“ลืมตาเคลื่อนไหว ใจฮู้ซื่อ ๆ” ฝึก เจริญสติแบบเคลื่อนไหว ทีละขั้นตอน
เป็นวิถีปฏิบัติของ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ที่สอนให้ผู้ปฏิบัติเจริญสติ แบบรู้สึกตัวอยู่เสมอ ด้วยการ เจริญสติแบบเคลื่อนไหว เป็นจังหวะ และขณะเคลื่อนไหวก็รับรู้เพียงว่า ร่างกายกำลังเคลื่อนไปเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเพ่ง ภาวนา บังคับจิต หรือหลับตา ซึ่งการรู้เท่าทันการเคลื่อนไหวนี้ เป็นพื้นฐานของการรู้เท่าทันอารมณ์ และความคิดในขั้นถัดไป
พระอาจารย์นิเพ็ญ อมโร พระวิปัสสนาจารย์ ประจำวัดสนามใน กล่าวว่า การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวเป็นอุบายที่ทำให้มนุษย์เกิดปัญญารู้แจ้งและรู้จริง
“การปฏิบัติขั้นแรก เราอาจรู้เท่าทันเพียงการเคลื่อนไหว แต่เมื่อพัฒนาไปเรื่อย ๆ จะเริ่มรู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ รู้กระบวนการทำงานของจิต ว่าปรุงแต่งอย่างไร เพราะเหตุใดเราจึงเป็นทุกข์ เมื่อนั้นปัญญาก็จะงอกเงย”
ทั้งนี้พระอาจารย์นิเพ็ญแนะนำว่า วิธีเจริญสติแบบเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะปกติมนุษย์ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย ลืมตา คิด และมีอารมณ์อยู่เสมอ ฉะนั้น จึงปฏิบัติได้ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติเฉพาะเวลามาปฏิบัติธรรมเท่านั้น ทั้งยังเหมาะกับคนทุกจริต เพราะเมื่อเราพัฒนาจนเห็นความคิดได้เมื่อไร จริตทั้งหลายที่เคยหลงยึดไว้ก็จะลดหรือเบาบางลงไปเอง และหากปฏิบัติเป็นประจำก็จะค้นพบหนทางแห่งความสงบสุขได้ไม่ยาก
วิธีการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวตามคำสอนของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ มีดังนี้
ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาซ้ำไปเรื่อยๆ โดยทุกขั้นตอนต้องทำอย่างรู้สึกตัวอยู่เสมอ รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวทุกขณะ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติ
อานิสงส์อันเกิดจากการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวนั้น พระอาจารย์นิเพ็ญกล่าวว่า “หากเจริญสติติดต่อกันเหมือนลูกโซ่หรือทำอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตจะมีแต่ความสงบจิตใจเป็นปกติ ไม่ติดอยู่ในความคิด ไม่มีทิฏฐิมานะ กิเลสทั้งหลาย เช่น รัก โลภโกรธ หลง การยึดมั่นถือมั่นก็จะคลายออกเราจะไม่ทุกข์และไม่สร้างกรรมอีกต่อไป”
“มนุษย์ส่วนใหญ่รู้เพียง รู้จำ และรู้จัก ความรู้ทั้งสองชนิดนี้ได้จากการสั่งสมประสบการณ์หรือการศึกษาเล่าเรียน แต่การ รู้แจ้ง และ รู้จริง ต้องอาศัยการฝึกสติและสมาธิเท่านั้น” พระอาจารย์นิเพ็ญ อมโร
การเจริญสติตามรู้กายในกายในพระไตรปิฎก
หลายคนอาจยังไม่คุ้นหูชินตากับรูปแบบของการเจริญสติแนวเคลื่อนไหว บางแห่งถึงกับยอมรับไม่ได้ที่จะสมาทานถือปฏิบัติก็มี เรื่องนี้ ส.มหาปัญโญภิกขุ เจ้าอาวาสวัดป่าโสมพนัส จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า
ผู้มีปัญญาต้องมองกรรมฐานทุกรูปแบบเป็นเพียงอุบายฝึกสติให้ระลึกรู้กาย เวทนา จิต ธรรม เท่านั้น และมองที่อุบายไหนจะให้ได้สติสามารถนำมาแก้ทุกข์ได้จริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องลงมือพิสูจน์ และวิธีไหนที่จะเหมาะสมกับอินทรีย์ของตน
การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวอิริยาบถ ที่มีการนั่งสร้างจังหวะและการเดินจงกรมจัดอยู่ในหมวดของอิริยาบถและสัมปชัญญะบรรพ แต่ความสำคัญของกรรมฐานทุกรูปแบบนั้นเป็นเพียงเครื่องมือให้ได้ตัวรู้ “สติแบบปรมัตถ์” หรือมหาสติ เป็นอาการรู้ตัวทั่วพร้อม รู้ได้ทั้งกายและจิต
หากสติได้รับการพัฒนาตามขั้นตอนกายาคตาสติอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะเกิดอาการของอารมณ์วิปัสสนาตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดรู้กับอาการกายส่วนใด เจริญสติบรรพะไหนก็ตาม ,(ไม่ว่าจะเป็นอานาปานสติ ตามรู้ลมหายใจ,กายคตาสติ ตามรู้อิริยาบถ) จุดสตาร์ทต่างกันแต่เมื่อขึ้นสู่เส้นทางอารมณ์กรรมฐานได้แล้วก็จะเหมือนกัน
วัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมที่สอนการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว
1. วัดสนามใน 27 หมู่ 4 ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โทร. 08-7575-6275
2. วัดป่าสุคะโต หมู่ 8 บ้านใหม่ไทยเจริญ ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ โทร. 08-5411-5860
3. วัดโมกขวนาราม ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น โทร. 0-4346-8230 ,08-6450-2390 หรือ 085 006 2342
4. วัดโสมพนัส ตำบล นาหัวบ่อ อำเภอ พรรณานิคม สกลนคร โทร. 042- 704 658
ภาพประกอบ วิทวัส มีเดช