หลังเรียนจบสาขาวิทยาศาสตร์การเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีได้เพียงไม่กี่ปี คุณแบงก์ – ธนพงศ์ จิตชู ก็เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองด้วยการเป็นเจ้าของกิจการขายนาฬิกาทั้งปลีกและส่งที่จังหวัดชลบุรี
“ตั้งแต่เด็กจนโต คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังเรื่องการปฏิบัติธรรมให้ผมกับน้องมาตลอด อย่างช่วงปิดเทอม เด็กคนอื่นอาจได้ไปเที่ยวทะเล ไปต่างจังหวัด แต่ผมและน้องสาวไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 7 วัน ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าปฏิบัติไปเพื่ออะไร ก็ได้แต่ทำตาม ๆ ไป ทุกครั้งที่ไปวัดตอนนั้นผมไม่ชอบเลย เพราะคุณพ่อปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตีสาม ท่านบอกว่าถ้าตื่นเร็วจะได้เจอสิ่งดี ๆ ก่อนคนอื่น
“จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้ต่างจากคนวัยเดียวกันที่อยากไปเที่ยวเล่นเฮฮากับเพื่อนฝูง แต่เพราะรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่รักเรามาก ปรารถนาดี อยากให้เราเป็นคนดี ท่านไม่ได้เลี้ยงผมด้วยการหยิบยื่นเงินทองให้ แต่จะสอนให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างลูกผู้ชาย ให้แข็งแกร่ง รู้จักความลำบาก ฝึกให้อดทนและยืนได้ด้วยตัวเอง ท่านอยากเลี้ยงผมให้เป็นคนดีมีคุณภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ต่อมาคุณแม่พาไปกราบและฝากฝังให้บวชกับพระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ณ สถานปฏิบัติธรรมวิวัฏฏะ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นเวลา 3 เดือนครึ่ง เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตและธรรมะในแบบที่คุณแบงก์เองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
“ครั้งแรกที่ไปถึงวิวัฏฏะ ผมตกใจมาก เพราะมีแต่ภูเขาหัวโล้นกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๆ หนึ่งองค์ ผมอดคิดไม่ได้ว่าแม่ส่งเรามาทำอะไรที่นี่ ตอนนั้นรู้สึกท้อและคิดว่าอย่าว่าแต่สามเดือนครึ่งเลย แค่สามวันยังไม่รู้ว่าจะรอดไหม แต่เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ผมก็ต้องอยู่ให้ได้
“ผมใช้ชีวิตที่นั่นเหมือนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ที่นี่ใช้น้ำบาดาล ไฟก็ไม่ค่อยมี ห้องอาบน้ำมีแค่ฝาไม้ไผ่กั้น เวลาอาบน้ำมองเห็นกันหมด แต่ผมใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะที่บ้านสอนให้เป็นคนสู้ชีวิต อีกอย่างพระอาจารย์คอยสอนผมไม่ให้ยึดติด ให้มองทุกอย่างเป็นของสมมุติ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่มีอะไรเป็นของของเรา ท่านสอนให้ถอดถอนความมีอัตตาตัวตน ท่านบอกว่า เป็นลูกผู้ชาย ฆ่าได้ต้องหยามได้ เราต้องรู้จักยอมคนหากจะทำให้เกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นกับตัวเรา นอกจากนั้นท่านยังสอนให้ผมกตัญญูต่อพ่อแม่ พระอาจารย์ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของพ่อกับแม่ที่ได้ส่งผมมาที่นี่ ให้ได้มาพบกับคำสอนดี ๆ ที่ทำให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิต
หลังจากลาสิกขา เขาก็ได้นำคำสอนที่ได้จากพระอาจารย์มาปรับใช้ ชีวิตทุกวันนี้จึงมีความสุข
“พอสึกมา ผมตั้งใจว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้เร็วที่สุด อยากเลี้ยงดูพ่อแม่ ตอบแทนพระคุณท่านให้ดีที่สุด เงินที่หามาได้จากการค้าขายทุกบาททุกสตางค์ พูดได้เต็มปากเลยว่าได้มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ผมมีสโลแกนส่วนตัวคือ ‘คนเก่งต้องไม่โกง’ เพราะผมเห็นคนทุกวันนี้ยกย่องกันที่ความรวย ไม่ได้ยกย่องกันที่ความดี ความคิดของวัยรุ่นสมัยนี้คือ คนรวยคือคนดี ซึ่งผมไม่เห็นด้วย ผมอยากให้วัยรุ่นหันมาสนใจธรรมะและมีแบบอย่างที่ถูกต้อง
“ชีวิตทุกวันนี้มีความสุขดี เพราะปฏิบัติตามที่พระอาจารย์สอนว่า คนเราควรทำดี คิดดี ในทุก ๆ วินาที และใช้ชีวิตอย่างมีสติตลอดเวลา”
ไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดธรรมะจึงเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับใคร ๆ ที่อยากมีความสุข
ที่มา นิตยสาร Secret ฉบับที่ 175
เรื่อง ธันยาภัทร์ รัตนกุล, กรรณิการ์ ทองคำ
ภาพ วรวุฒิ วิชาธร