คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อให้ได้แสดงศักยภาพของตัวเอง เพื่อให้ได้ทำงานอย่างสนุกสนานและประสบความสำเร็จเสมอ พวกเขาเป็นคนเก่งเวลาที่อยู่ที่ทำงาน สามารถบริหารจัดการงานและคนได้ดีเยี่ยม และพวกเขายังนำลักษณะนิสัยที่ดีเหล่านั้นมาใช้เวลาที่อยู่ที่บ้านด้วย
พิถีพิถันเรื่องการนอน
คนที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ให้ชีวิตเสมอ พวกเขามักจะตื่นเช้าต้อนรับวันใหม่ด้วยความสดใสเสมอ นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพตลอดคืน
พวกเขาไม่ลดเวลานอนหรือทำงานโต้รุ่งโดยเปล่าประโยชน์ แต่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในเวลากลางวัน และนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอไม่ใช่แค่การผ่อนคลายทางกายจากความเหนื่อยล้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการฟื้นฟูความเหนื่อยล้าของสมองอีกด้วย
เวลาตื่นตอนเช้า ก็จะมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะทำงานหรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ได้ผลดี นอกจากนี้การนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ จะช่วยให้โกรทฮอร์โมนหลั่งได้เต็มที่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันอาการป่วยต่างๆ ได้
แต่ละคนจะมีวิธีนอนที่ดีที่สุดแตกต่างกันไป บางคนก็ชอบนอนห้องมืดๆ บางคนก็ชอบเปิดม่านไว้เพื่อให้แสงแดดยามเช้ามลอดผ่านมาปลุก ลองหาวิธีที่ทำให้ตัวเองนอนหลับได้สบายที่สุด เพื่อตื่นขึ้นมาหลับวันใหม่อย่างสดใส
มีพื้นที่ส่วนตัว มีพื้นที่ที่ภูมิใจ
แม้การเปิดใจ การเข้าสังคมเป็นเรื่องที่ดีในการใช้ชีวิต แต่บางครั้งการสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้ตัวเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เวลาอยู่บ้านมักจะมีมุมที่ตัวเองได้ใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องบางอย่างในใจคนเดียว บางคนอาจชอบใช้เวลาในรถส่วนตัว หรือบางคนอาจชอบมุมเล็กๆ ของห้องนั่งเล่นในบ้านเป็นที่สำหรับพูดคุยกับตัวเอง
ไม่ว่าจะมุมไหนๆ สิ่งสำคัญคือ ทุกคนในบ้านควรมีพื้นที่ส่วนตัว และหาเวลาไว้คิดพิจารณาเรื่องราวต่างๆ อย่างช้า ๆ เพื่อจัดการอารมณ์ ความรู้สึกและคิดทบทวนจิตใจตัวเอง เ
นอกจากพื้นที่ส่วนตัวแล้ว การหาพื้นที่ที่ตัวเองภาคภูมิใจก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยผู้ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีห้องบางห้องที่ตัวเองรักและภูมิใจ มักเป็นห้องที่มีแต่สิ่งของที่ชอบรอบตัว และจะไม่เลือกของที่คิดว่าราคาถูกหรือขอแค่ให้ได้มีมาวางไว้ในห้องเลย นอกจากจะเป็นของที่ชอบและใช่จริงๆ
โดยการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยของที่ชอบและภาคภูมิใจ พวกเขาจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั่นเอง
ใข้ห้องนั่งเล่นและห้องอาหารอย่างเต็มที่
ห้องนั่งเล่นกับห้องอาหารเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
สิ่งแรกที่ควรทำคือ นึกถึงหน้าที่หลักของแต่ละห้อง หน้าที่ของห้องอาหารคือไว้กินข้าว แต่นอกจากกินข้าวเพื่อร่างกายแล้ว ยังเป็นการได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวด้วย เวลาที่กินข้าวกันหากได้ลองพูดคุยเปิดใจกันไปด้วย ก็จะช่วยเพิ่มความเข้าใจกันในครอบครัวได้มากขึ้น
โดยหลักการนี้สามารถใช้กับสถานการณ์ที่เราอยากสนิทกับคนอื่นนอกจากครอบครัวได้อีกด้วย เพียงแค่ชวนกันไปกินข้าว ดังนั้น ห้องอาหาร ห้องกินข้าวจึงเป็นห้องที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีของคนในครอบครัว
สำหรับห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่ครอบครัวจะมารวมตัและสนุกสนานไปด้วยกัน และแน่นอนว่ายังได้กระชับความสัมพันธ์กันด้วย
โดยห้องกินข้าว อาจเป็นห้องที่ใช้คุยกันอย่างเปิดใจ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ห้องนั่งเล่นนั้นมีไว้สำหรับสร้างความสุขให้เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้น ดังนั้น เมื่อตัวเราและครอบครัวมีความสุข เราก็จะมีแรงบันดาลใจและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่มีเรื่องห่วงด้านหลัง แล้วความสำเร็จก็อยู่อีกไม่ไกล
ข้อมูลประกอบจากหนังสือแค่ปรับปรุงบ้าน ชีวิตทุกด้านก็สำเร็จ