จาก เด็กเร่ร่อน ตรากตรำสู้เพื่อครอบครัว สู่บัณฑิตใหม่เกรดต้นๆ ของรั้ววิทยาลัย
หลังจากผ่านช่วงขรุขระและเผชิญมรสุมชีวิตมาหลายปี วันนี้ Bianca Jeannot สาวสู้ชีวิตวัย 22 ปีทำตามฝันของตัวเองสำเร็จแล้ว น้อยคนจะรู้ว่าบัณฑิตใหม่ป้ายแดงจากรั้ววิทยาลักนิวโรเชล (The College Of New Rochelle) แห่งนิวยอร์กต้องฝ่าฟันอะไรมาบ้าง…
Bianca เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แถมพี่ชายทั้ง 2 คนยังป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ Paul Santons พี่ชายคนโตวัย 34 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตขั้นที่ 4 ต้องทนทุกข์ทรมานมาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว ขณะที่พี่ชายคนรอง Michael Jeannot วัย 26 ปีเป็นโรคดาวน์ซินโดรม
ในอดีตพวกเขาเคยใช้ชีวิตเร่ร่อน ต้องอยู่อาศัยที่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน และตระเวนไปตามบ้านของญาติๆ ก่อนจะปักหลักที่อะพาร์ตเมนต์สำหรับผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อปี 2012 แม่พวกเขาเสียชีวิตลง ทำให้ Bianca ต้องลุกขึ้นสู้และทำหน้าที่เสาหลักของครอบครัวแทนแม่ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 18 ปี Bianca เล่าว่าช่วงเวลานั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอย่างไร รู้แค่ว่าต้องก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้ เธอทำงานถึง 4 งาน เพื่อหาเลี้ยงพี่ชายทั้งสองคน ขณะเดียวกันก็เรียนหนังสือไปด้วย
แต่กระนั้นความทุกข์ยากและงานอันเหนื่อยหนักก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียน อาจารย์ของเธอเล่าว่า ไม่มีใครรู้เรื่องราวชีวิตของเธอ หากเธอไม่เล่า เพราะดูภายนอกเธอเป็นเด็กกระตือรื้อร้น มีความคิดสร้างสรรค์ ฉลาดและเรียนเก่ง นอกจากนี้เธอยังมีบทบาทสำคัญกับกิจกรรมต่างๆ ในวิทยาลัย เช่น เป็นผู้ทำป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของวิทยาลัย เป็นบรรณาธิการใหญ่ของ “Phoenix” นิตยสารวรรณกรรมและศิลปะ และเป็นผู้ก่อตั้งและประธานชมรมอะนิเมะหรือภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่น (anime) โดยชมรมของเธอเคยคว้ารางวัลจากสมาคมนักศึกษามาแล้วสองรางวัล
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าขณะที่เธอต้องทำงานหนักเลี้ยงดูครอบครัว เรียนไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย เธอยังสามารถจบออกมาด้วยเกรด 3.8 จากสาขาภาษาอังกฤษและนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Science) ซึ่งทำให้ได้รับทุนการศึกษาต่างๆ รวมถึงทุนศึกษาต่อที่ยุโรป 3 สัปดาห์ด้วย
เธอเล่าว่าเธอเป็นคนแรกของครอบครัวที่เรียนจบ และเธอจะพกความสำเร็จนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต ส่วนในอนาคตเธอบอกว่า เธอรักสัตว์มากและจะมุ่งหน้าทำความฝันทำงานเกี่ยวกับการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ให้ได้ เธอทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ฉันจะไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไรในโลกนี้ เพราะนี่คือชีวิตฉัน และมันทำให้ฉันเป็นฉันแบบทุกวันนี้”
ภาพ Courtesy Bianca Jeannot