ยืดหยุ่นให้กับนิยามความสำเร็จของตัวเอง แล้วจะประสบความสำเร็จ
โรบิน โอไบรอันต์ ต้องการเขียนหนังสือให้สำนักพิมพ์ใหญ่ นักเขียนทุกคนใฝ่ฝันจะได้ทำสัญญากับสำนักพิมพ์ โรบินก็เช่นกัน แต่วรรณกรรมของเธอกลับไม่ได้ตีพิมพ์ด้วยเหตุผลเพราะ เธอมีฐานคนอ่านไม่ใหญ่พอที่พวกเขาจะตีพิมพ์หนังสือให้
ปฏิกิริยาแรกของเธอคือทำหน้ามุ่ยและเศร้าเสียใจที่ความฝันพังทลายลง เธออาจตัดสินใจยอมแพ้ และยอมหันหลังกลับไปเป็นนักเขียนนิรนามเหมือนเดิม ไม่ดิ้นรนเขียนหนังสืออีกต่อไป แต่คนอ่านบล็อกของเธอไม่ยอมอยู่เฉย พวกเขาตื้อถามเธอครั้งแล้วครั้งเล่า “เมื่อไหร่หนังสือของคุณจะวางแผง” พวกเขาตั้งคำถามในคอมเมนต์ “หนังสือของคุณเป็นอย่างไรบ้าง” ในช่วงเวลาดังกล่าว คนอ่านของเอสร้างความสัมพันธ์ประเภทบูมเมอแรงขึ้นอย่างน่าทึ่ง ทุกทวีตหรือบล็อกโพสต์ที่โรบินเขียนลงไปนั้น คือการที่เธอขว้างบูมเมอแรงออกไป จากนั้นมันสะท้อนกลับมาในช่วงเวลานี้ โรลินพยายามอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล จนเธอตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมฉันต้องเขียนหนังสือเล่มนี้?
คำตอบที่ได้ก็ธรรมดามาก “เพราะฉันไม่เขียนไม่ได้” ฉันอยากให้คนอื่นได้อ่านเพราะคิดว่ามันช่วยพวกเขาได้ พวกเขานำไปใช้ประโยชน์ได้ มันทำให้พวกเขาหัวเราะเสียงดังขณะนอนอ่านบนเตียงหลังจากผ่านพ้นวันที่เหน็ดเหนื่อย
หลังจากต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก และตัดสินใจใช้ความยืดหยุ่นความฝันของตัวเองที่จะได้เป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ชื่อดัง เธอกลับหันมาลงทุนพิมพ์หนังสือเองเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2011 เธอตั้งชื่อว่า Ketchup Is a Vegetable : and Other Lies Moms Tell Themselves เธอใช้เวลาอีกสองปีต่อมากับการเปิดท้ายรถขายหนังสือเล่มนี้ เธอขนหนังสือไปขายตามสถานที่จัดประชุม และไปทุกหนทุกแห่งที่มีคนอ่าน เธอก้าวเดินไปด้วยความเพียร
กันยายน 2013 หนังสือของเธอติดอันดับหนังสือขายดีของทั้งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ วอลล์สตรีทเจอร์นัล และยูเอสเอทูเดย์ อีหนึ่งเดือยต่อมาเธอทำสัญญากับสำนักพิมพ์เซนต์มาร์ตินส์เพรส ที่ตกลงพิมพ์หนังสือของเธอสองเล่ม
หากเรายืดหยุ่นเหมือนโรบิน และไม่ยอมแพ้ไปตั้งแต่เมื่อถูกปิดประตูปังใส่หน้า ความสำเร็จก็จะมาถึงเราในสักวัน
.
.
ขอบคุณหนังสือเกลียดวันศุกร์ รักวันจันทร์