เมื่อคนเราเริ่มต้นความสัมพันธ์กันด้วยความรักก็มักจะคาดหวังว่าความรักนั้นจะอยู่ยืนยาวอยู่กับเราไปชั่วชีวิต ซึ่งบางคู่ก็ทำได้แต่บางคู่ก็ทำไม่ได้มีเหตุให้ต้องเลิกรากันไป และการเลิกรานั้นบางครั้งก็จบลงด้วยความเจ็บปวดหรืออาจมีการใช้ความรุนแรง เราเลยอยากมาพูดถึงเรื่องของการเลิกราอย่างเข้าใจเผื่อจะได้ทราบถึงวิธีการตัดความสัมพันธ์จบความสัมพันธ์ เพื่อให้ทั้งสองคนเจ็บปวดน้อยที่สุดและจากกันด้วยดี
อารมณ์รักพอมันผูกพันแล้วถูกทิ้งถูกขว้าง วนๆ เวียนๆ เศร้าๆ อยู่อย่างนั้น เป็นความรู้สึกสากล ที่ใครๆ ก็เป็น ซึ่งก่อนจะเข้าเนื้อหาที่บอกอยากบอกเรื่องนี้ก่อนว่าเราทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วล่ะว่าคนเราเมื่อมีความรัก ความสัมพันธ์ เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และถ้าความสัมพันธ์นั้นไปต่อไม่ได้หรือเข้ากันไม่ได้ก็ต้องยุติความสัมพันธ์หรือเลิกรากันไปในที่สุด ผลสุดท้ายที่ทุกคู่ต่างก็ต้องเจอก็คือ “ความทุกข์ใจ” ดังสุภาษิตไทยที่บอกว่า “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลิกรากันไปก็อาจทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น ซึ่งอย่างไรแล้วเราก็ต้องพยายามแก้ไขหรือผ่านปัญหาที่ก่อให้เกิดความทุกข์นี้ไปให้ได้ ไม่มานั่งเศร้า ฟูมฟาย คร่ำครวญ หรือไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทำร้ายตัวเอง หรือไม่ทำร้ายคนที่เราเคยรักและคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
วันนี้เรามีเทคนิคการคลายความเศร้าและความปวดร้าวใจ สำหรับผู้ที่เพิ่งผ่านคำว่า “เลิกรา” มาฝากค่ะ เพราะเราอยากให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกับคำว่า “จบ” แล้วทำความรู้จักกับการ “เริ่มต้นใหม่” ในชีวิต ให้คิดเอาไว้เสมอว่าชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมีความเห็นร่วมกันและยอมรับการจากลาครั้งนี้ก็แค่เพียงหาวิธี “คลายเศร้า” อย่างมีคุณค่าให้กับตัวเองก็เท่านั้น!
>> บอกลากันด้วยความเข้าใจ <<
การที่คนสองคนตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนสถานะจากคนรักเหลือเพียงแค่คนรู้จัก ก็ควรหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุย หรือต้องไม่บอกเลิกกันในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเสียใจอยู่ หรือขณะที่อีกฝ่ายกำลังโกรธอยู่นะคะ ถ้าหากไปบอกลากันตอนนั้นอาจทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวและกลายเป็นความรุนแรงขึ้นได้ จากนั้นเมื่อได้ช่วงเวลาที่เหมาะสมก็ใช้เหตุผลพูดคุยกันด้วยความประนีประนอมด้วยถ้อยคำที่สุภาพ ถนอมน้ำใจกัน เช่น การบอกว่าเลิกกันแล้วจะยังคงเป็นเพื่อนกันได้ เป็นการถนอมน้ำใจของอีกฝ่ายมากกว่าการพูดถึงข้อเสียของอีกฝ่ายที่ทำให้ต้องเลิกกัน และอย่าบีบคั้นให้อีกฝ่ายต้องตัดสินใจฝ่ายเดียว ทั้งคู่ต้องตัดสินใจตรงกันและต้องไม่ทำอะไรโดยไม่ใช้เหตุผล
>> ทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น <<
สุดท้ายเมื่อทั้งคู่ต่างก็ตัดสินใจจากกันด้วยดีแล้ว และสิ่งนั้นก็ได้เกิดขึ้นแล้วจะกลับไปแก้ไขคงจะไม่ทัน ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือการทำใจยอมรับ และพยายามคิดว่าจะต้องมีสิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นกับเรานับต่อจากนี้ไป มองโลกในแง่ดีให้มากขึ้น ให้คิดว่าการเลิกกับคนเดิมที่ไปด้วยกันไม่ได้อาจทำให้เราได้มีโอกาสเจอคนใหม่ๆ คนที่ดีและเหมาะสมกับเรามากกว่า ในขณะเดียวกันก็ให้คิดว่าคนที่เราเคยรักเขาจะได้มีโอกาสไปตามหาคนที่เข้ากันได้มากกว่าเรา ถ้าคิดได้แบบนี้ยังไงก็ไม่เศร้าชัวร์ค่ะ
>>ทบทวนและ เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น <<
เมื่อมีเวลาลองนั่งทบทวนดูว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลิกรากันไป แต่ไม่ใช่นั่งเสียใจอยู่นะคะ แค่นั่งคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุของการที่ไปด้วยกันต่อไม่ได้ เรามีอะไรที่ต้องปรับปรุงตัวเองบ้าง การที่เราได้มีเวลานั่งทบทวนตัวเองและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น และทำให้เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นมากขึ้นด้วย จากนั้นก็หากิจกรรมอะไรทำ อย่าเพิ่งอยู่คนเดียวเพราะว่าการอยู่คนเดียวจะทำให้เราเศร้าใจ ไปหาเพื่อนสนิท หรือไปเที่ยวกับครอบครัว หาโอกาสปรับทุกข์กับใครสักคนที่ไว้ใจ นี่แหละเป็นการเยียวยาความรู้สึกเศร้าได้ดีที่สุด
>> จัดการกับความรู้สึก ไม่เอาศักดิ์ศรีไปฝากที่คนอื่น <<
ทีนี้เราลองมาดูเรื่องของการจัดการกับความรู้สึกเรื่องของความภาคภูมิใจ และศักดิ์ศรีของตัวเองกันดีกว่าค่ะ สาวๆ บางคนเมื่อต้องเลิกรากับคนรักมักจะนั่งดูถูกตัวเองว่าเราไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้คนที่เคยรักต้องหมดรักและจากกันไปหัวใจสำคัญอยู่ที่ประเด็นนิดเดียวว่า เราและเขาอาจไม่ได้เป็นคนที่มาตรฐานเดียวกัน เราไม่ควรฝากศักดิ์ศรีและความภูมิใจของเราไว้กับคนคนเดียว ถ้าคิดให้สบายใจก็คิดเลยค่ะว่าตัวเราเป็นแก้ว แล้วอีกคนเป็นลิง เพราะเมื่อลิงมันได้แก้วมาครอง มันไม่รู้คุณค่าก็อาจโยนทิ้ง ถ้าแก้วมีชีวิตแล้วควรจะน้อยใจไหม ทำไมเราภูมิใจเราสวยๆ มีค่า ดูสิลิงมันโยนเราทิ้งไม่ใยดีเลยเรารู้สึกหมดอะไรตายอยากแล้ว อกหัก ถูกลิงทิ้ง ควรจะคิดอย่างนั้นไหม คิดแบบนี้ได้รับรองสบายใจค่ะ (แต่ต้องไม่โทษอีกฝ่ายเผลอไปต่อว่าเค้านะคะ แบบนั้นไม่ดีเลย)
>> เราไม่ได้สูญเสียคนที่เรารักแค่เสียคนที่เขาไม่ได้รักเรา <<
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเลิกรากันไปจริงๆ ให้พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้นึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆ จะดีที่สุดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ๆ เคยไปเที่ยวด้วยกัน ร้านอาหารที่เคยกิน โรงหนังที่เคยไปดู ช่วงนี้ก็เลี่ยงๆ ไปก่อนดีกว่า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการกระตุ้นภาพเก่าทำให้รู้สึกเศร้ามากขึ้น ก็เหมือนเราขุดหลุมฝังตัวเราเอง พยายามอย่าเพิ่งฟังเพลงเศร้าๆ ที่ทำให้ต้องจมอยู่กับความหลัง ทำแบบนั้นจะทำให้เราไม่สามารถมองอนาคตได้เพราะแค่จมกับอดีตก็หมดเวลาแล้ว คิดเสียว่าการเลิกรากันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต เราไม่ได้สูญเสียคนที่เรารักด้วย เราแค่เสียคนที่เขาไม่ได้รักเราไปเท่านั้นเอง ขอให้เริ่มต้นใหม่มองคุณค่าในตัวเอง พัฒนาตัวเอง เพื่อจะได้เจอสิ่งที่ดีๆ คนดีๆ ที่ดีกว่าเดิม
เรารู้ดีค่ะว่าคงไม่มีใครอยากจะพบกับความผิดหวังในความรัก ไม่มีใครต้องการเจอกับคำว่าเศร้า แต่ละคนแต่ละคนเมื่อมีความรักให้กันแล้วก็อยากจะให้อยู่กันไปยาวๆ ตลอดชีวิต แต่หากมีความจำเป็นจะต้องเลิกรากันไปจริงๆ สู้เอาเวลามาหาวิธีว่าทำยังไงที่จะไม่ให้เราตกอยู่ในอาการที่เรียกว่า “คน อกหัก” แบบที่เคยพูดๆ กัน คือไม่ต้องมานั่งเศร้า ร้องไห้ฟูมฟาย แต่สามารถจากกันด้วยดีด้วยความเข้าใจ เราเองก็ไม่ทุกข์จนเกินไป เขาเองก็ไม่ทุกข์จนเกินไป สามารถจากกันด้วยดี ไม่ได้เป็นคู่ชีวิตกันอีกแล้ว แต่ก็อาจจะเป็นเพื่อนกัน ต่อไปได้ ลองอ่านทบทวนสิ่งที่เราแนะนำไปหลายๆ รอบนะคะ แล้วคุณจะคิดได้ว่า “จะเสียเวลาให้กับความเศร้า” ไปทำไม
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ