตีเด็กคนนี้อีก
“ไปบอกเลยว่าหมอเกื้อ โรงพยาบาลบุรีรัมย์สั่งมา ถ้าไม่กล้าพูด เดี๋ยวฉันจะไปพูดให้”
หนึ่งเดือนต่อมา เกื้อจิตรตามไปดูเด็ก ปรากฏว่าเด็กไม่มีอาการปวดหัวอีกเลย ปัจจุบันอายุ 20 ปี รูปร่างสูงใหญ่ สุขภาพเป็นปกติ
เป็นเพราะขาดความรัก ถูกต่อว่าจากคนรอบข้างเป็นประจำ เด็กจึงรู้สึกว่าตนไร้คุณค่า ส่งผลให้อมทุกข์และเครียดหนักจนปวดหัวเรื้อรัง กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็น เพราะป่วยใจ กายจึงป่วย ไม่ว่ารักษากายอย่างไรก็ไม่หายป่วย ต่อเมื่อใจได้รับการเยียวยาด้วยความรัก กายจึงกลับมาเป็นปกติ
ความรักนั้นเป็น “ยาวิเศษ” ใครที่ป่วยเรื้อรังทั้ง ๆ ที่ไม่พบความผิดปกติในร่างกาย ยาวิเศษขนานนี้อาจช่วยได้
ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 233
ผู้เขียน/แต่ง : พระไพศาล วิสาโล
บทความน่าสนใจ