การบรรลุธรรมของคนมีกิเลสหนา เรื่องน่าคิดจากพระพุทธพจน์
หลายคนมักกล่าวว่า “คนกิเลสหนา บรรลุธรรมไม่ได้” และเชื่อกันแบบนี้หลายคน แต่พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องนี้ไว้ในพระสูตรที่มีชื่อว่า วิตถารสูตร ถึง การบรรลุธรรมของคนมีกิเลสหนา ไว้ว่า
บุคคลบางคนในโลกนี้ ตามปกติเป็นผู้มีความกำหนัดยินดีในกาม (ราคะ) ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสอันเกิดจากความกำหนัดยินดีในกามตลอด
เป็นผู้มีความโกรธ (โทสะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความโกรธตลอด
เป็นผู้ที่มีความหลง (โมหะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความหลงตลอด
แต่อินทรีย์ 5 ประการ ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา เหล่านี้มีความแรงกล้า เขาย่อมบรรลุธรรมอย่างฉับพลัน แต่หากคนผู้นั้นมีกิเลสเป็นราคะ โทสะ และโมหะเบาบาง ไม่ได้มีความทุกข์โทมนัสจากราคะ โทสะ และโมหะ แต่อินทรีย์ทั้ง 5 ประการนี้อ่อน เขาย่อมได้บรรลุมรรคผลล่าช้า การบรรลุธรรมจึงขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 ประการ
ระดับของการบรรลุธรรม
การบรรลุธรรมของคนที่มีกิเลสหนาถึงจะขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 แต่ก็มีความช้าและความเร็วแตกต่างกันไป พระพุทธเจ้าจัดระดับไว้ 4 ระดับคือ
-
ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา
-
ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา
-
สุขาปฏิปทา ทันธาภิญญา
-
สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา
ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา หมายถึง ผู้ที่มีกิเลสหนา แต่มีอินทรีย์ 5 ประการบาง จึงบรรลุธรรมได้ช้า
ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา หมายถึง ผู้ที่มีกิเลสหนา แต่มีอินทรีย์ 5 ประการแรงกล้า จึงบรรลุธรรมได้ไว
สุขาปฏิปทา ทันธาภิญญา หมายถึง ผู้ที่ไม่มีกิเลส มีอินทรีย์ 5 ประการบาง จึงบรรลุธรรมช้า
สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา หมายถึง ผู้ที่ไม่มีกิเลส มีอินทรีย์ 5 ประการแรงกล้า จึงบรรลุธรรมได้ไว
ทำไมการบรรลุธรรมจึงเกี่ยวข้องกับอินทรีย์ 5
อินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา เป็นองค์ธรรมที่ช่วยให้ลาภะ โทสะ และโมหะ ลดลง เมื่อมีความเชื่อมั่น (ศรัทธา) ต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า จะเกิดความเพียร (วิริยะ) การระลึกรู้ได้ก็จะตามมา (สติ) เมื่อเกิดการระลึกได้สมาธิก็จะตามมา เมื่อมีสมาธิผลที่ได้คือปัญญา ผู้บรรลุอรหันต์ล้วนผ่านองค์ธรรม 5 ประการนี้
ตัวอย่างเช่น เจ้าหญิงอภิรูปนันทา เป็นสตรีชนชั้นสูงที่มีความงามเป็นเลิศ จึงมีอุปนิสัยรักสวยรักงาม พอผนวชเป็นภิกษุณี ก็ยังไม่ทรงละอุปนิสัยรักสวยรักงามอยู่ดี พระพุทธเจ้าทรงต้องการโปรดเจ้าหญิงอภิรูปนันทาให้ทราบถึงโทษของการรักสวยรักงาม
พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตสตรีนางหนึ่งขึ้นมาให้มีความงามประดุจนางฟ้า เจ้าหญิงทรงหลงใหลแล้วชมว่า สตรีนางนี้มีความงดงามมากกว่าสตรีใดใดที่้คยพบเห็นมา ไม่นานสตรีนางนี้ก็ค่อย ๆ แก่ลง แล้วตายกลายเป็นศพ และเน่าส่งกลิ่นเหม็น แล้วกลายเป็นโครงกระดูกในที่สุด
เมื่อเจ้าหญิงอภิรูปนันทาทอดพระเนตรดังนั้นแล้วทรงเชื่อ (ศรัทธา) ในคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วว่าการยึดติดในความงามเป็นสิ่งที่เที่ยง แท้ที่จริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เมื่อเจ้าหญิงทรงพิจารณาร่างของสตรีนางนั้นด้วยตั้งใจ (วิริยะ) เมื่อทรงสังเกตจนถึงตอนที่สตรีนางนั้นสิ้นลม การระลึกรู้ (สติ) ถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าก็บังเกิดขึ้นในบัดนั้นทันที พอทรงมีสติพิจารณาใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว จึงบังเกิดความสงบ (สมาธิ) ขึ้น เจ้าหญิงอภิรูปนันทาเกิดความเข้าพระทัยว่า สิ่งที่พระนางหลงใหล (โลภะ) ในความงามนั้น เป็นความเขลาเบาปัญญา ทำให้พระนางตรึงอยู่ในกระแสแห่งการเวียนว่ายตายเกิดต่อไป
พระนางทรงข้ามฝั่งแห่งน่านน้ำอวิชชามาถึงฝั่งแห่งวิชชา อันเกิดจากการพิจารณาร่างของสตรีเนรมิต จนกระทั่งทำให้พระนางบรรลุธรรม
เจ้าหญิงอภิรูปนันทา เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าคนที่มีกิเลสหนา บรรลุธรรมได้นั้นมีอยู่จริง แต่อินทรีย์ 5 ของพระนางพร้อม พระพุทธเจ้าทรงเห็นจึงได้โปรดพระนางด้วยวิธีนี้จนพระนางบรรลุธรรม
ที่มา : วิตถารสูตร
บทความน่าสนใจ
6 พระสูตร ที่เทวดาฟังแล้วบรรลุธรรมมากที่สุด
ลูกที่มีอายุมากกว่าพ่อ นิทานธรรมะสอนสัจธรรมของ การบรรลุธรรม ไม่เลือกวัย
พระนางเถริกาผู้บรรลุธรรมจากการทำครัว
ประสบการณ์ ลัด สั้น ถูก ตรง สู่การบรรลุธรรม โดย คุณเมตตา อุทกะพันธุ์
บิทเติ้ล อาร์สยาม กับเพลงธรรมะยอดวิว 50 ล้าน 5 นาทีบรรลุธรรม