เมื่อ หนุ่มขี้เหงา อาชีพพริตตี้บอย สนทนากับ พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ
ผมเป็นคนชอบคิดฟุ้งซ่านครับ ต้องหาคนมาอยู่ด้วยตลอด ไม่อย่างนั้นก็จะคิดมาก คิดโน่นคิดนี่ บางครั้งถ้านอนไม่หลับก็จะกินเหล้ากินเบียร์เพื่อให้หลับ
ทำอย่างนี้ระบบประสาทจะเสียเอานะ…จริง ๆ แล้วไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้ แต่ก็ห้ามไม่ได้ใช่ไหม ตามหลักธรรมท่านบอกไว้ว่า ให้จิตเรามีที่ตั้ง มีหลักผูกไว้เสมอ ท่านเรียกว่ากรรมฐาน อาจจะฟังดูน่าเบื่อ บางครั้งการทำบริกรรมหรือการสวดมนต์มันเป็นอุบายที่ทำให้จิตเรามีสมาธิ ไม่ต้องซ่านออกไปเหมือนว่าวขาดป่าน ไม่มีความสงบ หยุดคิดไม่ได้ ทำให้ต้องกินยาระงับประสาท กินเหล้าให้มันหาย แต่พอฤทธิ์ของสิ่งเหล่านี้หายไป เราก็จะกลับมาคิดใหม่
บางครั้งมันห้ามไม่ได้นะความคิด มันต้องมีสิ่งให้คิด ฉะนั้นถ้าจะคิดก็ให้เลือกคิดบวก เจาะจงคิดแต่สิ่งดี ๆ เช่น เรื่องบุญกุศล ใช้ความคิดล้างระบบความคิดว่าเราเคยทำสิ่งดีให้ใคร ที่ไหนบ้าง
บางทีเหงามาก ๆ ก็จะโทร.เรียกให้ผู้หญิงมาหา…
ปัญหาโลกแตกของคนทั่วไป…มนุษย์ทั้งหลาย เมื่อจิตไม่มีที่พึ่ง ก็เลยหันไปหาสิ่งอื่นรอบตัว เช่น สุรา นารี ดูหนัง ฟังเพลง แต่ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่กับเราแบบเสถียร มันมีความสุขขึ้นชั่วแวบเดียวที่ใจ พอสิ่งนั้นหรือคนนั้นผ่านไปเราก็จะกลับมาจุดเดิม
การที่เรานำความสุขไปฝากไว้กับปัจจัยภายนอก ท่านบอกว่าดีอยู่ระดับหนึ่ง แต่กรรมฐานจะทำให้เราไม่แขวนความหวัง ความสุขไว้กับสิ่งต่าง ๆ ภายนอก แต่จะออกมาจากข้างใน เป็นการมีสติมีสมาธิอยู่กับตัวเอง แค่สูดลมหายใจเข้ายาว ๆ ดูลมหายใจเข้าออกเป็นอย่างไร หัวใจเต้นเป็นอย่างไร ไปถึงตับ ถึงปอด ถึงไต พิจารณาถึงสิ่งต่าง ๆ ของเรา ลองดูสิ…ทำบ้าง อาจยังไม่ต้องทำตลอด แต่ให้แทรกสิ่งเหล่านี้อยู่ในชีวิตเสมอ
ความจริงแล้วชีวิตมันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอกถ้าเราเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจจะยากไปหมด…ไม่มีใครไม่เคยทำผิด ไม่ต้องไปคิดถึงบาป อกุศล ความชั่ว ความเลวทั้งหลายที่เคยทำไป เพราะพอเวลาเราคิดถึงมัน ก็เหมือนเป็นการคิดทบทวนบาปขึ้นมา เป็นการก๊อปปี้บาปซ้ำ ๆ ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ขุ่นมัว ส่วนกุศลนั้นตรงข้ามกัน คุณงามความดีต้องก๊อปปี้มันซ้ำ ๆ ให้ใจเราเป็นกุศล สงบเย็น
จริง ๆ ผมชอบทางนี้อยู่แล้ว แต่พอไปแล้วก็กลับมายังจุดเดิม คือไปหาพระทีก็จะเริ่มดีขึ้น แต่พอกลับมาก็เป็นอีก
ปกติชอบอยู่แล้ว แต่สิ่งทางโลกที่ดึงเรานี่แรงมากใช่ไหม…ถ้ามารไม่มี บารมีไม่เกิด แสดงว่าโยมเนี่ยภพชาติเหลือน้อยแล้ว คนที่กำลังจะข้ามฝั่ง ยิ่งใกล้ฝั่งเนี่ย สิ่งที่เร้าที่ดึงจะยิ่งแรงมาก ไม่ใช่แค่มารทั่ว ๆ ไปนะ แต่จะเป็นระดับหัวหน้ามารเลย
ยิ่งช่วงนี้ทำอะไรก็ดูแย่ไปหมด บางทีคิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำครับ สวดมนต์ก็สวดไม่ได้ นั่งสมาธิ พอหลับตาเรื่องก็จะเข้ามาในหัวตลอดเวลา
ฆ่าตัวตายเนี่ยง่าย บางทีไม่ต้องฆ่าตัวตายก็ตายเองได้ ฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบ ลองใช้ชีวิตแบบอื่น ๆ ดูบ้างสิ…ก่อนฆ่าตัวตาย ถามหน่อยว่า เคยล้างเท้าให้แม่ไหม ถ้ามีเวลาลองกลับไปล้างเท้าให้แม่ดูนะ หลายคนไปมองแต่เรื่องกรรมฐานแต่ลืมเรื่องครอบครัว
อย่างเวลาไปปฏิบัติธรรมก็จะมีความสงบ มีสมาธิอยู่ครับ แต่พอกลับบ้าน พยายามจะอยู่ในห้องและปฏิบัติธรรม แต่ทำไม่ได้เหมือนตอนอยู่ที่สถานปฏิบัติ
ธรรมะไม่ได้อยู่ที่สถานที่ ปฏิบัติธรรมน่ะทำที่ไหนก็ได้ แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำก็สามารถเกิดความสงบ เกิดนิพพานได้ เราควรเลิกคิดเสียทีว่า ไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีสถานที่ปฏิบัติธรรมบ้าง แท้จริงคือไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ตาม แม้กระทั่งตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ เราก็ทำกรรมฐานได้ แค่เราไม่นอกใจตัวเอง
ไม่ว่าจะทำงานทางโลกอะไรอยู่ก็ตาม พอเรานึกขึ้นได้ก็หันมาดูตัวดูใจว่า ตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร กายเป็นอย่างไร หัดไปเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการขุดร่องเอาไว้ซ้ำ ๆ จนเกิดความเคยชิน เวลาที่จิตเราล่องลอยฟุ้งซ่านไปไหน มันก็สามารถกลับมาร่องเดิมที่เดิมได้
อาชีพ (พริตตี้บอย) ที่ผมทำอยู่ทำให้หลงระเริงง่ายมาก ๆ แต่ด้วยความที่ผมมีใจอยู่กับพระพุทธศาสนาบ้างเลยทำให้ผมถลำตัวไปไม่หมด เช่น ยาเสพติด ผมก็เล่นเพราะเพื่อนเล่น ด้วยความอยากลอง และก็พบว่ามันเป็นความสุขเพียงชั่ววูบ เมื่อยาหมดฤทธิ์แล้วมันทรมานมาก ผมเลยเลิกเล่น…
ก็ดีเหมือนกัน ลองให้รู้ แต่ไม่ติดมัน รู้ไหม ฉายาก่อนบวชคืออะไร (พระอาจารย์นวลจันทร์ชี้ที่ตัวเอง) ปีศาจสุรา…กินเหล้าเท่าไหร่ไม่เคยล้ม (หัวเราะ)
คนเรา ชีวิตคือการเรียนรู้ เป็นรสชาติของชีวิต…แต่ลองไตร่ตรองดูว่า สิ่งที่เราผ่านมามันทำให้เราเกิดสติปัญญา ไม่ทำให้ใจเราทุกข์หรือเปล่า เมื่อได้ตรึกตรองนานขึ้นบ่อยขึ้น เราจะเห็นว่าสิ่งใดไร้แก่นสารสาระ แต่ก่อนอาตมาก็ออกจากสังคมนั้นมาไม่ได้เหมือนกัน คล้ายเด็กสลัมที่ติดยา ออกมาบำบัดหายแล้วกลับไปอยู่ที่เดิม กลับไปติดเหมือนเดิม นี่คือปัญหาสังคมในปัจจุบัน เมื่อจิตเราไม่แข็งแกร่ง เราก็จะตกเป็นทาสได้โดยง่าย
ดังนั้นเราจึงควรฝึกกรรมฐานไว้ เพราะเมื่อจิตตั้งมั่นได้ เราก็จะรอดพ้น ไม่ถูกโลกดึงไป โยมอาจจะเห็นว่าการเป็นพระนั้นง่ายไป แต่ความจริงก็คือ วิถีชีวิตอย่างนี้นี่แหละ ประเสริฐที่สุด…
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ