จะทำสิ่งต่าง ๆ ไปเพื่ออะไร เพราะสุดท้ายก็คือ ความว่างเปล่า
ถาม : หากได้ศึกษาธรรมะจนเข้าใจเรื่องอัตตาอย่างถ่องแท้แล้ว แต่เกิดความคิดว่าจะสร้างสรรค์สิ่งใดๆ ไปเพื่ออะไร ทำไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็คือ ความว่างเปล่า ไม่มีอะไร ไม่มีตัวตนอยู่ดี การคิดเช่นนี้ถูกต้องไหมคะ
ตอบ : ความคิดเช่นนี้คือ มิจฉาทิฏฐิ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า จงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ของผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท นั่นคือ หากสำเร็จประโยชน์ส่วนตนด้วยการปฏิบัติธรรม โดยไม่ทุกข์ได้แล้ว แต่ไม่บำเพ็ญประโยชน์ให้กับมหาชน ถือว่าเสียชาติเกิด ยังประมาทอยู่ เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีบุญคุณต่อเขา เขายังติดหนี้บุญคุณธรรมชาติอยู่ แม้กระทั่งสายลม แสงแดด ธรรมชาติ ครอบครัว ประเทศชาติ รวมถึงทั้งโลกล้วนมีส่วนช่วยอุปการะสนับสนุนให้เขาอยู่รอดปลอดภัยได้จนถึงทุกวันนี้
แม้เขาจะรู้สึกว่า ตนสำเร็จประโยชน์ส่วนตน ด้วยการปฏิบัติธรรม ถึงขั้นเข้าใจอัตตาเรียบร้อยแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอก เขาเพียงคิดตู่ขึ้นเอง หากปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนที่แท้จริงแล้ว จะไม่เกิดความรู้สึกเฉยชาเช่นนี้ แต่จะเกิดความรู้สึกต้องการสร้างประโยชน์ต่อมหาชน เพื่อตอบแทนคุณต่อธรรมชาติ ต่อโลก และต่อทุกสรรพสิ่งอีกด้วย
พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ พระอาจารย์ผู้แก้ไขปัญหา
photo by Pixabay
หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่ นิตยสาร Secret
บทความน่าสนใจ
ปัญหาธรรมประจำวันนี้: คำว่า บุญก็ไม่เอา บาปก็ไม่เอาหมายความว่าอย่างไร
เข้าใจภาพรวมของพระพุทธศาสนาด้วยหลักธรรม 10 ประการ
เคล็ดลับอยู่ร่วมกับคนอื่นแบบเป็นสุข 6 หลักธรรมที่ชาวพุทธควรรู้
หลักธรรม 3 ข้อสำหรับ ดูแลความรัก โดยพระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ
คุณลักษณะของ ครูที่ดี ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างไร
บวชเพื่อเรียนรู้โลกและธรรม พร้อมทำงานเพื่อรับใช้ผู้คน 4 พุทธสาวิกาแห่ง เสถียรธรรมสถาน
ข้อธรรมสอนใจจากการออกธุดงค์เจอเสือของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
นิทานธรรมะ กระต่ายผู้ทรงศีล ยอมเสียสละปรารถนาให้ชีวิตเป็นทาน
ทุกคนมี คุณค่า ในมุมมองของพระพุทธศาสนา บทความธรรมะโดย พระไพศาล วิสาโล
ถ้ามั่นใจก็ตายดี วิธี จากไปอย่างสงบ บทความธรรมะโดย ครูหนุ่ย งามจิต มุทะธากุล