ธรรมะใสๆ ในแบบ เต้ย จรินทร์พร
คงมีสักครั้งที่รอยยิ้มสดใสของ เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ ทำให้คุณเผลออมยิ้มตามเธอไปโดยไม่รู้ตัวแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความน่ารักน่าเอ็นดูเท่านั้นที่ทำให้เราสนใจชวนเธอมาพูดคุยแต่เพราะเรื่องราวเบื้องหลังรอยยิ้มนั้นต่างหาก ที่เชื่อแน่ว่าจะทำให้คุณต้องประหลาดใจและหลงรักสาวน้อยคนนี้เหมือนใครๆ อีกหลายคน
ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าเต้ยโตมาแบบไหน
เต้ยโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่มีเต้ยตอนอายุยังน้อยค่ะ ตอนมีเต้ยทั้งพ่อและแม่อายุประมาณ 21 ปีเอง เต้ยก็เลยรู้สึกเหมือนเราโตมาด้วยกัน พ่อแม่คือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเต้ย…เป็นทั้งพ่อแม่ เป็นทั้งเพื่อน และเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด ท่านเลี้ยงลูกด้วยการให้อิสระ ปล่อยให้เต้ยได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ให้ผจญโลกภายนอกเองโดยที่ท่านจะไม่ห้าม แต่จะคอยมอง คอยสอน และคอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ ๆ เสมอ
มีคำสอนไหนคะที่เต้ยยังจำได้ดี
พ่อแม่เต้ยไม่ค่อยสอนเป็นคำพูดเท่าไหร่ค่ะ แต่จะสอนด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ทำให้เต้ยซึมซับมาโดยไม่รู้ตัว
ปกติพ่อเต้ยจะเป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่นเหมือนเด็ก ๆ แต่นิสัยอีกอย่างหนึ่งของพ่อคือ จะขี้เกรงใจมาก แม้แต่เรื่องเล็ก ๆอย่างการขับรถต่อแถวขึ้นทางด่วน ถ้าเต้ยเป็นคนขับแล้วไม่ได้เตรียมเงินเอาไว้ก่อนพ่อจะหงุดหงิดมาก เพราะเกรงใจรถคันหลังกลัวเขาจะรอนาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามพ่อมักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ในขณะที่แม่เต้ยเป็นผู้หญิงที่น่ารัก เรียบร้อยมากกก…แต่ขณะเดียวกันแม่ก็เป็นคนที่คิดเป็นระบบ สามารถจัดการทุกปัญหาทุกเรื่องได้อย่างดีเลิศ และที่สำคัญคือ แม่เป็นคนอดทนมาก ๆ เต้ยว่าตัวเองได้นิสัยจากพ่อแม่มาคนละครึ่ง ซึ่งโชคดีมาก เต้ยภูมิใจมากเลยค่ะที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่(ยิ้มหวาน)
รักคุณพ่อคุณแม่มากขนาดนี้เคยทำให้ท่านเสียใจบ้างไหมคะ
ไม่ค่ะ…ไม่เหลือ (หัวเราะ) สมัยเป็นวัยรุ่นเต้ยดื้อมาก ติดเพื่อน ทะเลาะกับพ่อแม่ประจำ แหกทุกกฎของโรงเรียน ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างซอยผม ไปจนถึงขั้นลอกข้อสอบ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยเด็ก ๆ ที่กำลังอ่านอย่าทำตามนะคะ จำได้แม่นเลย ตอนนั้นอยู่ ม.4 เทอม 2 เต้ยแอบเอาโพยเข้าห้องสอบ แล้วอาจารย์จับได้เลยถูกปรับตกทุกวิชา ตอนนั้นเต้ยกลัวมากคิดอะไรไม่ออก ตัดสินใจโทร.ไปสารภาพผิดกับแม่ แต่แม่กลับไม่ดุ ไม่ว่าอะไรเต้ยสักคำแถมยังบอกว่า ไม่เป็นไรนะลูก วิชาที่ตกแล้วก็แล้วกันไป จากนี้ก็ตั้งใจทำวิชาที่เหลือให้ดีที่สุด พอวางหูเท่านั้นแหละ เต้ยบ่อน้ำตาแตกเลย คิดได้ว่า นี่เราทำอะไรลงไปรู้เลยว่า พอวางหูแม่คงแอบไปร้องไห้แน่ ๆตั้งแต่วันนั้นเต้ยคิดได้ หายซ่าเลยค่ะ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ เลิกติดเพื่อน หันกลับมาตั้งใจเรียน พอมีปัญหาอะไรเต้ยก็เล่าให้พ่อแม่ฟังหมดทุกเรื่อง ไม่ปิดบังอะไรท่านอีกเลยชีวิตวัยเรียนของเต้ยไม่ใช่ช่วงชีวิตที่น่าภูมิใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยสอนให้เต้ยได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก
แต่ส่วนใหญ่วัยรุ่นมักไม่กล้าเล่าเรื่องส่วนตัวให้พ่อแม่ฟังเพราะกลัวจะถูกดุหรือเกรงว่าท่านจะเป็นห่วง
เต้ยว่าถ้าลูกไม่เล่าไม่บอก พ่อแม่จะยิ่งเครียดและคิดไปต่าง ๆ นานามากกว่าค่ะ เต้ยก็เลยเล่าให้พ่อแม่ฟังทุกเรื่อง อาจเป็นเพราะเต้ยเชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนย่อมรู้จักลูกของตัวเองดีกว่าใครอยู่แล้ว เหมือนกับที่พ่อแม่รู้จักเต้ยเป็นอย่างดี ท่านเชื่อใจและให้อิสระเต้ยอย่างเต็มที่ ช่วงเข้าวงการใหม่ ๆ เต้ยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าทำศัลยกรรมบ้างละแล้วยังมีภาพหลุดออกมาว่าเต้ยสูบบุหรี่อีกช่วงนั้นพ่อแม่และน้องชายคือกำลังใจที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ ท่านเชื่อว่าเต้ยไม่ได้ทำจริง ๆและไม่ได้เป็นอย่างที่ใคร ๆ พูดกัน เพราะกำลังใจจากครอบครัวนี่แหละค่ะที่ทำให้เต้ยผ่านช่วงเวลาเลวร้ายในชีวิตมาได้ทุกครั้งเต้ยเองไม่เคยเข้าใจหัวอกของพ่อแม่เลยว่า ท่านต้องอดทนกับเต้ยขนาดไหนจนกระทั่งวันหนึ่งเต้ยเดินไปหาน้องชายที่ห้องแต่พอก้าวเข้าไปก็ต้องชะงัก เพราะเห็นน้องกำลังร้องไห้ ปกติเขาเป็นคนเข้มแข็งมากเต้ยเดาว่าเขาคงมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียนก็เลยได้แต่เดินเข้าไปตบบ่าแล้วบอกว่า “เป็นอะไรอะ…หายไว ๆ นะ…รักนะ ๆ” แล้วเต้ยก็เดินออกมา แต่พอปิดประตูเท่านั้นแหละเต้ยปล่อยโฮเลย สงสารน้องค่ะ คิดดูว่าเต้ยเป็นพี่ยังเสียใจแทนน้องมากขนาดนี้แล้วพ่อแม่เห็นเต้ยร้องไห้มาตลอด แถมยังเจอเรื่องอื่นอีกสารพัด ท่านทนได้ยังไงเต้ยว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่นี่สุดยอดจริง ๆ ค่ะ
มีโอกาสได้ทดแทนพระคุณท่านบ้างไหมคะ
ทุกวิถีทางค่ะ เริ่มจากเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทำงานหามา เต้ยให้แม่เป็นคนดูแลทั้งหมดเลย จากเมื่อก่อนคิดแค่ว่า
ทำงานเพื่อเอาเงินมาซื้อของที่อยากได้ แต่ทุกวันนี้เต้ยมีไม่ความคิดแบบนั้นในหัวอีกแล้วนอกจากให้เงินแม่แล้ว เต้ยยังขอร้องให้แม่ใช้เงินเต้ยด้วยนะ ต้องใช้คำว่าขอร้องเลยค่ะ(หัวเราะ) เพราะท่านไม่ค่อยเอาเงินเต้ยออกมาใช้ บางทีนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ เต้ยจะคอยถามว่า ปลาตัวนี้ใช้เงินเต้ยรึเปล่า แล้วอันนั้นล่ะใช้เงินเต้ยรึเปล่า อยากให้ค่าใช้จ่ายทุกบาทในบ้านเป็นเงินที่มาจากเต้ยทั้งหมดต้องคอยลุ้นตลอดว่าใช้เงินเราไหม แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องลุ้นเลยคือการเข้าวัดทุกวันนี้พ่อแม่และน้องเริ่มเข้าวัดแล้วนะเต้ยภูมิใจมากเลย เข้าไปทำบุญทอดกฐินบ้างทอดผ้าป่าบ้าง ถวายสังฆทานด้วย แต่ยังไม่ถึงขั้นไปปฏิบัติธรรมก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว ด้วยความที่พ่อแม่เต้ยมีครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ก็เลยห่างวัดตั้งแต่นั้น แค่ตอนนี้ได้พาพ่อแม่เข้าวัดบ้าง เต้ยก็มีความสุขสุด ๆ แล้ว
แล้วเต้ยเริ่มต้นเข้าวัดได้อย่างไรคะ
เมื่อประมาณสี่ปีก่อน จู่ ๆ เต้ยก็รู้สึกอยากบวชชีพราหมณ์ ทั้งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า วัดคืออะไร บวชต้องทำตัวยังไงคิดว่าอยากลองบวชดูเท่านั้น ตอนแรกไม่รู้ว่าจะบวชที่ไหนด้วยซ้ำ พอดีรู้จักพี่คนหนึ่งเขาชอบเข้าวัดตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เลยขอตามเขาไปบวชด้วย แต่พอไปครั้งแรกเท่านั้นแหละติดใจเลย (หัวเราะ) ภาษาพระท่านเรียกว่าถูกจริตค่ะเต้ยบวชที่วัดเขาอิติสุคโตแค่ไม่กี่วันแต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากกก…เหมือนเราได้อยู่ถูกที่ เต้ยได้ถือศีลแปด ได้ฟังธรรมจาก หลวงพ่อปรีชา (พระครูบรรพต-พัฒนคุณ ธนวฒฺฑโก) แค่ฟังครั้งแรกเต้ยก็นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น ท่านเทศน์เรื่องความกตัญญู เรื่องครอบครัว พอกลับมาบ้าน เต้ยเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยค่ะเข้าไปกราบพ่อกราบแม่ ขออโหสิกรรมท่าน ทุกคนในบ้านทั้งตกใจและดีใจกันหมด คิดว่าเต้ยป่วย ที่ไหนได้เต้ยไปปฏิบัติธรรมมา นับตั้งแต่วันนั้นเต้ยก็เลยกอดและหอมพ่อแม่กับน้องทุกวัน คงเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วยมั้งคะเวลาเต้ยชวนพ่อแม่กับน้องไปวัดทีไร ไม่มีใครปฏิเสธเลย ไปทำบุญด้วยตลอด วันนี้พอคุยกับ Secret เสร็จแล้ว เต้ยก็จะไปวัดต่อนะคะ ไปปฏิบัติธรรมแล้วรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตให้ตัวเองเลยค่ะ
ขอคุยเรื่องหัวใจสักนิดนะคะทุกวันนี้เต้ยมีมุมมองความรักอย่างไรคะ
ถ้าเป็นสมัยวัยรุ่นเต้ยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเลยค่ะ เต้ยจะเต็มที่กับความรัก ทำอะไรก็ไม่ค่อยคิดถึงตัวเอง
สักเท่าไหร่ แต่ดีที่ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เต้ยได้คิด ทุกวันนี้เต้ยคบกับ อเล็กซ์ (อเล็กซ์ เรนเดลล์) เหมือนเป็นเพื่อน ไม่มีอะไรให้รู้สึกซีเรียสเลย นิสัยเราเข้ากันได้เวลามีปัญหาหรือมีเรื่องคาใจเราจะคุยกันตลอด ถ้าเต้ยใจร้อน เขาจะใจเย็น และที่สำคัญ อเล็กซ์เป็นคนที่รักครอบครัวมาก ๆเต้ยชอบเขาตรงนี้
Secret BOX
ใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้ ให้ตายไปแล้วไม่เสียดายที่ได้เกิดมา
เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ
เรื่อง ชลธิชา แสงใสแก้ว ภาพ วรวุฒิ วิชาธร
ผู้ช่วยช่างภาพ ภูติรัตน์ เหลืองชูเกียรติ สไตลิสต์ วิทวัส มีเดช
ผู้ช่วยสไตลิสต์ อรอุมา ศิลป์วัฒนานุกูล, เกศริน วัฒนาประชากุล
แต่งหน้า พงษ์ศักดิ์ คงสุข ทำผม ภูดล คงจันทร์