5 วิธี รักษาความสัมพันธ์ ให้ดีแม้ว่าจะเป็นสถานะอะไรก็ตาม -Goodlifeupdate

5 วิธี รักษาความสัมพันธ์ ให้ดีแม้ว่าจะเป็นสถานะอะไรก็ตาม

ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะอะไร กับใครก็แล้วแต่ เราก็ล้วนอยากที่จะทำให้ ความสัมพันธ์ ของเราเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน วันนี้ Goodlife เลยรวบรวมวิธีต่างๆที่จะช่วยทำให้เรา รักษาความสัมพันธ์ ที่ดีให้แก่กัน ทำให้ทั้งเราและเขาอยู่ด้วยกันด้วยความสบายใจ ราวกับเป็นsave zone ของกันและกัน มาฝากค่ะ จะมีอะไรบ้างลองไปดูกัน

รู้จักที่จะ “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ”

สำหรับคำว่า “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ” เป็นคำที่มีความหมายมากแม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆก็ตาม แต่น่าแปลกที่ใครหลายๆคนไม่กล้า หรือไม่อยากที่จะพูดทั้ง 2 คำนี้ออกมาเสียเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกับคนในครอบครัว เพื่อน คนที่ทำงาน คนรัก คนคุย หรือจะใครก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนกล้าและรู้จักที่จะขอบคุณในสิ่งดีๆที่เขามอบให้แก่เรา ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะแน่นอนว่าคนฟังย่อมรู้สึกดีใจ หรือมีความสุขที่เขาจะได้รับการขอบคุณจากใจของเรา ยิ่งเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอาจจะมองข้ามไป แต่เรากลับรู้จักที่จะขอบคุณ เขาก็จะยิ่งซึ้งใจ และอยากจะมอบความสุขให้แก่เรามากขึ้นเท่านั้น และในคำว่า “ขอโทษ” ก็ด้วยเช่นกัน มันไม่ใช่คำที่ยากเลยที่เราจะพูดมันออกมา ยิ่งเป็นเรื่องที่เราทำผิด เรายิ่งต้องรู้จักที่จะขอโทษ การกล่าวคำว่าขอโทษไม่ได้แปลว่าเราจะเสียศักดิ์ศรี หรือแปลว่าเรานั้นแพ้เสมอไป แต่มันหมายถึงการที่เรารับรู้ว่าเราผิด เรารู้จักที่จะยอมรับผิด และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ไม่เพียงเท่านี้การที่เรารู้จัก “ขอโทษ” แม้ว่าเราจะไม่มั่นใจว่าเราทำผิดไปรึเปล่า ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้ดียิ่งกว่าเดิมอีกด้วย เพราะแปลว่าเรานั้นใส่ใจความรู้สึกของเขา กลัวว่าจะไปทำอะไรให้เราไม่พอใจ หรือลำบากรึเปล่า ดังนั้นอย่ากลัวที่จะต้องกล่าวคำว่า “ขอโทษ” และ “ขอบคุณ”

ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ไม่ใช่แข่งกันดี

แน่นอนว่าใครๆก็อยากจะมีคนที่คอยซัพพอร์ตเรา ไม่ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม แค่รับฟัง พยายามทำความเข้าใจ หรือช่วยเหลือกัน ก็จะเป็นการสร้างพลังบวกให้แก่กันแล้ว ลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนถ้าทั้งเราและเขา ต่างพยายามที่จะทำความเข้าใจกันและกัน ช่วยเหลือกันโดยไม่ได้รู้สึกว่ามันฝืน เหนื่อยเกินไป หรือเกินกำลัง ไม่ใช่ต่างคนต่างพยายามจะทำตัวให้ดีกว่าอีกคน สื่อว่ารักเขามากกว่าที่เขารักเรา หรือเรานั้นอยู่สูงกว่าเขา เหนือกว่าเขา เพราะนอกจากเราจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว ยังเป็นการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ไปด้วยก็ได้ จะดีกว่ามั้ยถ้าเราจะจับมือแล้วก้าวไปพร้อมๆกัน ถ้าอีกคนเหนื่อย หรือลำบากที่จะก้าวต่อ อีกคนก็ช่วยผลักดันให้เขามีแรงก้าวต่อไปได้

เข้าใจกันและให้คำปรึกษากันให้เหมือนว่าเป็น “เพื่อน” กัน

มันไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นได้แค่ “เพื่อน”กันนะคะ แต่หมายถึงการที่เราสามารถเข้าใจเขา และช่วยเหลือให้คำแนะนำ คำปรึกษาราวกับว่าเป็นเพื่อนกันแม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อนกันก็ตาม ก็เหมือนกับการที่เวลาเรามีเรื่องอะไรหนักใจ หรืออยากจะระบาย รวมไปถึงอยากจะแชร์เรื่องราวหรือเม้าท์มอยให้เพื่อนฟังนั่นแหละค่ะ แต่ถ้าเราลองกล้าที่จะเล่าให้คนรัก คนคุย หรือแม้แต่ครอบครัวฟัง แล้วเขาสามารถให้คำปรึกษา หรือรับฟังเรา และเข้าใจเราเหมือนกับว่าเป็นเพื่อนกันได้ นั้นแปลว่าทั้งเราและเขาได้ทำลายกำแพงอีกชั้นไปแล้ว เรามีความเชื่อใจกัน ไว้วางใจกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นนั่นเอง ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่เราดีใจที่เขาเล่าเรื่องต่างๆ หรือขอคำปรึกษาจากเรานั่นเอง

ย้อนเวลาไปในอดีตด้วยกันบ้างก็สนุกดี

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยผ่านโมเม้นท์การพูดคุยเรื่องราวในอดีตที่ทำให้บรรยากาศเฮฮา สนุกสนานไปกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่ากับคนรักก็ด้วยเช่นกัน ลองพูดคุย เปิดรูปหรือย้อนเรื่องราวในอดีตที่เคยผ่านมาด้วยกัน อาจจะจัดทริปไปเที่ยวในเดทแรก หรือไปย้อนเวลาในตอนที่เจอกันครั้งแรก ก็จะช่วยทำให้เราสนุกสนาน หรือสร้างโมเม้นท์ดีๆให้แก่กัน ไม่ว่าอดีตที่ผ่านมาของเราจะดีหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องเรียกเสียงหัวเราะให้กันและกันได้แน่นอน

อย่าหวังแต่จะได้ แต่ต้องให้เขาบ้าง

ทุกคนล้วนอยากที่จะมีความสุขกับคนรัก และชื่นชอบเวลาคนรักทำอะไรให้เรามีความสุข เช่นกันเราเองก็ควรที่จะให้เขาบ้าง ไม่ใช่การที่เราจะคิดแต่ว่า เขาสิต้องเป็นคนให้เรา ลองมองในมุมกลับกันว่า การที่เรามีความสุขจากการที่เขาให้ความรัก ความเอาใจใส่เราไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เขาก็คงจะอยากมีความสุข หรือรู้สึกดีๆจากการที่เราให้ความรักแก่เขา เอาใจใส่เขาเช่นกัน ดังนั้นเราจึงความที่จะให้บ้าง เหมือนที่เขามอบความสุข มอบความรักให้แก่เรา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com