จุดเริ่มต้นของไวรัลน้ำใจล้นหลามของคนในโลกโซเชียลคือ ลิลิต มาร์คัส (Lilit Marcus) บรรณาธิการของ CNN Travel ซึ่งเป็นคนริเริ่มในการช่วยประกาศหา ผู้บริจาคไต ในครั้งนี้
เรื่องมีอยู่ว่า บ่ายวันหนึ่ง ลิลิตแวะไปซื้อของที่ห้างทาร์เก็ตแถวบ้าน ขณะที่กำลังเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ เธอก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนหันหลังดูของที่ชั้น สิ่งที่สะดุดตาเธอคือ เขาสะพายเป้สีดำบนหลังและบนเป้แปะกระดาษสีขาวเขียนว่า “ต้องการไตให้ภรรยา, B+” และตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ( In need of a kidney for my wife, B+. 917-442-6202.)
ด้วยสัญชาตญาณนักข่าว ลิลิตรีบถ่ายภาพเขาไว้ทันก่อนที่เขาจะเดินจากไป ตามปกติลิลิตจะรังเกียจการถ่ายภาพผู้อื่นแล้วนำไปโพสต์โดยที่เจ้าตัวไม่อนุญาต แต่ครั้งนี้เธอตัดสินใจโพสต์ลงทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอ เพราะเป็นภาพด้านหลังไม่เห็นหน้าชายผู้นั้น และข้อความบนกระดาษเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับชีวิตคน
Here is a photo I took at my Target yesterday and can't stop thinking about. pic.twitter.com/gbzF47AqCy
— Lilit Marcus (@lilitmarcus) December 22, 2018
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ภาพของชายคนนั้นซึ่งเธอทราบชื่อในภายหลังว่า เรย์มอนด์ ธอมป์สัน (Raymond Thompson) ก็กลายเป็นไวรัลที่แชร์กันกระหึ่มโลกโซเชียล รวมทั้งเซเล็บคนดังอย่าง ดาราตลก Zach Braff นักเทนนิสในตำนาน Martina Navratilova ดาราฮอลลีวูด Evan Rachel Wood และ Sarah Hyland ก็ช่วยแชร์ภาพนี้ ณ เวลานี้มียอดไลค์เกือบ 4 หมื่น และรีทวีตเกือบ 3 หมื่นครั้ง
เรย์มอนด์อาศัยอยู่ในบรู๊คลิน, นิวยอร์ก กับภรรยา ไมเลน (Mylen) และลูกสาววัย 4 ขวบชื่อเรเชล เรย์มอนด์ไม่เล่นทวิตเตอร์ แต่เขารู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อโทรศัพท์เริ่มดัง รวมทั้งมีข้อความส่งมาจากเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จักจากทั่วโลก ทุกสายทุกข้อความคือคนแปลกหน้าที่เสนอตัวบริจาคไตให้ไมเลน
ไมเลนเป็นโรคไตตั้งแต่สองปีที่แล้ว ทุกวันนี้เธอต้องไปศูนย์ฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 3 ชั่วโมง สมาชิกครอบครัวทั้งของไมเลนและเรย์มอนด์บริจาคไตให้เธอไม่ได้ เพราะตรวจแล้วไม่มีใครที่แมทช์กับเธอเลย เรย์มอนด์ตัดสินใจติดป้ายไว้บนหลังเพราะได้แรงบันดาลใจมาจาก ร็อบ เลโบวิทซ์ (Rob Leibowitz) ซึ่งสกรีนเสื้อไว้ข้างหลัง ขอผู้บริจาคไต และร็อบก็ได้ไตมาช่วยต่อชีวิต
สิ่งที่เรย์มอนด์ต้องการคือไตเท่านั้น เขาจึงไม่ได้เปิดรับบริจาคเงินในเว็บ GoFundMe เพราะเขามีค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาและค่ายาแล้ว ขาดแต่ไตเท่านั้น เมื่อมีคนเห็นป้ายบนหลังของเขาและเดินเข้ามายื่นเงินให้ เขาจึงขอบคุณในน้ำใจและปฏิเสธไปอย่างสุภาพทุกครั้ง
เมื่อเกิดปรากฏการณ์โลกโซเชียลแห่แหนยื่นมือมาช่วยอย่างล้นหลาม ครอบครัวธอมป์สันรู้สึกท่วมท้นในหัวใจอย่างยากเกินบรรยาย ทุกคนซาบซึ้งกับน้ำใจของคนแปลกหน้าจากทั่วโลก เรย์มอนด์เริ่มติดต่อผู้ที่ต้องการบริจาคไตให้ภรรยาโดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เขาฝากบอกว่า อยากให้คนที่แข็งแรงสุขภาพดีไปลงชื่อบริจาคไตไว้ เฉพาะในสหรัฐอเมริกาก็มีคนนับแสนลงชื่อรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนไต และมีเพียง 20% เท่านั้นที่เข้ากันได้ ดังนั้นกว่าผู้ป่ายจะได้รับไตก็ต้องรอนานมาก
เรื่องราวของเรย์มอนด์และไมเลนทำให้ลิลิตตัดสินใจไปลงชื่อเป็นผู้บริจาคไขกระดูกและบริจาคเลือด นอกจากนั้นเธอยังช่วยรณรงค์ในเรื่องนี้อีกด้วย
การบริจาค ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรืออวัยวะ ย่อมเป็นกุศลทั้งสิ้น
เรียบเรียง ชนาฉัตร
ภาพ CNN, @lilitmarcus, boredpanda