พรแปดข้อที่ พระอานนท์ ทูลขอพระพุทธเจ้า
ไม่ว่าประวัติศาสตร์มนุษยชาติจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันปี คุณสมบัติเพียงข้อเดียวที่เป็นยอดปรารถนาของคนทุกยุคทุกสมัย นั่นก็คือ ความเสียสละ ความเสียสละในความหมายของการให้ แม้แต่สิ่งซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้ให้ ความเสียสละในรูปของการกล้าบรรจงปิดทองหลังองค์พระปฏิมา มิไยว่าผู้คนจะรับรู้หรือไม่ ความเสียสละในแบบฉบับที่ภิกษุนามว่า พระอานนท์ ได้เคยปฏิบัติเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีที่แล้ว
เมื่อเทียบกับพระสาวกองค์อื่น พระอานนท์ดูจะเป็นสาวกที่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้ามากที่สุด ด้วยความที่พระอานนท์มีศักดิ์เป็นน้องชายร่วมตระกูลกับพระพุทธเจ้า อีกทั้งยังเป็นสหชาติ คือเกิดในวันเวลาเดียวกัน ทำให้การที่พระอานนท์บรรลุเป็นพระอรหันต์ช้ากว่าพระสาวกรูปอื่นๆ กลายเป็นข้อครหาของใครหลายคนว่าใกล้เกลือกินด่าง แต่ใครเล่าจะรู้ความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
แรงจูงใจให้เสียสละเช่นนี้ จะเป็นเพราะเหตุใดไปไม่ได้ นอกเสียจากความยึดมั่นในประโยชน์ของชาวโลกมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เห็นได้จาก พรทั้งแปดข้อ ที่ท่านทูลขอจากพระพุทธองค์ นับเป็นพรที่แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลและความมุ่งหวังแต่ประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
พรแปดข้อที่พระอานนท์ทูลขอ คือ
ข้อ1.ขออย่าให้พระพุทธเจ้าประทานจีวรอันประณีตแก่ท่าน
ข้อ2.ขออย่าให้พระพุทธเจ้าประทานอาหารอันประณีตแก่ท่าน
ข้อ3.ขออย่าให้ท่านอยู่ในที่ประทับของพระพุทธเจ้า
ข้อ4.คือ ขออย่าให้พระพุทธเจ้าพาท่านไปยังที่นิมนต์ด้วย พรสี่ข้อแรกนี้เป็นเครื่องยืนยันเป็นอย่างดีว่า ท่านไม่ต้องการอภิสิทธิ์และลาภสักการะใดๆจากตำแหน่งพระอุปัฏฐากแม้แต่น้อย
ข้อ5.ที่พระอานนท์ขอคือหากท่านรับนิมนต์ที่ไหนไว้ก็ขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จไปตามนั้น
ข้อ6.เมื่อมีผู้ใดต้องการมาเฝ้าพระพุทธเจ้าก็ขอให้ท่านมีโอกาสนำคนเหล่านั้นเข้าเฝ้า
ข้อ7.เมื่อพระอานนท์สงสัยในเรื่องใด ขอให้ท่านมีโอกาสได้กราบทูลถามปัญหาได้ทุกเมื่อ
และข้อสุดท้าย 8. ขอให้พระพุทธองค์นำหลักธรรมที่ไปเทศน์ที่อื่นกลับมาเทศน์ให้ท่านฟังทุกครั้ง
เหตุที่พระอานนท์ขอพรดังกล่าวก็เพื่อให้ตนเองมีภูมิธรรม อันจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระขององค์พระศาสดาได้ในกาลต่อไปนั่นเอง พระอานนท์ทำหน้าที่พระอุปัฏฐากดูแลพระพุทธเจ้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงขนาดยอมเอาตัวเข้าขวางช้างนาฬาคีรีที่คลุ้มคลั่งมุ่งจะมาทำร้ายพระพุทธองค์ การเสียสละในครั้งนั้นทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า พระอานนท์ไม่ลังเลเลยที่จะเอาชีวิตของตนปกป้องชีวิตพระศาสดาผู้เป็นที่รักและบูชา
แม้หลังพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระอานนท์ก็ยังคงแบกรับภารกิจต่างๆ แทนพระพุทธองค์จนแทบไม่เหลือเวลาส่วนตัวให้ปฏิบัติธรรม ทำให้สภาวธรรมของท่านไม่ก้าวหน้า
แต่กระนั้นเหล่าพุทธสาวกก็มิได้มองข้ามความสำคัญของท่าน เพราะผลจากพรข้อสุดท้ายที่พระอานนท์ทูลขอ
จากองค์พระศาสดา ทำให้ท่านสามารถจดจำพระธรรมได้ อย่างครบถ้วนเหนือสาวกรูปอื่น และได้รับคัดเลือกเป็น
กรณีพิเศษ ให้เข้าร่วมการสังคายนาพระไตรปิฎก แม้จะยังไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์เช่นสาวกอื่นๆอีก 499 รูป
การได้รับเกียรติอันสูงสุดเช่นนี้ทำให้พระอานนท์ ลำบากใจยิ่งนักว่าภูมิธรรมอันน้อยนิดของตนอาจทำให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปเสื่อมศรัทธาในองค์สังคายนาได้ ท่านจึงยอมสละความสุขส่วนตนเพื่อเร่งปฏิบัติอย่างหนัก เพื่อให้เข้าถึงความเป็นอรหันต์ก่อนที่การสังคายนาจะเริ่มขึ้น และแล้วในคืนก่อนการสังคายนาพระไตรปิฎกนั้นเอง จิตของท่านก็หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง และบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ทันเวลา ในขณะที่กำลังเอนกายลงนอน ซึ่งเป็นอิริยาบถที่แปลกกว่าพระสาวกองค์อื่นๆ
นับตั้งแต่บัดนั้น พระอานนท์ในความรับรู้ของพุทธศาสนิกชนจึงมิใช่เป็นเพียงภิกษุผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้าเท่านั้น หากยังเป็นต้นแบบของผู้เสียสละที่อุทิศชีวิตเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
เรื่อง อิสระพร บวรเกิด
ภาพจาก 84000.org
บทความน่าสนใจ
เรื่องเล่าวันพระพุทธเจ้าลอยถาดลงในแม่น้ำก่อนตรัสรู้ บทความเตือนสติ จากท่าน ว.วชิรเมธี
ชวนเที่ยวไหว้ 5 พระอรหันต์ กิจกรรมนี้ทำได้ทุกเมื่อ
พระจักขุปาละ ผู้มองเห็นแสงสว่างในความมืด
พระโกณฑธานเถระ ภิกษุผู้มีสตรีติดตามอยู่เบื้องหลัง
3 บุคคลที่หันหลังให้พระพุทธเจ้า - คนที่ถูกพระพุทธเจ้าทิ้ง บทความธรรมะจากท่าน ว.
พระภัททากัจจานาเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางมหาอภิญญา (พระนางยโสธราพิมพา)
ทำอย่างไรเมื่อ ความรัก พาเรามาผิดทาง อุทาหรณ์จากสตรีสมัยพุทธกาล