เมื่อทั่วโลกกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ถึงเวลาปลดปล่อยจินตนาการให้โลดแล่นกว้างไกลกว่าเดิม มาเติมไฟ สร้างแรงบันดาลใจ ในงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ที่พร้อมกลับมามอบความสุขอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่ 24 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 กันยายน ถึง 18 ตุลาคม 2565 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
มหกรรมฯ ครั้งนี้ มาพร้อมกับ 11 ชุดการแสดงที่พลาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคลาสสิกที่ทุกคนเฝ้ารอ ไปจนถึงการแสดงสมัยใหม่ที่น่าตื่นตะลึง พบกับศิลปินนักร้องคลาสสิกที่มีผลงานขายดีที่สุดแห่งศตวรรษ แคทเทอรีน เจนกินส์ ที่จะกลับมาอีกครั้งตามเสียงเรียกร้อง หลังจากได้ฝากการแสดงสุดประทับใจไว้เมื่อปีที่แล้ว โดยจะมาเปิดม่านการแสดงในมหกรรมฯ ครั้งที่ 24 นี้ และนับเป็นครั้งแรกของมหกรรมฯ ที่มีนำศิลปินกลับมาแสดงติดต่อกันถึงสองปี และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีแบบผสมแนวคลาสสิก ป็อบ ร็อก เตรียมพบกับเหล่านักดนตรีชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น นักเปียโนไอคอนระดับโลก แมกซิม มิรวิก้า และวงเท็น เทเนอร์ส นักร้องชายหนุ่ม 10 คนจากออสเตรเลีย ในส่วนของการแสดงเต้นนั้น เตรียมพบกับศิลปะการเริงระบำของคณะแทงโก้ วีว่า ตามด้วยการเต้นแบบร่วมสมัยของคณะโทเดส ที่จะทำให้พวกคุณตื่นตาตื่นใจด้วยเทคนิคการเต้นหลากสไตล์และลีลากายกรรมสุดพริ้ว และห้ามพลาดกับฝีเท้าแท็ปแดนซ์ของคณะเซลทิก เลเจนส์ นอกจากนี้ยังมีคณะบอลชอยแห่งเบลารุส งัดหมัดเด็ดกับการแสดงบัลเลต์ชื่อดังตลอดกาล 3 เรื่อง ได้แก่ นัทแครกเกอร์ (Nutcracker) เชอเฮเรอสาด/ คาร์เมน สวีท(Scheherazade/Carmen Suite) และเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ไม่เพียงเท่านั้น ในปีนี้ยังมีการแสดงบัลเลต์ สวอนเลค (Swan Lake) ถึง 2 เวอร์ชัน ที่จะถูกถ่ายทอดเรื่องราวอย่างสวยงามแต่ต่างทางอรรถศิลป์ ฉบับคลาสสิกตระการตาจากคณะบัลเลต์สตานิสลาฟสกี และฉบับตีความใหม่สุดล้ำจาก บัลเลต์ เปรลโจกาจ จากฝรั่งเศส
สิ่งที่น่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ที่ได้เปิดโอกาสให้ศิลปินเยาวชนได้ร่วมแสดงบนเวทีเดียวกันกับศิลปินระดับตำนาน ภายใต้โครงการเพื่อเยาวชน (Student Outreach Program) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการศึกษาด้านวัฒนธรรมในประเทศไทย ด้วยการจัดให้มีการแสดงและมาสเตอร์คลาสจากศิลปินชื่อดังที่ได้รับเชิญมาร่วมมหกรรมฯ โดยมีความหวังว่าการสร้างการมีส่วนร่วมและความซาบซึ้งในดนตรี การนาฏศิลป์ การละคร และศิลปะแขนงอื่น ๆ จากหลากหลายวัฒนธรรม สังคม และประเพณี จะช่วยหล่อหลอมคนรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และส่งต่อแรงบันดาลใจในก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกได้อย่างแท้จริง
สำหรับมหกรรมฯ ในครั้งนี้ จะเปิดประเดิมด้วยการแสดงชุดแรก โดย ซูเปอร์สตาร์เสียงเมซโซโซปราโน แคทเธอรีน เจนกินส์ ศิลปินขวัญใจราชวงศ์อังกฤษ ที่กลับมาเปิดม่านการแสดงในมหกรรมฯ ครั้งที่ 24 ร่วมกับวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ หรือ Royal Bangkok Symphony Orchestra ภายใต้การควบคุมวงของ แอนโทนี่ อิงกลิช วาทยากรผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่
ต่อด้วยการแสดงบัลเลต์เรื่อง สวอนเลค จากคณะบัลเลต์สตานิสลาฟสกี ซึ่งก่อตั้งมาแล้วเกือบ 100 ปี เป็นที่รู้จักในด้านการใส่ใจตีความบุคลิกของตัวละครหลัก รวมถึงรายละเอียดความรู้สึกนึกคิดของตัวละครเหล่านั้น รังสรรค์งานแสดงออกมา ราวกับเป็นชิ้นงานศิลปะแบบองค์รวมที่ให้ความสำคัญทั้งการเต้น การแสดงละคร และดนตรี โดยนักออกแบบท่าเต้น วลาดิเมียร์ เบอร์ไมสเตอร์ ที่ได้ตีความเพลงของ สวอนเลค ออกมาให้มีลักษณะเบา ไพเราะ และสมจริง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคณะฯ นับตั้งแต่เปิดแสดงครั้งแรกในปี 1953 และยังมีชื่อเสียงในด้านการนำบทประพันธ์ครบทุกองค์ของไชคอฟสกีมาใช้ ซึ่งรวมถึงบทนำ บทส่งท้าย พายุ (The storm) การอำลาของเหล่าหงส์ (The farewell dance of the swans) และอีกมากมาย ซึ่งทำให้การแสดงนี้กลายเป็นการแสดงบัลเลต์สวอนเลคฉบับสมบูรณ์แบบ สมจริง และได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์จำนวนมากว่าเป็นสวอน เลคที่ดีที่สุดในโลก
พร้อมพบกับการแสดงจากนักเปียโนชาวโครเอเชีย แมกซิม มิรวิก้า หนึ่งในนักเปียโนไอคอนระดับโลกสายคลาสสิกผสานดนตรีแนวใหม่ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยรางวัล MTV Award รางวัลดับเบิลแพลทินัมอัลบัม และรางวัลอื่น ๆ มากมาย แมกซิมทะลายขอบเขตแนวดนตรี ตั้งแต่ดนตรีคลาสสิกและดนตรีประกอบภาพยนตร์ ไปจนถึงป็อปและอิเล็กทรอนิกส์ แมกซิมได้รับเชิญไปแสดงรอบโลกไม่ว่าจะเป็น การแสดงร่วมกับวงมอสโกว ฟิลฮาร์โมนิก ออร์เคสตรา ไปจนถึงการเปิดการแสดงที่ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ รวมถึงอัลบัม “Piano Player” ของแมกซิมนั้นมียอดขายมากกว่า 4 ล้านชุด และทัวร์การแสดงในเมืองต่าง ๆ กว่า 20 เมืองในญี่ปุ่น ถือเป็นทัวร์ศิลปินระดับอินเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้สไตล์การแต่งตัวของเขายังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าดีไซน์เนอร์ชื่อดัง โดยเขาได้ร่วมงานกับ Dolce&Gabbana Armani และ Christian Dior และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้ชายที่แต่งตัวดีที่สุด จากนิตยสาร Vogue Homme มาแล้ว
และพลาดไม่ได้กับการแสดงจากคณะแทงโก้ วีว่า ในโชว์ชุด Everything is Tango ที่ได้ทำการแสดงในกว่า 50 ประเทศและต่อหน้าบุคคลสำคัญมากมาย อย่างอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า แทงโก้ วีว่าเป็นคณะเต้นรำจากบัวโนสไอเรสที่ได้รับการยกย่องทางวัฒนธรรมจากกระทรวงวัฒนธรรมอาร์เจนตินา ผู้กำกับศิลป์ของคณะได้รับเชิญจากรัฐบาลอาร์เจนตินาให้จัดมาสเตอร์คลาสให้กับนักเต้นมืออาชีพที่ World Tango Championship ในปี 2017 โดยเน้นดนตรีจังหวะคลาสสิกแทงโก้เป็นหลัก แต่ยังรวมถึงแนวเพลงอื่น ๆ เช่น Swan Lake ของ Tchaikovsky และ เพลง Love of My Life ของ Queen เรียบเรียงโดยผู้อำนวยเพลงประจำคณะซึ่งเป็นนักดนตรีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งของอาร์เจนตินา และอยู่เบื้องหลังเพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลากหลายเรื่อง รวมถึงเรื่อง Evita ที่นำแสดงโดยมาดอนน่าด้วย
รวมทั้งอีกชุดการแสดงที่พลาดไม่ได้เช่นกัน คือการแสดงจาก คณะโทเดส ด้วยพื้นฐานการเต้นเบรกแดนซ์และการเป็นทีมแบ็คอัพให้กับป็อปสตาร์ คณะโทเดส ได้ผสมผสานบัลเลต์และโอเปร่าคลาสสิกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปแบบการเต้นร่วมสมัยที่ฉีกกฎเกณฑ์ทั้งหมดของการเต้นร่วมสมัย การเต้นที่ผสานกายกรรมนี้เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของศิลปินนักปฏิวัติอัลลา ดูโควา ผู้ก่อตั้งกลุ่ม ผู้กำกับศิลป์ และหัวหน้านักออกแบบท่าเต้น และบ่อเกิดของแรงบันดาลใจที่ไม่สิ้นสุดในโลกแห่งการเต้นรำ การแสดงที่จะมาแสดงที่กรุงเทพฯ นี้ ชื่อว่า Attention ซึ่งจะเปลี่ยนความคิดของคุณเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการออกแบบท่าเต้นสมัยใหม่ การเดินทางที่น่าตื่นเต้นผ่านความกว้างใหญ่ของจิตวิญญาณมนุษย์ สำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างหญิงชาย ความลุ่มหลงที่ร้อนแรง และความสุขที่ไร้ขอบเขต คุณจะไม่อยากพลาดการฉลองพลังแห่งความรักและความงามของชีวิตที่การแสดงชุดนี้ได้อุทิศให้อย่างแน่นอน
ไปต่อที่ วง เท็น เทเนอร์ส ที่กลับมาอีกครั้งด้วยชุดการแสดงอันยิ่งใหญ่ผสมผสานดนตรีร็อกเข้ากับดนตรีคลาสสิก จะมาร่ายมนต์สะกดทุกสายตา การันตีด้วยอัลบัมกว่า 15 ชุด รวมถึงรางวัลดับเบิลแพลทินัมอัลบัมล่าสุดที่คว้ามา และการแสดงสดกว่า 4,000 ครั้ง นักร้องเสียงเทเนอร์ 10 คนพร้อมสร้างปรากฎการณ์สุดพิเศษ มาพร้อมกับนักดนตรีที่มีความสามารถหลากหลาย พวกเขาเคยได้ร่วมระดมเงินกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบริจาคให้องค์กรการกุศลทั่วโลกอีกด้วย เท็น เทเนอร์ส ขายบัตรคอนเสิร์ตไปแล้วกว่า 4 ล้านใบและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้รับรางวัลขายดีระดับโกลด์ถึง 4 อัลบัม และระดับแพลตตินั่ม 2 อัลบัม ซึ่งความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้พวกเขาได้รับเชิญไปปรากฏตัวในรายการ Oprah’s Ultimate Australian Adventure เท็น เทเนอร์สถือเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ในระดับเดียวกับ Queen และ Meatloaf ด้วยผลงานเพลงร็อกดั้งเดิมที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยดนตรีคลาสสิก หรือเรียกว่าดนตรีคลาสสิกที่ร็อกอย่างแท้จริง
ถ้าทั้งหมดที่กล่าวมายังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณตื่นเต้น ยังมีการแสดงเต้นจากคณะเซลทิก เลเจนส์ มาทำให้คุณขยับเท้าตามอย่างแน่นอน คณะเซลทิก เลเจนส์ ถือกำเนิดขึ้นบริเวณเนินเขาคอนเนมาราของไอร์แลนด์ในปี 2002 และทำการแสดงเต้นแท็ปแดนซ์ไปทั่วโลก โดยแสดงให้เห็นถึงพลังการเคลื่อนไหวและความรื่นเริงของวัฒนธรรมไอริชดั้งเดิม และดึงดูดผู้ชมให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวชมเกาะเอเมรัลด์ ไอล์ นักเต้นเหล่านี้คว้าแชมป์โลกมาแล้วหลายครั้งและได้ออกทัวร์การแสดงต่าง ๆ อาทิ ริเวอร์แดนซ์ และลอร์ด ออฟ เดอะ แดนซ์ ในส่วนของนักดนตรีนั้นจะบรรเลงโดยหนึ่งในผู้เล่นไปป์ที่เก่งที่สุดในโลก ดนตรีและวัฒนธรรมการเต้นของชาวไอริชมีชีวิตชีวาขึ้นมาจากความไวของฝีเท้าและเพลงประกอบที่สนุกสนานจากคณะนักเต้นกลุ่มดีกรีรางวัล ซึ่งจะทำให้คุณอยากลุกขึ้นมาเต้นไปพร้อมกัน
หากคุณคิดว่ารู้จักสวอนเลคดีแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมรับเซอร์ไพรส์จากคณะบัลเลต์เปรลโจกาจ โดยมีแองเจลิน เปรลโจกาจ ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Officier des Arts et des Lettres และ Chevalier de la Légion d’Honneur จากรัฐบาลฝรั่งเศส มาเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นที่ทรงพลังและกระตุ้นความคิด บิดมุมมองของโลกในยุคปัจจุบัน โดยนำประเด็นเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โลกทุนนิยม การสืบทอดมรดกมาเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งทางคณะฯ ได้รับรางวัล Samuel H. Scripps/ American Dance Festival Award for Lifetime Achievement มาแล้ว ทั้งนี้ คณะบัลเลต์เปรลโจกาจได้ผสมผสานบทประพันธ์ชิ้นเอกของไชคอฟสกีกับการเรียบเรียงดนตรีแบบร่วมสมัย ออกมาเป็นตำนานสวอนเลคที่มีเอกลักษณ์ และเป็นการไว้อาลัยให้กับปรมาจารย์ด้านบัลเลต์ มาเรียส เปติปา ด้วย โดยได้ศิลปินกราฟฟิก บอริส แล็บเบ้ มือรางวัลเข้ามาออกแบบภาพเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มมิติให้แก่การแสดงอันวิจิตรงดงามของนักบัลเลต์ทั้ง 26 ชีวิตบนเวที
สำหรับการแสดง 3 ชุดสุดท้ายของงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ในปีนี้ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าคณะบอลชอยแห่งกรุงเบลารุส ที่จะมาถ่ายทอดวัฒนธรรมเบลารุส ผ่านท่วงท่าของนักบัลเลต์จำนวน 80 ชีวิต และไม่มีมหกรรมศิลปะการแสดงใดที่จะสมบูรณ์แบบไปได้หากขาดการแสดงเรื่อง นัทแครกเกอร์ เรื่องราวดินแดนในฝันของเด็กหญิงในวันคริสต์มาส ต่อด้วยเรื่อง เชอเฮเรอสาด และ คาร์เมน สวีท ที่นับว่ามาคืนเดียว ได้ชมถึง 2 เรื่อง ถือเป็นค่ำคืนแห่งความบันเทิงอย่างแท้จริง โดยเรื่องเชอเฮเรอสาดนั้นกำกับการแสดงโดยนักเต้นชื่อดังระดับโลกอย่าง อานดรีซ ลีเอปา ส่วนคาร์เมน สวีท ถือเป็นหนึ่งในบทเพลงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี สุดท้าย ส่งท้ายมหกรรมฯ ด้วยการแสดงบัลเลต์เรื่องเจ้าหญิงนิทราสุดคลาสสิก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความรักมีชัยเหนือความชั่วร้าย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่โปรดปราน ปิดม่านมหกรรมฯ ครั้งนี้ลงอย่างประทับใจ
การแสดงที่เต็มไปด้วยเหล่าศิลปินมากความสามารถนี้ พร้อมแล้วที่จะสะกดทุกสัมผัสให้ตราตรึงในหัวใจของทุกคน มาร่วมเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของมนุษยชาติ สานต่องานสร้างสรรค์ และร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจ ในมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 24 สามารถสำรองที่นั่งได้ที่www.thaiticketmajor.com/icp2022