ถ้าพูดถึงเจ้าของฉายา “แม่ชีแห่งวงการบันเทิงไทย” คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากกิ๊ก - มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ใครจะเชื่อว่ากิ๊กเคยต่อต้านการปฏิบัติธรรมแบบหัวชนฝามาแล้ว
ย้อนกลับไปสมัยจบปริญญาตรีใหม่ ๆ ตอนนั้นกิ๊กไม่สนใจธรรมะเลย มีเที่ยวบ้าง ดื่มบ้าง ตามประสาวัยรุ่น ช่วงนั้นสมาชิกทุกคนในบ้านกิ๊กไปปฏิบัติธรรมกันหมด เพราะคุณพ่อคุณแม่สนับสนุน มีกิ๊กคนเดียวที่ยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว เราจึงทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้บ่อยครั้ง สุดท้ายคุณพ่อคุณแม่จัดการขั้นเด็ดขาด เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าให้เองเสร็จสรรพ แล้วจับกิ๊กไปส่งถึงยุวพุทธิกสมาคมฯเลย
กิ๊กขอสารภาพว่า แทบไม่ได้อะไรเลยจากการปฏิบัติครั้งแรก เพราะใจคิดค้านอยู่ตลอด มาเริ่มเข้าใจธรรมะจริง ๆ ก็ต่อเมื่อได้ไปปฏิบัติอีกครั้งในอีกสามปีต่อมา ตอนนั้นเองที่กิ๊กได้เข้าใจว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มีเหตุ - ปัจจัยเสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกเกิดได้ในทุกนาทีที่ยังมีลมหายใจ ด้วยการกระทำของเราเอง”
นอกจากพุทธศาสนาจะทำให้กิ๊กได้หลักในการดำเนินชีวิตดี ๆ และวิธีคิดใหม่ ๆ แล้ว กิ๊กยังได้รู้วิธีทำบุญที่หลากหลายขึ้น เช่น การทำบุญไม่ใช่แค่ให้เงินหรือวัตถุสิ่งของเสมอไป แค่น้อมกาย วาจา ใจให้คิดดี ทำดี และพูดดี ละเว้นความชั่ว ก็เป็นบุญแล้ว ยิ่งถ้าทำได้ทุกวันก็ยิ่งดีและถ้าจะให้ได้บุญสูงสุดก็ต้องหมั่น “เจริญสติ” ด้วย เพราะจะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้ง เข้าใจโลก เข้าใจทุกข์ เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข กิ๊กจึงฝึกเจริญสติอย่างต่อเนื่องมาถึงวันนี้
กิ๊กคิดว่าแค่สร้างปัญญาแก่ตัวเองอย่างเดียวคงไม่พอ เราน่าจะให้ปัญญาแก่คนอื่นด้วย สังคมจะได้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป กิ๊กจึงเริ่มชักชวนคนรู้จักไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ เพื่อนนักแสดง คนในกองถ่าย ฯลฯให้ลองไปปฏิบัติธรรมดูบ้าง ต่อมากิ๊กก็จับมือกับกลุ่มกัลยาณมิตร จัดคอร์สปฏิบัติธรรมขึ้น โดยกิ๊กจะเชิญทั้งวิปัสสนาจารย์ชาวไทยและนิมนต์พระวิปัสสนาจารย์ชาวพม่ามาให้ความรู้
กระบวนการสร้างปัญญาอีกรูปแบบหนึ่งที่กิ๊กชอบมากนั่นก็คือ สื่อธรรมะ ทั้งหนังสือ ซีดี และดีวีดี เพราะเข้าถึงคนได้ง่ายและเร็ว ดังนั้นพอกิ๊กมีโอกาสไปเจอสื่อธรรมะใดก็ตามที่ฟังแล้ว อ่านแล้ว ดูแล้วรู้สึกว่าดี ทำให้มีความสุข กิ๊กก็จะไปสรรหามาไว้แจกจ่ายคนรอบข้างแม้กระทั่งแม่ค้า กิ๊กก็มักจะให้ เพราะอยากกระจายบุญไปให้ทั่ว ๆ
แค่กิ๊กได้เห็นว่ามีคนอ่านหนังสือธรรมะที่แจกไป กิ๊กก็ปลื้มใจและมีความสุขแล้วค่ะ หรือถ้าวันนี้เขายังไม่อ่าน ไม่สนใจก็ไม่ว่ากันเพราะเรื่องอย่างนี้กิ๊กเชื่อว่าธรรมะจะจัดสรรเอง
ทุกวันนี้กิ๊กไม่ได้มีแค่หนังสือธรรมะฉบับภาษาไทยไว้แจกกัลยาณมิตรคนไทยเท่านั้น แต่กิ๊กยังมีหนังสือธรรมะภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และพม่าด้วยค่ะ เอาไว้แจกเพื่อนต่างชาติ แม้แต่คนงานพม่าที่บ้าน กิ๊กก็พยายามหามาให้เขาอ่าน เพราะถือว่าเราต้องให้ธรรมะกับคนใกล้ตัวก่อน
“กายคตาสติ” หรือที่กิ๊กเรียกเองว่า “หนังสือศพ” เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กิ๊กถือว่าเลอเลิศที่สุดชอบมาก เพราะเนื้อหาจะพูดถึงหลักธรรมชาติความจริงของร่างกายมนุษย์อันจะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ รูปประกอบเป็นรูปสีทั้งหมด อ่านแล้วจะได้ปลงค่ะ
ตอนนี้กิ๊กจะพกซีดีธรรมะของท่านอาจารย์พรหมวังโส “ชวนม่วนชื่น”กับซีดีธรรมะของท่านชยสาโรภิกขุ “เรื่องท่านเล่า” ไว้แจกค่ะ ทั้งสองเรื่องเป็นธรรมะที่กิ๊กฟังแล้วมีความสุขมาก เอาไปแจกใครเขาก็ชอบ อย่างน้ำผึ้ง (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ก็ชอบซีดีชุดนี้มาก ถึงกับสั่งไปเป็นพัน ๆ แผ่นเอาไว้แจกต่อ
หนังสือสวดมนต์นี้กิ๊กพิมพ์มา 7 รอบแล้ว แต่กว่าจะเสร็จต้องใช้ทรัพยากรบุคคลเยอะมาก ทั้งช่วยพิมพ์ช่วยตรวจปรู๊ฟ ช่วยออกแบบปก กว่าจะได้หนังสือสวดมนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดต้องใช้เวลานานมาก
แรก ๆ พอรู้ว่าต้องไปบรรยายธรรม กิ๊กจะเครียดมากเพราะกิ๊กไม่ค่อยมีจิตวิทยาในการพูด นอกจากจะพูดแล้วไม่ฮา กิ๊กยังเป็นคนที่พูดแล้วดูเครียดเพราะใจคิดแต่อยากจะให้ ให้ ให้อย่างเดียว ดังนั้นก็ต้องค่อย ๆ ปรับ กิ๊กจะบอกตัวเองว่า “เรามาแชร์ประสบการณ์ว่าปฏิบัติธรรมแล้วเราได้อย่างนี้ เชื่อไม่เชื่อก็ลองไปพิสูจน์ดู” หลัง ๆ กิ๊กก็จะเกร็งน้อยลงและมีความสุขในการบรรยายธรรมมากขึ้น
กิ๊กขอทิ้งท้ายเรื่องการทำบุญด้วยการให้ไว้สักนิดว่า ถ้าคิดอยากจะให้อะไรใคร ขอให้มั่นใจก่อนว่าของชิ้นนั้นได้มาอย่างบริสุทธิ์จริง ๆ จากนั้นพอถึงเวลาที่จะให้ ตัวเราเองก็ต้องมีความสุขทั้งก่อนทำ ขณะทำ และเมื่อทำไปแล้ว คิดถึงทีไรก็มีความสุขไม่เสียดาย เมื่อนั้นจึงจะเป็น “บุญ” อย่างแท้จริงค่ะ
เรื่อง วรลักษณ์ ผ่องสุขสวัสดิ์
ภาพ วรวุฒิ วิชาธร