Think Before You Speak…จงมีสติ และคิดก่อนพูด!

ไม่พูดเกินจริง พูดให้สอดคล้องกัน ไม่ใช้สองมาตรฐาน ไม่ใช้คำพูดเพียงเพราะต้องการชี้นำผู้อื่น และที่สำคัญไม่ใช้คำพูดที่สื่อถึงการคุกคามหรือพูดทำร้ายผู้อื่น หรือพูดด้วยความตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ ในการเจรจา ไม่ว่ากับใครก็ตาม การพูดความจริงเป็นสิ่งจำเป็น และถึงแม้จะต่างความคิด ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย แต่เราก็ยังต้องพูดกันด้วยความมีน้ำใจ เคารพผู้อื่น แสดงออกถึงความเป็นสุภาพชนเสมอ

>> “คำพูด” ที่ดี ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี <<

เชื่อหรือไม่คะว่าหากเราใช้คำพูดในทางที่ดี มันจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ดีที่ทำให้คนฟังรู้สึกดี ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี ทำให้เกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพูดดีทำให้ความร่วมมือกันในกลุ่มดีขึ้น แต่หากเราใช้คำพูดในทางไม่ดี พูดข่มเหง พูดดูถูก พูดให้ร้ายผู้อื่น มันก็จะเป็นกระสุนทำร้ายจิตใจคน ทำลายความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ พูดง่ายๆ คือ ถ้าพูดไม่ดีก็ทำลายความสัมพันธ์ได้เช่นกัน สิ่งสำคัญในการพูดคือการตั้งใจฟังและอดทน พูดอย่างมีสติ มีวิธีการพูดที่ดี และพูดความจริงที่เราเข้าใจ ระมัดระวังการใช้คำพูด น้ำเสียงและภาษากายร่วมด้วยค่ะ

>> ควรคิดพิจารณาให้ดีก่อนที่เราจะพูดสิ่งนั้นๆ <<

การพิจารณาสิ่งที่จะพูดออกไปต้องนึกถึงว่า สิ่งที่พูดนั้นเป็นจริงหรือเปล่า, มันเกิดประโยชน์หรือเปล่า, มันให้แรงบันดาลใจหรือเปล่า, มันจำเป็นหรือเปล่า หรือมันรักษาน้ำใจหรือเปล่า ยิ่งพูดถึงบุคคลอื่นด้วยแล้วยิ่งต้องระวัง เพราะเราไม่รู้จักเขาดีพอ ไม่รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเขาดีเท่ากับตัวเขาหรอก เราจะไปคาดเอาเองว่าเขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วไปพูดทำให้เขาเสียหายดูจะไม่ยุติธรรมนัก ดีที่สุดคือไม่พูดถึงคนอื่นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงดีพอ แม้จะรู้จริงก็ไม่ควรพูด ถ้าจำเป็นต้องพูดก็ควรพูดอย่างมีสติ พูดด้วยความระมัดระวัง เพราะการพูดถึงคนอื่นนั้นเสี่ยงต่อการเป็นศัตรูกันและจะเป็นบาปกรรมด้วย ระวังไว้เป็นดีที่สุดค่ะ

>> ประโยคที่เราควรคิดก่อนพูดกับคนอื่น <<

เรื่องของคำพูดนั้นแน่นอนว่ามันมี่สูตรตายตัวหรอกค่ะ ว่าควรใช้คำพูดแบบไหน เพรพาะมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ เวลานั้น แต่วันนี้เราได้รวบรวม ประโยคหลักๆ ที่คิดว่าไม่ควรพูดออกไป เพราะอาจเป็นการทำร้ายจิตใจผู้ที่ได้ยิน ใครเคยพูดประโยคเหล่านี้ก็ลองหยุดทำ เชื่อว่าสถานการณ์และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ ไปดูกันว่ามีประโยคไหนบ้างที่ควรเบรกไว้

ก็มักจะเป็นซะอย่างนี้

อย่าลืมวิคะว่าในโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด ดังนั้นคำพูดประมาณนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่คนฟังกำลังทำผิดพลาดอะไรสักอย่าง พูดแบบนี้ไม่ดีเลย เหมือนเป็นการประชดประชันและตอกย้ำความผิดของคนฟังไปอีก ลองปรับคำพูดดูสักนิด พูดให้เบาลงหน่อย อธิบายให้คนฟังได้เข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่เค้ากำลังเจอ แสดงความจริงใจ และห่วงใย ดีกว่าการซ้ำเติมนะคะ เชื่อแน่ว่าถ้าเราพูดด้วยควาจริงใจ ด้วยถ้อยคำที่ไม่บั่นทอน คนฟังย่อมรู้สึกดีกว่า และอยากฟังมากกว่าแน่นอนค่ะ

ทำแบบนี้ก็เหนื่อยแย่เลยสิ

บางครั้งเราอาจพูดประโยคนี้ออกไปด้วยความห่วงใยคนฟัง และอยากให้คนคนนั้นรู้ว่าเราสามารถช่วยเหลือเขาได้ แต่ด้วยน้ำหนักและโทนเสียงที่พูดออกไป หากคนฟังกำลังเหนื่อยและท้ออยู่พอดี อาจตีความไปว่าเรากำลังเยาะเย้ยเขาเสียมากกว่า เพราะเขาก็เหนื่อยอยู่แล้วซึ่งเราก็เห็นๆ อยู่ ในขณะที่ตัวเรากำลังมีความสุข ไม่มีอะไรต้องเหนื่อยในชีว้ต เรารู้สึกชิลมาก แต่เขากำลังเหนื่อย ก็ไม่คววรถามหรือพูดประโยคนี้ออกไปนะคะ ถ้าจะให้ดี ควรเลี่ยงไปใช้คำที่ดูดี น่าฟังกว่า เช่น พักนี้ดูเหนื่อยนะ เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า เชื่อเถอะว่าคนฟังจะเปิดใจอยากเล่าหรือระบายให้เราฟังมากกว่าประโยคแรกชัวร์ค่ะ ไม่เชื่อลองทำดู!

>>อ่านต่อในหน้าถัดไป<<

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.