8 กิจวัตรประจำวัน ช่วยปรับปรุง ดูแลสุขภาพจิต ไม่ให้จิตตกก่อนหมดปี
ในเรื่องของการ ดูแลสุขภาพจิต หรือแม้แต่สุขภาพร่างกายของเราก็ตาม การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองในแง่บวก ไม่ว่าจะด้วยวิธีเล็กน้อยหรือใหญ่ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก ซึ่งในบางครั้งการใส่ใจสุขภาพจิตจริงๆ อาจต้องการมากกว่าแค่ “การสนทนา” กับใครสักคนที่ไว้ใจได้
เนื่องจากมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงในที่นี้อาจหมายถึง การก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อความก้าวหน้า เพราะถ้าหากคุณไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองบ้าง คุณจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ด้วยเหตุนี้การมีนิสัยที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้ จึงสำคัญและมีส่วนช่วยสร้างสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
1. เดินเพื่อเพิ่มสารเซโรโทนิน
ไม่มีอะไรจะผ่อนคลายจิตใจได้ดีไปกว่าการได้รับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดยามเช้า แค่ใช้เวลาเดินเพียง 20 นาที การเดินจะช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเซโรโทนินเป็นสารปรับอารมณ์ตามธรรมชาติที่ช่วยลดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล หากระดับเซโรโทนินต่ำ มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากอาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล และการนอนไม่หลับก็จะยิ่งสูงขึ้น ระดับเซโรโทนินที่ดี จะช่วยให้คุณมีความสุข ดังนั้น การเดินจึงเป็นตัวกระตุ้นเซโรโทนินที่ดีเยี่ยม
2. เรียกเหงื่อเบาๆ
การออกกำลังกายที่ดี ในเวลา 20-45 นาที (3-5 วันต่อสัปดาห์) จะสร้างน่าทึ่งให้กับร่างกายและสุขภาพจิตของคุณ เมื่อคุณออกกำลังกาย ร่างกายของคุณจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าเอนดอร์ฟิน การหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินคือสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึก “อิ่มอกอิ่มใจ” หลังออกกำลังกาย ซึ่งข้อดีของสารเอ็นดอร์ฟิน จะช่วยลดอาการซึมเศร้า ความเครียด และแม้กระทั่งความเจ็บปวดได้เลย
3. คงความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
ร่างกายควรได้รับการดื่มน้ำ 2 ลิตร ไม่ใช่แค่น้ำหนึ่งแก้วต่อวัน มีการกล่าวไว้ว่า ภาวะซึมเศร้ายังเชื่อมโยงกับการขาดน้ำ เมื่อร่างกายของเราขาดน้ำ เรามักจะรู้สึกเศร้า และวิตกกังวลมากขึ้น นอกจากนี้ร่างกายที่ขาดน้ำยังทำให้ตัวเรารู้สึกขาดพลังงานอีกด้วย หากร่างกายของคุณไม่มีพลังงาน ก็น้อยมากที่จะทำอะไรได้สำเร็จ เพราะไม่สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ จึงทำให้เพิ่มความรู้สึกเศร้า หงุดหงิด และวิตกกังวลได้
4. ฝึกยิ้มบ่อยๆ
การยิ้มเป็นนิสัยง่ายๆ แต่ยุ่งยากในการนำไปใช้ เพราะคงไม่มีใครอยากจะยิ้มเมื่อรู้สึกหดหู่หรือเครียดอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณรู้ว่าการยิ้มสามารถบรรเทาความเจ็บปวดภายในบางอย่างที่คุณกำลังรู้สึกได้ อย่างน้อยๆ คุณควรลองดู!
เพราะประโยชน์ของการยิ้ม จะปลดปล่อยสารหลายชนิดที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล เมื่อคุณยิ้มคุณจะส่งความรู้สึกเชิงบวกให้กับสมอง และอารมณ์ของคุณก็จะดีขึ้น
5. สังเกตและจดบันทึกความรู้สึกของตัวเอง
บางครั้งสิ่งที่มนุษย์ต้องการ ก็อาจเป็นการที่เราสามารถแสดงความรู้สึกต่อใครบางคนได้โดยไม่ต้องปกปิด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ดีหรือความรู้สึกที่ไม่ดี รวมถึงการแสดงออกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
สำหรับตอนนี้การบอกเล่าความลับลึกๆ ในใจ ให้คนอื่นฟังดูจะเป็นเรื่องที่ยาก บางคนอาจจะเข้าใจคุณ ในขณะบางคนอาจจะวิพากษ์วิจารณ์คุณ ตัดสินคุณ และทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ดังนั้น คนที่ดีที่สุดที่คุณจะเปิดใจด้วย ก็คือตัวคุณเอง ลองปลดปล่อยความรู้สึกของคุณลงบนกระดาษกัน
6. มองหาแรงบันดาลใจ
ก่อนจะหมดวันนี้ลง เราอยากบอกคุณว่า คุณไม่ใช่คนเดียวที่ต้องรับมือกับเรื่องเหล่านี้ มันอาจจะรู้สึกเหมือนว่าคุณต้องเผชิญหน้าอยู่กับมันเพียงคนเดียว แต่อยากให้รู้ไว้ว่ามันไม่ใช่ เพราะยังมีคนอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังเจอกับสิ่งเดียวกัน หรือเคยรับมือกับเรื่องนี้มาก่อน คุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ลองตามหากำลังใจ และแรงบันดาลใจเพื่อตัวคุณเองซะ
7. ให้เวลากับตัวเอง
เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องแยกตัวเองออกจากโลกภายนอก เพื่อให้ความสำคัญกับตัวเอง แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เราใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการกังวลเกี่ยวกับคนอื่น ข้อดีเวลาอยู่คนเดียวจะช่วยให้เราได้เติมพลังและทบทวนตัวเอง ให้เวลากับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาทีต่อวัน
และในช่วง 20 นาทีนี้ จงทำในสิ่งที่คุณมีความสุขเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูการแสดง บันทึกประจำวัน กินของว่าง หรือผ่อนคลาย และอย่าให้ใครหรืออะไรมารบกวนเวลานี้ด้วยนะ!
8. เรียนรู้บางสิ่งใหม่ ๆ
การเรียนรู้สามารถช่วยให้เราสร้างความมั่นใจและความสามารถในตัวเอง นอกจากนี้มันยังสามารถสร้างคอนเนคชั่นให้กับเราได้ด้วย เมื่อเราเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เราจะรู้สึกถึงความพึงพอใจและความสำเร็จหลังจากนั้น ลองสละเวลาเพื่อเรียนรู้ ใช้เวลามากขึ้นในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้คุณมีความสุขและมั่นใจ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้คุณได้เรียนรู้อีกมากมาย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- 6 วิธีช่วย ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างบาลานซ์ให้กับตัวเอง
- 5 นิสัยที่ควรมี และต้องทำให้เคยชิน ตั้งแต่เริ่มต้นวันใหม่
- พลังของการอยู่เฉยๆ ใครว่าไม่มีประโยชน์
- เคล็ดไม่ลับแก้อาการ นอนไม่เป็นเวลา
- 6 ไอเดียของขวัญ ที่ควรมอบให้ตัวเอง ก่อนเข้าสู่ปี 2020
- 3 เทคนิค สลัดความขี้เกียจ ปลุกตัวเองให้สดใส ต้อนรับอากาศหนาว