สารพันปัญหาธรรมะ กับ เรื่องบนเตียง
เรื่องบนเตียง บนความสมดุลเป็นอย่างไร วันนี้พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถาม : พระอาจารย์คะ เราต้องกำจัดเรื่องบนเตียงก่อนถึงจะบรรลุธรรมขั้นสูงได้ หรือเมื่อบรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว เรื่องบนเตียงจะถูกกำจัดไปโดยอัตโนมัติคะ
ตอบ : ไม่ต้องกำจัดหรอก กามก็เป็นอารมณ์ เป็นที่ตั้งของสติได้ เช่น ราคะเกิดที่จิต ให้รู้ว่าราคะเกิดที่จิต แล้วดูด้วยสติและสมาธิว่าราคะที่เกิดคงอยู่เสถียรถาวรไหม เกิดจากอะไร มีกิจหน้าที่อะไร มีความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวอย่างไร ดูต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเราเห็นแล้วว่าราคะที่เกิดไม่เสถียรถาวร มีความเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ปัญญาก็จะเกิดเห็นไตรลักษณ์ การเกิด - ดับของราคะ ราคะเกิดขึ้นเป็นธรรมดาก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา อย่างนี้ก็สามารถบรรลุธรรมได้โดยมีราคะเป็นฐาน เป็น “จิตตานุปัสสนา”
คนที่เป็นราคะจริตจะเอาอย่างอื่นเป็นอารมณ์คงยาก จะออกจากสิ่งไหน ยิ่งต้องอยู่กับสิ่งนั้น ยิ่งไม่อยากอยู่กับมันยิ่งต้องอยู่ แต่ต้องอยู่แบบเป็นผู้รู้ ผู้ดู โดยอาศัยสติ สมาธิ ความเพียร (อาตาปี สมฺปชาโน สติมา) เป็นเครื่องอยู่จนราคะทนอยู่กับเราไม่ได้
ถ้าจะออกจากราคะ แต่ดันหาอย่างอื่นมาให้จิตได้เสพแทน หนีไปดูทีวี ดูหนังฟังเพลง เปลี่ยนผัสสะอารมณ์ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายก็กลับมาใหม่
ถาม : เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ ที่ยิ่งปฏิบัติธรรมมากเท่าไร ยิ่งทำให้เบื่อเรื่องบนเตียงมากเท่านั้น
ตอบ : ไม่จริงหรอก ต้องอนาคามีขึ้นไปถึงจะไม่มีเรื่องกาม ถ้าคนไหนปฏิบัติถูกทาง เวลามีกิจบนเตียงจะยิ่งทำด้วยความละมุนละไม เพราะต้องการให้ความสุขแก่ฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่สนองความสุขให้ตัวเอง
ลองสังเกตดู คนส่วนมากก่อนปฏิบัติ มักเห็นแก่ตัวไม่ค่อยสนใจฝ่ายตรงข้าม แต่พอปฏิบัติธรรมมากขึ้นๆ จิตจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะให้สิ่งดีๆ สร้างความสุขทางใจให้แก่ฝ่ายตรงข้าม ทางกายเอง ทุกสัมผัสของผู้ปฏิบัติก็จะไม่เร่าร้อน ไม่ทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน เรียกว่ามีความสุขทั้งทางกายและใจ
เมถุนเป็นความสุขแบบโลกๆ ของฆราวาส ถึงเราไม่ต้องการแต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งต้องการ เราก็ต้องเข้าใจและพร้อมจะให้เขาเพราะชีวิตคู่ต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่ ไม่อย่างนั้นอาจเตียงหักได้ (หัวเราะ)
ลูกศิษย์ที่มาบวชกับพระอาจารย์หลายคน พอสึกไป ชีวิตครอบครัวก็ดีขึ้น รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย เมื่อก่อนหลายคนที่ปฏิบัติจะเป็นแบบ ถ้าฉันไม่ต้องการฉันก็จะไม่ทำ แต่สมัยนี้กลายเป็นความเข้าใจ รัก และเมตตา ปราณี พร้อมจะให้สิ่งดีๆแก่กัน ทุกครั้งที่ทำอะไรก็ให้ตั้งจิตไว้ว่า ขอให้จิตที่พร้อมจะบรรลุธรรมมาเกิด แบบนี้ถือเป็นเรื่องบนเตียงที่มีกุศลในใจไม่ถูกกิเลสจิก ใจจะไม่เร่าร้อน ไม่ทุกข์ทรมาน
ถาม : แต่คนที่ปฏิบัติธรรมแล้วไม่สนใจเรื่องบนเตียงเลยก็มีใช่ไหมคะ อย่างเช่นคนที่ติดฌาน
ตอบ : นั่นเพราะฌานมีความละเอียดและประณีตกว่า จึงทำให้มีความสุขมากกว่าความสุขแบบเนื้อหนังมังสา พวกนี้จะรู้สึกว่าการเสพเมถุนเป็นเหมือนของเด็กเล่น เป็นของหยาบ หลายคนพอได้ฌานได้สมาธิมักติดอยู่ตรงนี้ ไม่อยากไปทำตรงนั้น ชีวิตคู่ก็จะเริ่มมีปัญหา
คนไหนมีคู่แล้วแต่ติดฌาน ให้ลองดูว่าคุณได้ฌานได้สมาธิแล้วก็จริง แต่ภรรยาคุณได้สมาธิไหม ได้ฌานไหม พวกติดสมาธิส่วนมากเบื่อลูก เบื่อเมีย เบื่อโลก จะเข้าไปอยู่แต่ในถ้ำ ต้องให้เขามองใหม่ว่า ถึงแม้เราจะพ้นแล้ว แต่เราก็ต้องช่วยคนอื่นด้วย คนเราถ้าจะอยู่ร่วมกัน ต้องช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข
คนปฏิบัติส่วนใหญ่มีหลายคนเหมือนกันที่สนใจแต่ตัวเองแล้วหนีออกจากบ้านไปปฏิบัติธรรม ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนมากถ้าไม่มีเทรนเนอร์ มักจะสุดโต่งจนน่าเป็นห่วง ทำให้คู่ชีวิตของเขาพลอยเบื่อหน่ายการปฏิบัติไปด้วย
วิธีที่พระอาจารย์แนะนำคือ สามีหรือภรรยาอาจขอเวลาส่วนตัวจากคู่ชีวิตอย่างน้อยหนึ่งวัน เช่น ทุกวันพระขอถือศีลแปด ประพฤติพรหมจรรย์ งดเรื่องบนเตียง และทำกิจอื่นๆ ใส่บาตร สวดมนต์ ทำบุญ ภาวนา แบบนี้ชีวิตคู่ของเราก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนวันอื่นๆ ก็ให้ใส่ใจคู่ชีวิตเราให้มาก สัมผัสหนึ่งครั้งให้แทนกันด้วยร้อยคำพูด สัมผัสด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ให้สิ่งดีๆ แก่กัน เมื่อทั้งฝ่ายชายและหญิงมีแต่จิตที่จะคิดจะให้สิ่งดีๆ แก่กันและกัน ทุกความรักของเราก็จะไม่ตกเป็นทาสของกิเลส ไม่ถูกไฟราคะย้อมใจ มีความรักซึ่งกันและกัน ยินดีมอบความสุข ความรัก และความปรารถนาดีให้แก่กันเสมอ
ชาวโลกส่วนมากถ้าไม่มีธรรมะในใจ ไม่เข้าใจในรักและปรารถนาดีต่ออีกฝ่าย ชีวิตคู่มักไปไม่รอด และอีกฝ่ายย่อมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นๆ เพราะจิตเป็นพลังงาน ใจไม่อยู่ใจไม่มา คนที่อยู่ใกล้ชิดสามารถสัมผัสได้
หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่
บทความน่าสนใจ
10 ขั้นตอน ชวนคนรักให้ รักษาศีล หลักการแสดงความรักที่เป็นรูปธรรม
