เปลี่ยน “เดี๋ยวก่อน” เป็น “ตอนนี้” เลิกนิสัย “คิดแล้วไม่ทำ”

เปลี่ยน “เดี๋ยวก่อน” เป็น “ตอนนี้”
เลิกนิสัย “คิดแล้วไม่ทำ”

หลายๆ คนอาจจะเคยมีประสบการณ์คิดไอเดียอะไรบางอย่างออกมาได้มากมาย แต่ถึงเวลาจริง ก็ไม่ได้ทำอะไรออกมาอย่างที่คิดสักที พอปล่อยเวลาให้ผ่านไปเนิ่นนาน ก็เริ่มขี้เกียจจนกลายเป็นล้มเลิกแผนการนั้นไปเลย

หากเรากำลังเบื่อหน่ายกับนิสัย “คิดแล้วไม่ทำ” แบบนี้ มาลองเปลี่ยนตัวเราเป้นคนใหม่ ด้วยการ “คิด แล้ว ทำ” กันค่ะ ❤

::: “ความกังวล” ยิ่งคิดก็ยิ่งเพิ่ม :::
สาเหตุยอดนิยมอย่างหนึ่งของคน “คิด แล้ว ไม่ทำ” คือ “ความกังวล”
เรากลัวว่าเมื่อลงมือทำแล้วจะประสบปัญหา หรือพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ เราจึงต้องคิดวางแผนอย่างถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะลงมือทำ
จนหลายครั้งที่อาจรู้สึกท้อไปเสียก่อนที่จะได้เริ่มลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง

ที่จริงแล้ว ความกังวลนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งมีเพิ่มขึ้น พอกังวัลเรื่องหนึ่ง เราก็จะพาลคิดกังวลในเรื่องต่อๆไปตามมาอีกมากมาย จนกลายเป็นความกังวลที่ทบเท่าทวีคูณ จนไม่กล้าลงมือทำเสียที

พยายามคิดกังวลให้น้อยลง ปล่อยใจให้สบาย มองและวางแผนตามความเป็นจริง แล้วลงมือทำตามที่คิดกันเถอะค่ะ

 ::: ประเมินความเสี่ยงที่เรารับได้ :::
เตรียมใจเอาไว้ว่าความผิดพลาดทั้งหลายนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ในขณะที่ความผิดพลาดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ ความสำเร็จก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ลองชั่งน้ำหนักดูว่า มันคุ้มที่จะเสี่ยงหรือไม่ ถ้าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงก็เลิกเกรงกลัว แล้วลุยมันไปให้เต็มที่เลยค่ะ

 

 ::: ก้าวออกจาก “พื้นที่ปลอดภัย” :::
หลายคนรู้สึกหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ในอนาคต ไม่พร้อมรับความเสี่ยง กลัวว่าหากลงมือทำอะไรลงไปแล้ว ผลลัพธ์จะไม่เป็นอย่างที่ต้องการ

ยกตัวอย่างเช่น เราตัดสินใจไม่ไปพบลูกค้า เพียงเพราะกลัวว่าลูกค้าจะปฏิเสธ หรือ เราแอบชอบใครสักคน แต่ไม่บอกรักเขา เพียงเพราะกลัวว่าจะถูกเขาปฏิเสธ
การกระทำเช่นนี้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่ใน “พื้นที่ปลอดภัย”
แต่ที่จริงแล้ว “ความปลอดภัย” ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียโอกาส
คุณได้ปิดกั้นโอกาสของตัวคุณเองให้เหลือศูนย์ไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นเสียแล้ว

ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลงมือทำ และเมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นดังที่คาดหวังไว้ อย่างน้อยคุณก็ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ และได้รับรู้ผลลัพธ์ที่แท้จริงโดยไม่ต้องคาดเดาอีกต่อไปแล้ว

::: ไม่ลองไม่รู้ :::
คนเรา ล้มบ้าง ผิดพลาดบ้าง สำเร็จบ้าง สลับๆ กันไปบ้างก็ได้ ถือคติว่า “ไม่ลองไม่รู้” กล่าวคือ หากเราไม่ลงมือทำ ผลลัพธ์ก็จะยังเป็นศูนย์อยู่เช่นนี้ต่อไป แต่ถ้าหากเราลงมือทำ เราก็จะมีโอกาสได้รับผลสำเร็จ และผลลัพธ์จากความสำเร็จนั้นก็จะนำพาความสุข ความภาคภูมิใจ และสิ่งที่คุณต้องการมาให้คุณได้อย่างมากมาย

ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้จากการไม่ลงมือทำ

CR : canva

อ่านบทความเพิ่มเติม

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.