ไม่เชื่อต้องพิสูจน์...ลองทำ 10 สิ่งนี้ รับรอง “ ชีวิตดี ” ขึ้นทุกวัน!

ไม่เชื่อต้องพิสูจน์…ลองทำ 10 สิ่งนี้ รับรอง “ ชีวิตดี ” ขึ้นทุกวัน!

คุณเชื่อไหม ? ว่าลมหายใจที่เข้าออกสามารถบอกได้ว่าคุณกำลังมี “ความสุข” หรือ “ความทุกข์” ใครเคยลองสังเกตดูชีวิตของตัวเองบ้างหรือไม่ว่าตลอดเวลาของชีวิต สิ่งที่เราต้องการก็แค่ มี ชีวิตดี และมีความสุขในทุกๆ วัน บางคนก็ได้รับมันไปโดยง่าย บางคนนี่ก็แทบจะทั้งชีวิตไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำกับคำว่า “ชีวิตดี และมีความสุข” มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันมากเหลือเกิน หลายคนจึงมองว่าการทำให้ชีวิตดี ทำให้ตัวเองมีความสุขมันเป็นเรื่องยากนักหนา ทั้งที่จริงแล้วเปล่าเลย สิ่งที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นมันอยู่ใกล้เราแค่ปลายจมูก เหลือบตามองนิดเดียวเราก็เจอแล้ว แต่คนเรามักจะมองหาอะไรที่มันไกลตัวอยู่เรื่อย

วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปลองทำสิ่งดีๆ 10 อย่าง ที่รับรองว่าทำแล้วชีวิตจะดีขึ้น ขอเพียงคุณพอใจในสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น คุณจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการไล่หาความสุข ไม่ต้องไขว่คว้าสิ่งที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้มันอยู่กับเราตลอดเวลาอยู่แล้ว มาค้นหามามองเห็นมันให้เจอกันดีกว่า

เปิดใจให้กว้างมองดูสิ่งที่อยู่รอบตัว

เราต้องเข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีทุกอย่างได้ดั่งใจ ยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับทุกความเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะทั้งเรื่องงาน เรื่องคน สังคม และโลก ดูอย่างอย่างต้นอ้อที่ล้อไปตามลม จึงจะดำรงต้นเอาไว้ได้ แต่ไม้ใหญ่มักจะหักโค่นเวลาโดนลม เพราะต้านทาน ไม่ยืดหยุ่นไปตามแรงลม ในเมื่อยืดหยุ่นไม่ได้ก็อยู่ต่อไปได้ยาก ในสังคมทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่าแข็งแกร่งดั่งภูผาแล้วจะอยู่ได้ แต่คุณต้องมีความยืดหยุ่นด้วย เพราะไม่ว่าจะเจอปัญหาเรื่องการทำงาน เรื่องชีวิตส่วนตัว ทุกอย่างจะมีความซับซ้อนมากขึ้น คุณจึงต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการแก้ปัญหาต่างๆ การมีความยืดหยุ่นจะช่วยให้เราลดอคติที่มีลงไปได้ โดยการสังเกตและรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันของคนอื่นๆ เปิดตา เปิดใจให้กว้างมองดูสิ่งที่อยู่รอบตัว แล้วคุณจะพบว่าชีวิตที่แท้จริงเป็นอย่างไร นี่มันจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตบนความยืดหยุ่นได้ กลายเป็นคนที่มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิต

ขอโทษเป็น และให้อภัยได้

คนเราเมื่อผิดก็แค่ยอมรับผิด ไม่ต้องอายค่ะ อะไรที่ให้อภัยได้ก็ให้กันไป จะได้สบายใจ สบายตัว อย่าถือว่าตัวเองมียศศักดิ์ ขอโทษใครไม่ได้ ให้อภัยใครไม่เป็น จะอยู่ที่ไหนก็หนักตัวหนักใจ แบกโทษเอาไว้เต็มคอ เพราะขอโทษใครไม่เป็น เราต้องคิดอยู่เสมอว่าคนเราทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาดต่อคนอื่น เราคงดีใจถ้าเขายกโทษให้เรา เขาก็คงดีใจเช่นกันที่เรายกโทษให้เขา การขอโทษ และการให้อภัยจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำทันที เมื่อรู้สึกโกรธแค้นใคร แม้แต่กับตัวเอง สิ่งที่เราทำไม่ดีไว้ เราก็ต้องให้อภัยให้ตัวเราเองด้วย เมื่อให้อภัยแล้วจิตใจเราก็จะผ่องใสขึ้น พร้อมที่จะใช้ความคิดในการสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของโลกต่อไป

เมตตากับคนและสัตว์

คนตกทุกข์ได้ยาก ลำยาก ประสบอุบัติเหตุ สุนัข แมว สัตว์ที่ได้รับทุกขเวทนา หากเราช่วยได้ก็ช่วยตามกำลังความสามารถ เป็นการขยายหัวใจให้เปี่ยวสุขจากการทำความดี แต่หากเราช่วยไม่ได้ก็จงอย่าแบกความทุกข์ความกังวลนั้นเอาไว้ อย่าเอามาคิดมากว่าทำไมเราถึงช่วยไม่ได้ มันจะกลายเป็นความทุกข์ใจ แค่รู้สึกอยากช่วย สงสาร หรือช่วยตามกำลังความสามารถก็เป็นกุศลแล้ว

ข้อนี้ก็ตรงกับหลักธรรมะเรื่องเมตตากรุณาที่เป็นการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นมีความสุข พ้นจากทุกข์ ร่วมบริจาคทรัพย์สินเพื่อส่วนรวม และเสียสละเวลาปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมตามสมควรตามสถานการณ์ และตามความสามารถของตน โดยไม่หวังผลตอบแทนนั่นเอง

เริ่มและจบวันด้วยการขอบคุณ

เมื่อคุณตื่นลืมตาขึ้นมา ให้เริ่มต้นด้วยคำว่า “ขอบคุณ” ขอบคุณที่วันนี้ที่ได้ตื่น เพราะมีคนมากมายที่ได้หลับเป็นครั้งสุดท้าย แล้วไม่มีวันได้ตื่นขึ้นมาอีกเลย ขอบคุณที่มีที่นอนอันแสนสบาย เพราะมีคนจำนวนมาก แม่แต่ที่นอนยังไม่มีให้อาศัยนอน ต้องไปอาศัยตามใต้สะพานลอย เร่ร่อนไปเรื่อย คุณยังดีกว่าคนเหล่านั้นมาก ขอบคุณที่เปิดก๊อกแล้วน้ำไหล เปิดไฟแล้วไฟติดส่องสว่าง ขอบคุณอาหารเช้าดีๆ ขอบคุณที่มีงานให้ทำ และก่อนที่จะเข้านอนก็ขอบคุณที่ผ่านวันนี้ไปได้ ขอบคุณที่วันนี้พบเจอแต่เรื่องดีๆ แต่ถ้าวันไหนเจอเรื่องที่ไม่ดี ก็ขอบคุณที่วันนี้ให้ประสบการณ์ วันที่ไม่ดีเพียงแค่หนึ่งวัน ไม่ใช่หมายถึงชีวิตทั้งชีวิตของเราจะไม่ดี

อยู่กับตัวเองเงียบๆ

เวลาเราอยู่กับคนอื่น เรามักคิดคำถามแล้วให้คนอื่นตอบ หรือเราเป็นผู้คิดคำตอบเพราะมีคนอื่นมาถาม แต่เรามักไม่เคยคิดคำถามให้ตัวเองตอบ หรือตอบคำถามที่ตัวเองถาม จนกว่าจะได้มีเวบาอยู่กับตัวเองเงียบๆ ทบทวน ไต่ถาม หาคำตอบถึงสิ่งที่ทำ เป้าหมายที่ตัวเองมี ว่าชีวิตนี้เรามาถูกทางหรือยัง อยู่กับคนอื่น เพื่องาน หรือเพื่อความสนุกสนานครื้นเครง แต่ถ้าได้อยู่กับตัวเองเราจะได้มีเวบาคิดและทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง

ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง

บางคนเอาแต่มุ่งหน้าไปแต่ที่ทำงาน คิดแต่เรื่องของงาน เพราะจะทำให้ได้เงินเดือนและความสำเร็จดั่งที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ จนถึงวันหึ่งสิ่งที่ทำลงไปบรรลถุเป้าหมาย ได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร เป็นเจ้าของกิจการ แต่ต้องกลายเป็นคนที่ครอบครัวแตกแยก เป็นคนที่กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเพื่อนๆ หรือป่วยมีโรคภัยมาเยือนโดยไม่รู้ตัว เพราะเกิ้ดจากการไม่ดูแลตัวเองทำแต่งาน เมื่อถึงวันนั้นแล้วคุณจะรู้ว่า งานที่ยิ่งใหญ่ที่คุณได้ทำสำเร็จลงไปนั้นมันไม่สามารถมาทดแทนความรักในครอบครัว และความสนิท ความจริงใจที่เพื่อนๆ หรือมิตรสหายมอบให้คุณได้เลย

ลิสต์รายการที่ต้องทำและอยากทำ

เมื่อเขียนรายการที่ต้องทำ จะทำให้เราไม่ลืมที่จะทำสิ่งนั้นๆ เมื่อเขียนรายการที่อยากทำแล้ว เชื่อเถอะว่าอย่างไรสุดท้ายเราจะได้ทำมันอย่างแน่นอน แต่ต้องหมั่นเอาสิ่งที่ลิสต์เอาไวขึ้นมาทบทวนดูบ่อยๆ ใส่จินตนาการบวกความรู้สึกที่เข้มข้นเหมือนได้ทำสิ่งนั้นแล้ว คำว่าต้องทำเป็นเรื่องของปัจจุบัน มันเป็นหน้าที่ คำว่าอยากทำ เป็นเรื่องของอนาคต เป็นความฝัน เขียนสิ่งที่อยากทำ

เอาขึ้นมาอ่านทุกวัน แล้วค่อยๆ ลงมือทำตามความฝันนั้น สักวันมันก็จะกลายเนปัจจุบันของคุณ

ดูแลร่างกาย

อุปกรณ์ใดเมื่อใช้แล้วทำความสะอาด ซ่อมแซมบำรุงตลอดเวลา สิ่งนั้นจะมีอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ก็เหมือนกับร่างกายของคนเราเมื่อถูกใช้งานมานาน ตั้งแต่เริ่มเกิดจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ลองคิดดูว่าเราดู๔แลเอาใจใส่ร่างกายของเราดีแค่ไหน เราใช้ร่างกาย หาเงิน หาความสุขสำราญ อยู่กับคนที่เรารัก สำนึกในบุญคุณที่ร่างกายได้อยู่กับเราอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอยู่ตลอด ก็ควรให้รางวัลกับร่างกายบ้าง ด้วยการหาอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ่อยๆ ฝึกหายใจให้ถูกวิธี ทำอารมณ์ให้ดี ผ่อนคลาย เพื่อให้ร่างกายได้อยู่กับเราไปนานๆ ไม่สร้างปัญหาให้กับเราไปได้ตลอดนั่นเอง

อ่านหนังสือดีๆ

หนังสือดีๆ เพียงเล่มเดียว อาจเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนอนาคตของคนคนหนึ่งได้ พียงหนึ่งบรรทัดของหนังสือดีๆ เล่มเดียวอาจทำให้คนกลับตัวเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เพราะชุดความคิดจากการอ่านทำให้คนเปลี่ยนได้ การอ่านหนังสือดีๆ ทุกวันก็เหมือนเราได้ขุดทองทุกวัน เพราะอ่านแล้วจะเกิดปัญญา และปัญญาก็นำมาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง และมันจะอยู่กับเราตลอดไปไม่มีวันหมด เงินทองใช้ไปอาจมีวันหหมด แต่ปัญญาใช้หาเงินได้ไม่มีวันหมด

นั่งสมาธิ

บางคนมีเวลาดูทีวี เล่นโทรศัพท์มือถือ ท่องโลกอินเตอรืเน็ต ดูนั่นดูนี่ได้มากมาย มีเวบาไปสังสรรค์ แคต่แค่นั่งสมาธิสัก 10 นาที มักจะบอกว่าไม่มีเวลา อย่าลืมว่าความนิ่งของสมาธิแม้เพียงแค่ 2-3 วินาที อาจจะมีคุณค่ามากกว่าความสุขที่คุณเคยเจอมาบนโลกตลอดเวลาที่ผ่านมาเอามารวมกันเสียอีก ความอยากได้อยากมี อยากเป็นไปของโลกใบนี้ ทำให้คนเราต้องวิ่งตามกันอยู่ทุกเวบา เมื่อมีความอยากได้ พอได้มาแล้วก็อยากได้อีก อยากมีอยากเป็น พอได้มีได้ เป็นก้อยากำด้เพิ่มขึ้นไปอีก การนั่งสมาธิอาจจะไม่ได้ทำให้เราหยุดความอยาก แต่เป็นการเพิมพลังของสติให้คนเราได้ เมื่อคนเรามีสติปัญญาชีวิตก็จะเห็นทางสว่างที่จะเดินไปข้างหน้าได้ต่อไป

ขอให้จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า “ชีวิตที่ดี” ไม่ใช่ชีวิตที่ร่ำรวยหรือยากจน ชีวิตที่ดีไม่ใช่ชีวิตที่มีหน้าที่การงานใหญ่โต หรืองานกระจอก ชีวิตที่ดีไม่ใช่ชีวิตที่มีคนนับหน้าถือตาหรือมีคนดูถูก ชีวิตที่ดีไม่ใช่ชีวิตที่มียศถาบรรดาศักดิ์หรือไม่มี อย่าตั้งมาตรฐานชีวิตของตัเราด้วยสิ่งเหล่านั้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเปลือกนอกของชีวิตเท่านั้น ชีวิตที่ดีต้องมาจากจิตใจภายใน ใจที่สงบและเป็นสุข ใจที่มีความกังวลน้อย มีกิเลสน้อย ยิ่งมีสิ่งเหล่านี้น้อยเท่าไรยิ่งเป็นใจที่ดีมากขึ้น และนั่นแหละค่ะ คือชีวิตที่ดีที่สุด!

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไม่เชื่อต้องพิสูจน์…ลองทำ 10 สิ่งนี้ รับรอง “ ชีวิตดี ” ขึ้นทุกวัน!