มาเที่ยวจังหวัดตราด ใครๆ ก็มักจะนึกถึง “เกาะช้าง” เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาว แต่นอกจากเกาะช้างจะเป็นแหล่งทะเลที่สวยงามยอดฮิตแล้ว ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจให้เราได้ไปเยือนกันอีกมากมายค่ะ และวันนี้เราจะพาไปเที่ยวเกาะช้างกัน โดยสถานที่ที่เรามาถึงจุดแรกนี้ก็คือหาดทรายขาว เป็นหาดทรายที่ยาวและมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมากๆ เลยค่ะ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวที่เกาะช้างนั้น สามารถเดินทางมาจากตัวเมือง จ.ตราด โดยใช้ถนนหมายเลข 3148 ระยะทางประมาณ 25 กม. จากนั้นเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 3156 มุ่งหน้าไปยัง อ.แหลมงอบ โดยให้สังเกตป้ายบอกทางไปยังท่าเรือค่ะ
ท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะช้างนี้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะนำรถส่วนตัวเข้าไปยังเกาะได้ โดยใช้บริการเรือข้ามฟาก ณ ท่าเรือเฟอร์รี่ หรือท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยต์ ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันค่ะ หากนักท่องเที่ยวข้ามเรือมาแล้วเลี้ยวขวาวิ่งมาตามทาง หาดทรายขาวก็จะถือได้ว่าเป็นหาดทรายแรกของเกาะ ทำให้หาดทรายแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากค่ะ
เกาะช้างทางฝั่งของหาดทรายขาวนี้ นอกจากจะคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแล้วยังเต็มไปด้วยที่พัก โรงแรม และร้านขายของที่ระลึกที่มีอยู่เยอะมากๆ เลยค่ะ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวยังอีกมุมหนึ่งของเกาะช้างที่ต้องบอกว่าเราจะเห็นได้ถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเกาะช้าง สถานที่ที่ว่านี้ก็คือชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ค่ะ
การเดินทางมาที่ชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่นี้หากเราข้ามเรือมาที่เกาะช้างให้เลี้ยวซ้ายและขับตรงมาตามทางค่ะ ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นเส้นทางเดินเรือและเป็นจุดแวะพักของพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานและทำมาค้าขายกับคนในพื้นที่ค่ะ และเสน่ห์อีกอย่างของคนในชุมชนแห่งนี้ก็คือการใช้ชีวิตเรียบง่าย และคงไว้ซึ่งอาชีพดั้งเดิมของคนในชุมชนนั้นก็คือการทำประมงพื้นบ้านและการทำสวนค่ะ
และสถานที่แรกที่เราจะพามาเที่ยวกันนั้น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญกับชาวบ้านในชุมชนนั่นก็คือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่นี่เป็นสถานที่เก่าแก่ที่อยู่มานานกว่า 200 ปี ใครมาถึงก็ควรมาสักการะกราบไหว้ เพราะที่นี่เป็นที่เคารพของคนในชุมชนอย่างมากค่ะ
จากศาลเจ้าแม่ทับทิมอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความเก่าแก่ที่เราจะไปต่อกันคือวัดคลองนนทรีค่ะ มาถึงที่นี่สิ่งแรกที่จะเห็นเลยคือต้นสีระพัน (ลิ้นจี่ป่า) จากประวัติมีการเล่าว่าในอดีตเรือสำเภาจีนมาจอดเพื่อขนของมาขายแล้วนำลิ้นจี่มาจากประเทศจีนมากินแล้วทิ้งเม็ดเอาไว้จนเกิดเป็นต้นลิ้นจี่ป่าขนาด 3 คนโอบในปัจจุบัน ขอบอกก่อนว่าลิ้นจี่ 200 ปีเหล่านี้ยังออกผลผลิตลูกมาให้ได้กินอยู่เลยนะคะ และจากการไปชมในครั้งนี้เราได้มีโอกาสชิมลูกลิ้นจี่ 200 ปีนี้อีกด้วยนะคะ ถือว่าเป็นบุญจริงๆค่ะ และหากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ ก็อย่าลืมแวะมาที่วัดคลองนนทรี เพื่อมาชมต้นสีระมัน 200 ปี ต้นไม้เก่าแก่ของชุมชนที่ต้องบอกว่าสูงใหญ่และสง่างามมากๆ เลยค่ะ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมาเป็นหมู่คณะ ที่ชุมชนจะมีรถสองแถวไว้คอยให้บริการพานักท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ซึ่งก็จะเป็นรถของชาวบ้านที่ชุมชนนี่ล่ะคะ พอว่างจากงานก็มาหารายได้โดยการพานักท่องเที่ยวไปที่ที่อยากไป ถือเป็นการเสริมรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
และจุดหมายต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกันต่อก็คือ น้ำตกคลองนนทรี เป็นน้ำตกที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ค่ะ โดยในอดีตรัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จผ่านและแวะชมและพักที่น้ำตกแห่งนี้ ที่นี่ถือว่าเป็นน้ำตกประจำชุมชน ถ้าหากใครอยากมาเห็นช่วงน้ำตกเยอะๆ แนะนำให้มาช่วงเดือนพฤษภาคม-มกราคม ค่ะ ช่วงนั้นน้ำตกจะสวยงามเหมาะแก่การมาเที่ยวมากๆ เลยทีเดียว
หลังจากที่เราท่องเที่ยวบังที่ต่างๆ แล้ว พอตกเย็นก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว ซึ่งที่พักของเรานั้นขอบอกว่าสวยมากๆ เลยค่ะ ที่นั่นก็คือ บ้านไม้ริมฝั่งน้ำ เป็นโฮมสเตย์ที่มีความสวยงามแบบโบราณคลาสสิค และอยู่ติดริมทะเล บ้านหลังหนึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 30-40 คน เลยทีเดียว ที่นี่น่าจะถูกใจผู้ที่หลงใหลในความเก่าและความเป็นธรรมชาติ รวมถึงบรรยากาศที่เงียบสงบ ต้องลองแวะมาพักที่นี่สักครั้งค่ะ นอกจากที่นี่จะมีที่พักสวยๆ แล้วยังมีพื้นที่สำหรับปิ้งย่างอาหารทะเลสดๆ ท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ
เช้านี้เราจะพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งบริเวณหน้าศาลจะมีสะพานไม้ทอดยาวออกไปในทะเล ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่งบนเกาะช้างค่ะ
หลังจากเราชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นกันแล้ว เราจะไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันบ้างค่ะ ซึ่งนอกจะได้ชมความสวยงามของท้องทะเลแล้วยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้แก่ชุมชนอีกด้วย โดยเราจะไปกันที่เกาะช้างน้อย มาถึงจะเห็นน้ำทะเลใสๆ จนมองเห็นปะการังด้านล่างเลยค่ะ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้เราจะเตรียมเอาถุงดำเพื่อใส่ขยะที่มี รวมถึงเก็บเอาขยะที่อยู่ในเกาะกลับมาด้วยค่ะ เรียกว่ามาดำน้ำด้วยเก็บขยะไปด้วย เพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมนั่นเองค่ะ
ก่อนที่เราจะกลับไปยังได้มีโอกาสแวะดูกระชังปลาของชุมชนค่ะ ซึ่งถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งของที่นี่ โดยกระชังปลานี้ก็เป็นของชาวประมงที่เลี้ยงปลาเอาไว้ และสามารถตกปลากันในกระชังได้เลยแบบสดๆ เราจะได้เห็นวิธีการให้เหยื่อปลาด้วยนะคะ ซึ่งปลาที่เลี้ยงก็จะเป็นปลาอินทรีย์ ปลาเก๋า โดยชาวประมงจะมีการรวมกลุ่มกันเลี้ยงอยู่บริเวณนี้ประมาณ 3-4 ราย ค่ะ
นอกจากกระชังปลาที่นักท่องเที่ยวสามารถไปตกปลา และซื้อปลาสดๆ กันได้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่รักอาหารทะเลไม่ควรพลาดนั่นก็คือ แหล่งซื้ออาหารทะเลสดๆ ค่ะ ขอบอกว่าอาหารทะเลที่นี่ถูกและสดมากๆ ที่นี่ก็คือ ท่าเรือประมงของชุมชนค่ะ เข้ามาถึงเราจะเห็นกลุ่มเรือประมงจอดเรียงรายกันอยู่หลายลำ โดยเวลาที่เรือประมงจะทยอยเข้ามาจอดเพื่อเอาของทะเลมาขึ้นที่นี่จะเป็นเวลาประมาณ 3-4 โมงเย็น ใครที่อยากหาของทะเลสดๆ ทานกันก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะได้ของที่ทั้งสดและราคาไม่แพงอีกด้วย
จากท่าเรือประมงของชุมชน เราจะไปเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างที่สวนผลไม้สมโภชน์ ที่เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เข้าไปถึงจะเห็นผลไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกแบบผสมผสาน ที่เด็ดสุดน่าจะเป็นทุเรียน 2 สายพันธุ์ของสวนแห่งนี้ค่ะ คือใน 1 ต้น จะมีทุเรียน 2 ชนิดอนู่ คือ พันธุ์ชะนี และพันธุ์ก้านยาว อยู่บนต้นเดียวกัน
ที่สวนแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่ให้ความรู้เรื่องการทำเกษตรแบบผสมผสานแล้ว ผลผลิตที่ได้ก็จะนำมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่หน้าสวนอีกด้วย และนอกจากขายที่หน้าร้านที่นี่ยังขายผ่านระบบออนไลน์ โดยเป็นเพจเฟสบุคของสวนสมโภชน์อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเกาะช้าง และอยากหาซื้อผลไม้สดๆ จากต้นก็ลองแวะมาที่สวนแห่งนี้ได้ นอกจากผลไม้สดๆ ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ผลิตในชุมชนจำหน่ายด้วย เช่น กะปิเกาะช้างแท้ๆ ชาใบหม่อน แวะมาอุดหนุนกันได้ค่ะ
ชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ แห่งนี้ เป้นชุมชนดั้งเดิมที่ชาวบ้านยังคงรักษาเอกลักษณ์และวิถีดั้งเดิมของตัวเองเอาไว้ โดยมีเรื่องราวของการท่องเที่ยวชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมอาชีพของชาวบ้าน และสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ซึ่งสถานที่สำคัญต่างๆ ของคนในชุมชนนั้นต้องบอกว่ายังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวค่ะ ทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุยรับทราบปัญหาและหาทางออกร่วมกันที่จะทำให้สถานที่ต่างๆ ของชุมชนเป็นที่รู้จักมากขึ้นค่ะ
จากการพูดคุยกับชาวบ้านทำให้ทราบว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการขาดการประชาสัมพันธ์ นักท่องเที่ยวจะยังไม่ค่อยรู้ว่ามาถึงควรจะเลี้ยวตรงไหนถึงจะมาชุมชนได้ก็อาจจะเลี้ยวผิดจนเลยผ่านชุมชนไป ดังนั้นควรมีป้ายบอกทางที่ชัดเจนหรือแผนที่เพื่อแสดงแต่ละจุด โดยเราได้นำโจทย์นี้ไปคิดและหาทางแก้ไขร่วมกับชาวบ้านในชุมชน ซึ่งก่อนอื่นเราก็ต้องออกสำรวจยังจุดต่างๆ ที่จะใช้ติดแผนที่ ต้องดูสถานที่ที่เป็นจุดสังเกตอย่างท่าเรือเฟอร์รี่ หรือบางจุดที่ต้องเคลียร์พื้นที่เพื่อติดตั้งป้าย โดยแผนที่ดังกล่าวจะต้องมีสีสันที่สดใสเพื่อดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวอีกด้วย
และผู้ที่จะมาช่วยสร้างความชื่นใจให้แก่ชุมชนครั้งนี้ คือ คุณต๊อด อารัก์ อ่อนวิลัย ศิลปินนักออกแบบอิสระ เจ้าของฉายา Sahred Toy ซึ่งงานสร้างสรรค์สีสันสดใสเป็นงานถนัดของคุณต๊อดเลยค่ะ เมื่อได้รับโจทย์จากชาวบ้านมาแล้วคุณต๊อดก็ได้เริ่มร่างแบบตามรายละเอียดที่ชุมชนต้องการเลยค่ะ
ระหว่างที่รอคุรต๊อดออกแบบรายละเอียดงานอยู่นั้น เราก็พามาแวะอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่นักท่องเที่ยวจะได้ชิมกัน เฉพาะช่วงหน้านี้เท่านั้นก็คือ ทุเรียนนั่นเองค่ะ โดยทุเรียนที่เกาะช้างมีพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกกันอยู่มากนั่นก็คือพันธุ์ชะนีเกาะช้างค่ะ ทุเรียนพันธุ์นี้มีชื่อเสียงด้านความอร่อยมากๆ เลยนะคะ โดยเราจะไปกันที่สวนทุเรียนวิโรจน์ค่ะ
ทุเรียนพันธุ์ชะนีที่เกาะช้างนี้นอกจากจะไม่ใช้สารเคมีแล้ว ชาวบ้านยังมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่ตัดทุเรียนอ่อน เพราะนอกจากจะผิดกฏหมายแล้ว ยังทำให้ได้ทุเรียนที่ไม่มีคุณภาพด้วย ทำให้ทุเรียนของที่นี่นั้นเมื่อตัดออกจากต้นจะสุกภายใน 3-4 วัน จึงไม่สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้เหมือนทุเรียนพันธ์อื่นๆ ค่ะ แต่ขอบอกว่าถึงแม้จะไม่เน้นส่งออกพ่อค้าแม่ค้าก็มารับซื้อกันถึงสวนอยู่ดีค่ะ เพราะความอร่อยของทุเรียนที่นี่ไม่เป็นสองรองใคร ทุเรียนที่นี้ผ่านการรับรองจากภาครัฐมาแล้วนะคะ ว่านอกจากความอร่อยแล้วยังมีวิตามินอี ไอโอดีน เนื่องจากดินที่นี่เป็นดินภูเขาไฟเก่า แถมมีไอน้ำจากทะเลเป็นตัวช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้ทุเรียนอีกด้วยค่ะ
และก็มาถึงช่วงเวลาแห่งความชื่นใจที่เราจะช่วยชาวบ้านและชุมชนออกแบบแผนที่บอกทางกันแล้วค่ะ คุณต๊อดและทีมงานได้เดินทางมาถึงพร้อมแผนที่ที่ออกแบบมาอย่างเรียบร้อย และพร้อมที่จะนำมาติดตั้ง ในขณะเดียวกันชาวบ้านบางส่วนก็ได้จัดเตรียมวัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการติดตั้งแผนที่กันอย่างขมีขมันค่ะ
งานติดตั้งป้ายได้เริ่มขึ้น โดยได้แบ่งทีมงานออกเป็น 2 ทีม ทีมแรกคือฝ่ายสถานที่จะทำหน้าที่เคลียร์สถานที่เพื่อใช้ติดตั้งป้าย ส่วนอีกทีมก็จัดเตรียมโครงสร้างสำหรับนำป้ายมาติด ซึ่งนอกจากชาวบ้านแล้วเรายังได้เจ้าหน้าที่จากทางอำเภอมาเป็นทีมสนับสนุนและลงมือช่วยทำอีกด้วยค่ะ
ป้ายแรกที่จะติดคือบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่เป็นป้ายที่จะบอกให้เลี้ยวซ้ายไปยังชุมชน ป้ายต่อไปคือจุดประมงพื้นบ้านด่านใหม่ค่ะ และป้ายก็ถูกนำไปติดไว้ยังจุดสำตัญๆ ต่างๆ จนเสร็จสิ้น ถึงแม้อากาศในวันนั้นจะร้อนมาก แต่ชาวบ้านและทีมงานยังคงตั้งใจทำงาน และช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้การทำงานในวันนั้นเสร็จสมบูรณ์ค่ะ
ป้ายต่างๆ ที่ถูกติดตั้งในแต่ละจุดนั้นนอกจากจะทำหน้าที่บอกเส้นทางต่างๆ และสถานที่สำคัญๆ แล้ว ยังทำหน้าที่เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างชุมชนกับนักท่องเที่ยวให้ใกล้กันมากขึ้น และเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าชุมชนแห่งนี้นั้นพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนค่ะ
และในที่สุดแผนที่ก็ถูกติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคน และการมาเที่ยวเยือนชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ ในครั้งนี้ ก็ทำให้เราได้รับทั้งความสนุก มีความสุขกับชุมชนดั้งเดิมที่ยังคงวิถีชีวิตเอาไว้ ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในเกาะช้างในอดีตอีกด้วย ใครที่อยากมาเที่ยวหาทุเรียนอร่อยๆ กิน พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศดีๆ ก็สามารถมาที่นี่ได้นะคะ ชาวบ้านในชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ ฝากมาบอกว่า “ยินดีต้อนรับค่ะ”
ติดต่อเยี่ยมชุมชน
- ชุมชนบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ โทร. 086-152-6637, 086-022-6346
- กระชังปลาชุมชน โทร. 061-239-8782, 081-294-9348
- ประมงพื้นบ้านด่านเก่า-ด่านใหม่ โทร. 061-476-1640
- สวนทุเรียนวิโรจน์ โทร. 095-694-5442