เทคนิคเดินเร็ว เพื่อการออกกำลังกายให้หัวใจแข็งแรง
เทคนิคเดินเร็ว คือเทคนิคที่จะทำให้คุณเดินแล้วได้ประโยขน์สูงสุด เราจึงขอชวนผู้อ่านออกมาเดินออกกําลังกาย ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้อย่างเห็นผล พร้อมแก้เครียดและช่วยให้หัวใจแข็งแรง ห่างไกลโรคค่ะ
ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้จัดอภิปรายเกี่ยวกับประโยชน์ของการเดินและขี่จักรยาน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและสร้างความสุขที่ยั่งยืนแก่สังคม โดยสํานักงานบริการด้านสุขภาพแห่งชาติ(National Health Service หรือNHS) ได้แนะนําในที่ประชุมอภิปรายว่า ควรสังเกตจํานวนเวลาที่ใช้ เดินที่เหมาะสมในแต่ละวันว่า สําหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 5 ปี ควรเดินอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง เด็กอายุระหว่าง 5-18 ปี ควรเดินเร็วๆ และทํากิจกรรมที่ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น เช่น วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ํา หรือกายบริหารวันละประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป
นอกจากนี้ วารสารทางการแพทย์ London Medical and Surgical Journal ยังระบุว่า ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่เดินถึงวันละ 10,000-15,000 ก้าวจะมีความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจและโรคเบาหวาน ไม่เกิดภาวะน้ําหนักเกิน ส่งผลให้กล้ามเนื้อ ข้อ เอ็น กระดูก และสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงกว่าคนทั่วไป หากจะเริ่มเดินออกกําลังกาย ต้องอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง ดังที่กูรูต้นตํารับชีวจิตอาจารย์สาทิส อินทรกําแหง กล่าวว่า “เมื่อเริ่มอุ่นเครื่อง ร่างกายจะเกิดความร้อน ทําให้ส่วนต่างๆ ได้ปรับตัว เกิดความกระฉับกระเฉง ใช้เวลาเพียงแค่ 5–10 นาที หรือพอให้เหงื่อซึม ค่อยเริ่มออกกําลังกายต่อไป”
การเดินไม่เพียงเป็นกิจกรรมที่ร่างกายควรปฏิบัติให้บ่อยและสม่ําเสมอ แต่ยังเป็นการออกกําลังกายที่ถูกต้องสอดคล้องกับวิถีพอเพียง ช่วยให้ชีวิตยืนยาวและเพิ่มพลังใจให้มั่นคงอีกด้วยค่ะเดินเคียงกันไป “หัวใจ” ไม่ป่วยแน่นอนค่ะ
4 วิธีเดิน เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ
1.เดินด้วยส้นเท้า
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าแข้งและช่วยยืดเส้นเอ็นหลังเข่า
วิธีเดิน: ยืนตัวตรง กระดกปลายเท้าขึ้นไม่ให้โดนพื้น ใช้ส้นเท้าเดินช้าๆ ประมาณ 50-100 ก้าว
2. เดินด้วยปลายเท้า
ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น ระบบหมุนเวียนเลือดทํางานดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร
วิธีเดิน: ยืนตัวตรง เขย่งส้นเท้าขึ้น แล้วใช้ปลายเท้าเดินช้าๆ ประมาณ 70-120 ก้าว หากรู้สึกเกร็งหรือเจ็บให้หยุดพักและนวดเท้า 3–5 นาที
3. เดินไขว้เท้าไปมา
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้สะโพก ลดไขมันสะสมบริเวณเอวและต้นขา
วิธีเดิน: ยืนตัวตรง เดินโดยให้เท้าข้างหนึ่งไขว้เหนือเท้าอีกข้างหนึ่งสลับไปมา ประมาณ 150–200 ก้าว
4. เดินถอยหลัง
ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และเส้นเลือดฝอย ทําให้สมองแจ่มใสและการทรงตัวดีขึ้น
วิธีเดิน : ยืนตัวตรง ก้าวเท้าไปด้านหลังโดยใช้ปลายเท้าแตะพื้นก่อน แล้วค่อยวางเท้าโดยถ่ายน้ําหนักไปที่กลางเท้าและส้นเท้า (ห้ามเดินโดยใช้ฝ่าเท้าประทับพื้นเฉยๆ) ประมาณ 70-120 ก้าว
Walking Tips
-ควรเลือกพื้นรองเท้าที่ไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป จะสามารถรับแรงกระแทกจากส้นเท้าได้ จึงช่วยลดความเสี่ยง อาการข้อหรือเอ็นอักเสบ และไม่เกิดอันตราย หากวิ่งหรือเดินเร็วๆ
-หาสถานที่โล่งกว้างเป็นธรรมชาติ ฝึกหายใจเข้าและออกให้ลึกยาว เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
-แกว่งแขนข้างลําตัว กํามือหลวมๆ หรือปล่อยสบายๆ ไม่เกร็ง
-แขม่วหน้าท้องค้างไว้ นับ 1-3 ต่อการเดินทุก 5 หรือ 10 ก้าว ช่วยลดพุง เพิ่มสมาธิ
บทความอื่นที่น่าสนใจ