สิ้นแล้วพระนักพัฒนาและหมอยาแห่งล้านนา ครูบาอินคำ อินทวัณโณ แห่งวัดไชยสถาน
สิ้นครูบาพระนักพัฒนาและหมอยาแห่งล้านนา ครูบาอินคำ อินทวัณโณ ละสังขารเมื่อเวลา 00.03 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 รวมศิริอายุได้ 90 ปี 3 เดือน 71 พรรษา
ขอนำเสนอประวัติของท่านพระอาจารย์ผู้เป็นพระนักพัฒนาตัวอย่าง และพระภิกษุผู้พัฒนาตนเองให้มีความรู้ในสรรพวิชาหลายด้าน ครูบาอินคำ อินทวัณโณ หรือ พระเดชพระคุณพระมงคลสิริ (เจ้าคุณปู่) หรือ พระครูวรวรรณาภรณ์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงสังฆคุณของครูบาอินคำ อินทวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยสถาน
เด็กชายอินคำผู้เป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน
นามเดิมของท่านคือ “อินคำ สมผ่อง” บิดาชื่อนายอ้าย ส่วนมารดาชื่อนางเรือนแก้ว ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ 19 เดือนมีนาคม พ.ศ.2471 ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง เป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัว มีพี่สาว 2 คน
สมัยเยาว์วัย ท่านเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ซุกซนเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ชอบเข้าไปเล่นและสนทนากับพระและสามเณรภายในวัดใกล้บ้าน (วัดไชยสถาน) ท่านจึงมีความผูกพันกับวัดแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่เป็นเด็กมีกิริยามารยาทเรียบร้อยจึงเป็นที่เอ็นดู-รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน
เข้าสู่รั้วพระธรรม และเป็นหมอยาลูกศิษย์ครูบาขันธวงศ์
เมื่ออายุถึงเกณฑ์เข้าเรียน ท่านเข้าศึกษาที่โรงเรียนประชาบาลจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน
ท่านมีความสนใจศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่เป็นทุนเดิม จึงขออนุญาตทางครอบครัวบวชเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 17 ปี ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2488 โดยมีพระครูสิทธิวรกุลแห่งวัดศรีคำชมภูเป็นพระอุปัชฌาย์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดไชยสถาน เป็นลูกศิษย์ของพระครูบาคันธวงศ์ คันธวังโส เจ้าอาวาสวัดไชยสถาน ได้เรียนรู้วิธีการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ศึกษาพระธรรมวินัย และตำรายาสมุนไพรจนมีความเชี่ยวชาญ
เป็นเจ้าอาวาสวัดไชยสถาน และพัฒนาจนวัดเจริญ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 พระครูบาคันธวงศ์มรณภาพลง ท่านจึงขึ้นเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดไชยสถาน ซึ่งท่านก็ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไชยสถานอย่างสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2496
ครูบาเป็นพระนักพัฒนา ศึกษาหาความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม ทางธรรมท่านเป็นนักธรรมชั้นเอก ทั้งยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และกรรมการตรวจข้อสอบที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
ส่วนทางโลกท่านเข้าอบรมครูที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ มา 4 สมัย ด้านเวชศาสตร์ก็มีภูมิความรู้จนสามารถผลิตและปรุงยา รักษาให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากหายจากโรคภัยอยู่เสมอ ไม่ว่าคนป่วยจะรวยหรือจนท่านก็รักษาให้อย่างเท่าเทียมกัน หากมีค่ารักษาท่านก็รับ หากไม่มีท่านก็ไม่รับ ส่วนด้านพัฒนา ท่านพัฒนาถาวรสถานภายในวัดจนเจริญ รวมไปถึงวัดในต่างแดน เช่น ลาว และเมียนมาด้วย
เมื่อ พ.ศ. 2523 เป็นได้เป็นพระครูวรวรรณาภรณ์ และพัฒนาวัดไชยสถานจากวัดที่มีพื้นที่น้อย จนคนในบริเวณนั้นเรียกว่า วัดน้อย จนมีพื้นที่กว้าง 10 ไร่ เศษ รวมทั้งถาวรสถานที่สร้างความเจริญให้แก่วัดและชุมชน
ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
ครั้งหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณได้รับความเคารพและกล่าวขานไปทั่วประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2516 ครูบาอินคำซึ่งตอนนั้นยังเป็นพระหนุ่ม มีความตั้งใจไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน จึงให้คนรถและลูกศิษย์คนหนึ่งขับพาท่านไปยังวัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ด้วยในขณะนั้นถนนหนทางยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน กว่าจะไปถึงวัดดอยแม่ปั๋งก็ลำบากยากเข็ญเหลือเกิน แต่พอไปถึงหลวงปู่แหวนก็แปลกใจที่มีพระหนุ่มมาหา ท่านจึงรับครูบาอินคำเป็นศิษย์ และสอนวิชาวิปัสสนากรรมฐานให้ท่าน ครูบาอยู่ปรนนิบัติหลวงปู่แหวนระยะหนึ่งแล้วขอตัวกลับไปดูแลวัดไชยสถาน ท่านนำความรู้ด้านวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณมาปฏิบัติและสอนแก่ญาติโยม
มรณภาพ
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 00.03 น. ครูบาอินคำ อินทวัณโณ มรณภาพด้วยโรคเบาหวาน สิริอายุ 90 ปี 3 เดือน 71 พรรษา ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ที่มา :
www.youtube.com/ครูบาอินคำวัดไชยสถาน
บทความน่าสนใจ
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ พระนักปฏิบัติแห่งแดนอีสาน มรณภาพอย่างสงบเมื่อวานนี้
หลวงปู่บุญฤทธิ์ละสังขาร สูญเสียอริยสงฆ์สองฝั่งโลก
สิ้นแล้ว สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)
ไม่เป็นอะไรกับอะไร เรื่องเล่าช่วงเวลาก่อน หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ มรณภาพ