ยังคงเป็นปัญหาความยุ่งยากของใครหลายคน ที่เมื่อซื้อคอนโดฯ แล้วยังจะต้องหาเวลาไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ตรงนั้นที ตรงนี้ที ไหนจะต้องโทรตามช่างมาติดตั้งอะไรต่างๆ นานา ไหนจะเจอปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม่พอดีกับพื้นที่ สายไฟตามผนังทำให้ดูรกหูรกตา ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและดีไซน์เฟอร์นิเจอร์เมืองไทย จึงปิ๊งไอเดียเปิดโมเดลธุรกิจใหม่เป็นของขวัญส่งท้ายปีด้วย “CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE” (คอนโด โซลูชั่นส์ @ เอสบี ดีไซน์สแควร์) ทั้งยังนับเป็นเจ้าแรกที่รวบรวมบริการตกแต่งคอนโดแบบครบวงจร พร้อมตอบทุกเรื่อง ขจัดทุกปัญหาการแต่งคอนโดได้ในที่เดียว โดยเปิดตัวที่แรก ณ เอสบี ดีไซน์สแควร์ บางนา
นางธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เผยว่า สิ่งแรกเลย คือ เอสบีเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงว่า เมื่อลูกค้าซื้อคอนโดฯ ก็อยากจะตกแต่งห้องให้สวย แต่บางครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ทั้งสไตล์ที่ชอบ แบบที่ใช่ ช่างที่ไว้ใจได้ รวมถึงเรื่องงบประมาณ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะหมดปัญหาไปเมื่อได้มาที่ CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE เพราะครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ที่สามารถตอบโจทย์เพียงเรื่องการออกแบบ การใช้งาน คุณภาพและความสวยงามเท่านั้น แต่เอสบีจะเข้ามาช่วยดูแล “งานตกแต่งคอนโด” ให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งงานปูพื้น ดรอปฝ้า ย้ายปลั๊ก ทำผนังตกแต่ง กรุกระจก เติมไฟประดับ ติดฟิมล์กันความร้อน ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ ติดตั้ง Digital Door Lock และระบบ Smart Home System
“การที่เอสบีมาทำแบบนี้ คือ การเดินเข้าสู่โลก Disruptive ซึ่งมันคือการเอา Pain Point ของผู้บริโภคมาหา Solution ให้ทุกอย่างง่ายขึ้น จึงเป็นที่มาของ CONDO SOLUTIONS ซึ่งทางเอสบีกำลังก้าวล้ำไปกว่าพวก Disruptive โดยทั่วไป คือ การเป็น Hybrid Disruptive ผนวกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคเอง ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่วาง 3D และดึง Database ทุกอย่างที่เอสบีมีเอามาใช้ เรียกได้ว่าลงตัวทั้งคนและโลกดิจิตอล ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ปล่อยให้เครื่องมือทำงานอย่างเดียว เพราะว่าบ้าน คือการใส่ใจลงไปด้วย เรายังมีทีมงาน Interior Designer มืออาชีพคอยช่วยดูแลเรื่องออกแบบและสไตล์การตกแต่ง และทีม Condo Décor Planner ที่เป็นมากกว่าผู้ช่วยส่วนตัว คอยให้คำปรึกษา ติดตามงาน บริหารจัดการเวลาและวางแผนงานติดตั้งต่างๆ ให้กับลูกค้า เพื่อให้การแต่งคอนโดของลูกค้าเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายขึ้น”
โดยในงานเปิดตัว CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE ยังยกห้องตัวอย่างแปลนห้องจริงของคอนโดโครงการต่างๆ พร้อมไอเดียการตกแต่งมาไว้ให้ดูถึง 6 แบบ ซึ่งแต่ละแบบเรียกว่าสะท้อนสไตล์ที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น แบบที่ 1 เป็นการนำแปลนห้องขนาด 33.5 ตารางเมตร จากโครงการ Ideo สุขุมวิท 93 มาตกแต่งเป็นสไตล์ “Modern Luxury” ที่มีความเรียบหรู ดูทันสมัย ด้วยหลากวัสดุอินเทรนด์ อาทิ ลายหินอ่อนสีดำ Crystal High Gross อะลูมิเนียมสีทอง กระจกเงาเทา ขณะที่ แบบที่ 2 ด้วยพื้นที่เท่ากันในโครงการเดียวกัน แต่มาในสไตล์ “Metro Luxe” ที่โฉบเฉี่ยวแบบแฟชั่นลุค โดดเด่นในธีมสีเทาเข้มขรึม แต่หยอดความมีชีวิตชีวาด้วยสีสันแห่งดีไซน์
Modern Luxury
Modern Luxury (2)
ตามมาด้วย แบบที่ 3 กับขนาดพื้นที่ 33 ตารางเมตร โครงการ The Line สุขุมวิท 101 ถูกเนรมิตรในสไตล์ “Stylish Loft” ที่บ่งบอกเอกลักษณ์แห่งตัวตน สะท้อนความดิบ เท่ สไตล์ลอฟท์ ด้วยการตกแต่งที่เน้นเผยผิวสัมผัสของหลากวัสดุ ทั้งลายไม้ เหล็กและผ้า นอกจากการตกแต่งสไตล์เท่ๆ แล้ว
Stylish Loft
Scandi Chic
ลองมาดูสไตล์หวานๆ กันบ้างกับ แบบที่ 4 ที่จำลองห้องขนาด 33.7 ตารางเมตร ของโครงการ Whizdom Essence สุขุมวิท 101 มาตกแต่งในสไตล์ “Scandi Chic” ซึ่งมีความสวยเรียบ แต่ซ่อนเสน่ห์ด้วยลายไม้สีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่น และโปร่งสบาย สไตล์สแกนดิเนเวีย บอกรสนิยมอย่างมีระดับ
Classy Urban
ต่อกันด้วย แบบที่ 5 “Classy Urban” ที่หยิบเอาโครงการ Ideo Mobi สุขุมวิท 66 ขนาด 52.5 ตารางเมตร มาตกแต่งแบบไลฟ์สไตล์คนเมืองให้สัมผัสอบอุ่นแต่หรูหรามีสไตล์ ด้วยการผสานสีเอิร์ธโทนเข้ากับวัสดุ ลายหิน ลายไม้ และคริสตัลไฮกลอส และปิดท้ายด้วยสไตล์ที่หนุ่ม-สาวสายวินเทจห้ามพลาด กับ แบบที่ 6 “Classic White” ด้วยการเนรมิตห้องขนาด 22 ตารางเมตร ของโครงการ Knights Bridge Prime Onnut ให้ออกมาสวยคลาสสิค อ่อนหวาน ผสานความทันสมัย โดดเด่นด้วยหน้าบ้านสีพ่นสีขาว ดีไซน์คิ้วบัวสุดประณีต บอกเอกลักษณ์สไตล์วินเทจสุดๆ พร้อมกันนี้ทุกห้องยังสามารถติดตั้ง Digital Door Lock และเพิ่มระบบ Smart Home System เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตแบบ Smart Metro Lifestyle ได้อย่างลงตัวอีกด้วย