ทำงาน เป็นหน้าที่ ความดี ให้คนชม
คนที่มักพูดว่า ตนดีอย่างไร ทำอะไรบ้าง เหนื่อยเหลือเกิน ต้องแบกรับภาระหนัก ทำงาน ตัวเป็นเกลียว เจอใครก็พูด พบใครก็บอก ส่วนใหญ่มักเป็นผู้เรียกร้องความสนใจ แฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ก็มาก
ข้าพเจ้าเห็นว่า การทำงานเป็นหน้าที่ ส่วนความดีของเรา ให้คนอื่นเขาป่าวประกาศจะดีกว่า การคุยโอ้อวด หรือแม้เป็นความจริง ว่าเราดีกว่าใคร เป็นเรื่องน่าละอาย ผู้ดีมักไม่ยกยอตนเอง
บางคนขณะยกย่องตนเอง ก็ด่าว่าทับถมคนอื่นจนเสียหาย ทำให้ถูกมองไปว่า ตนเองสูงขึ้นมาได้เพราะเหยียบไหล่คนอื่นไป การที่สังคมไทยของเรา ต่างฝ่ายต่างก็อวดดีใส่กัน มิได้ตั้งใจทำดีให้ความดีปรากฏอย่างจริงใจ จึงมักมีภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ความดีของตนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใช้สื่อโฆษณา ตีพิมพ์ แทนที่งานจะเด่น กลับกลายเป็นคนเด่นกว่างาน
ข้าพเจ้า ตั้งข้อสังเกตให้ท่านผู้อ่านทราบว่า คนประเภทนี้ มักขึ้นต้นประโยคสนทนากับเราด้วยคำว่า ผม/ดิฉัน มิได้ขึ้นด้วยคำว่า พวกเรา
ใครก็ตามชอบพูด ผม หรือ ดิฉัน คือผู้ทำคนอื่นไม่เคยช่วย และตำหนิผู้อื่นไปด้วย คนนั้นจะขาดมิตร แทนที่เขาจะได้ใจคนฟัง กลับทำให้คนฟัง ต้องทนฟังเพราะเกรงใจ แต่หมั่นไส้อยู่ลึก ๆ ยิ่งบางคนอยู่ใกล้นาย ผู้ใหญ่ เที่ยวบรรยายขยายความดีของนาย ยกตนว่าสำคัญในฐานะผู้อยู่ใกล้นาย แล้วพูดจาข่มขู่ ฟาดฟันคนอื่นให้เสียหาย แทนที่ส่งเสริมบารมีนาย กลับทำลายความน่าเชื่อถือ แทนที่จะทำให้คนฟังเลื่อมใสคนพูด กลับทำให้พวกเขารู้สึกมีปมด้อย
คนพูด กับผู้ฟัง มีความหมายต่อกันและกันอย่างมาก บางคนพูดแล้ว ผู้ฟังรู้สึกเกิดแรงบันดาลใจ ฮึกเหิมอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง หรืออยากทำตาม แต่นักพูดบางคนพูดแล้วทำให้ผู้ฟัง รู้สึกมีปมด้อย อัศจรรย์ใจในคนพูด มองเห็นว่าคนพูดเก่งเหลือเกิน พวกเราทำตามไม่ได้หรอก
คนชมคน คือคนมีกำลังใจดี แต่คนชมตน คือคนขาดกำลังใจ
คอลัมน์ The Last Secret นิตยสาร Secret
เรื่อง ท่านปิยโสภณ (พระราชญาณกวี)
บทความน่าสนใจ