เมื่อนึกถึงผักพื้นบ้านไทย หนึ่งในนั้นก็ต้องมี “ชะอม” อย่างแน่นอน…พืชสวนครัวที่ปลูกเป็นแนวกั้นริมรั้ว มียอดอ่อนให้เราตัดกินได้ทุกฤดูกาล เรียกได้ว่าเป็นรั้วธรรมชาติที่กินได้! และยังเป็นพืชปลอดสารพิษที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง ถึงจะมีกลิ่นค่อนข้างแรง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก นิยมนำมาประกอบเมนูอาหารเมนูอร่อพืชสวนครัวยมากมาย…แถมยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย^^
ประโยชน์ของชะอม
ชะอม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีวิตามินเอสูงถึง 32,000 อินเตอร์เนชันแนลยูนิต ซึ่งสูงกว่า…หัวแครอท ที่ฝรั่
- ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตาได้ดี
- ยอดชะอมช่วยลดความร้อนภายใน
ร่างกายได้ - รสมันของชะอม มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยในการขับถ่าย ขับลมในกะเพาะอาหาร ป้องกันโรคท้องผูก ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำง
านได้เป็นปกติ - รากชะอมนำมาฝนกิน สามารถช่วยแก้อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยขับลมในลำไส้ได้
- สรรพคุณพิเศษของชะอมที่มีส่
วนช่วยในการบำรุงเส้นเอ็น แก้อาการลิ้นอักเสบเป็นผื่น แดง - บำรุงเส้นเอ็น แคลเซียมสูง รักษาการอักเสบ มีฟอสฟอรัสสูง อุดมด้วยธาตุเหล็ก ป้องกันโรค มีเบต้าแคโรทีน บำรุงเส้นผมให้เงางาม
ข้อควรระวังในการบริโภค ชะอม 🍲
- สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุ
ตรอ่อนๆ ไม่ควรกินผักชะอม เพราะจะทำให้น้ำนมแห้งได้ - สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน จะแพ้กลิ่นของผักชะอมอย่างม
าก ดังนั้นควรอยู่ห่างๆ - การกินผักชะอมในช่วงหน้าฝน อาจจะมีรสเปรี้ยว กลิ่นฉุน บางครั้งอาจทำให้มีอาการปวด
ท้องได้ ซึ่งปกติคนมักนิยมรับประทาน ผักชะอมกันในช่วงหน้าร้อน - กรดยูริกเป็นตัวการที่ทำให้
เกิดข้ออักเสบในผู้ป่วยโรคเ กาต์ ซึ่งเกิดมาจากสารพิวรีน (Purine) โดยผักชะอมนั้นก็มีสารพิวรี นในระดับปานกลางถึงระดับสูง ผู้ป่วย - โรคเกาต์สามารถกินได
้ แต่ในปริมาณที่จำกัด หากเป็นมากก็ไม่ควรกิน เพราะจะทำให้ปวดกระดูกได้ - อาจพบเชื้อก่อโรคอย่าง ซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถพบได
้ทั่วไปในสภาพแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ อากาศ เมื่อเรานำผักชะอมที่ปนเปื้ อนสาร - ชนิดนี้มาประกอบอาหารโ
ดยไม่ล้างทำความสะอาดหลายๆ ครั้ง หรือไม่นำมาปรุงให้สุกก่อนร ับประทาน อาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับ เชื้อชนิดได้ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อ - ชนิดอา
จจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำสีเสียว หรือถ่ายเป็นมูกมีเลือดปน มีไข้ เป็นต้น