จงเป็นคนที่ตื่นตั้งแต่เช้ามืด (ทำไม) ? แล้วจะเห็น ความสำเร็จ
น้อยคนนักที่จะรีบตื่นเช้าเพราะอยากเข้าออฟฟิศเร็ว ๆ แต่คนที่มุ่งมั่นอยากประสบ ความสำเร็จ ในหน้าที่การงานจะทำอย่างนั้น การมาทำงานแต่เช้า เตรียมงานที่ทำ และเริ่มทำงานก่อน เป็นสิ่งที่ใครเห็นแล้วต้องชื่นชม
แต่ละออฟฟิศกำหนดเวลาเข้า-ออกงานต่างกัน จงคิดเสียว่านี่คือกฎพื้นฐานที่เราต้องรักษา หากละเมิดกฎนี้ เราจะถูกตำหนิและถูกประเมินในแง่ลบ ในทางตรงกันข้าม การมาทำงานแต่เช้าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้รับการประเมินแง่บวกไปเรื่อย ๆ แทบไม่มีซีอีโอท่านไหนเลยที่มาทำงานสาย นักบริหารที่ทำงานเก่งล้วนมาทำงานก่อนใครกันทั้งนั้น และถ้าอยากฝึกตนให้มีนิสัยนี้ เราควรเริ่มทำเสียตั้งแต่ช่วงเป็นพนักงานใหม่
แน่นอนว่าในออฟฟิศย่อมมีคนที่เก่งกว่าเรา แต่คนที่ทุ่มเวลาให้กับการทำงานมากกว่าจะมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จสูงกว่า หัวหน้าก็ชื่นชอบ แถมยังส่งผลดีต่อการทำงาน พอตื่นเช้าก็มีเวลามาก ได้ทำธุระส่วนตัวสบาย ๆ ไม่ต้องอดข้าวเช้า ได้มาออฟฟิศแต่เช้า
รอบตัวเรามีคนจำนวนไม่น้อยที่ตื่นสาย ตาลีตาเหลือกมาทำงาน ใช้ห้องน้ำที่ทำงานทำธุระ หาข้าวเช้ากินแถวที่ทำงาน หากผู้บริหาร หรือหัวหน้าเห็นลักษณะของพนักงานคนนั้นบ่อย ๆ เข้าจะประเมินเขาไปในทางที่ลบ
ออฟฟิศทั่วไปกำหนดเวลาเข้างานประมาณ 8.00-09.00 น. พนักงานใหม่ควรเข้างานก่อนรุ่นพี่สัก 30 นาทีถึงจะดูว่ามีอนาคตไกล เป็นพนักงานขยัน คนเข้าออฟฟิศแต่เช้าจะได้รับโอกาสมากมาย ทั้งโอกาสสะสางงานที่เพิ่งได้รับมอบหมายทั้งโอกาสขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับผู้บริหาร ได้พูดคุยกับท่าน การเข้าทำงานเร็วช่วยได้ เราเตรียมงานที่จะทำ จัดการงานเบ็ดเตล็ดที่ยังไม่เรียบร้อยเมื่อวาน และถ้าทำแล้วยังมีเวลาเหลือ ก็ยังดื่มกาแฟสบาย ๆ เรียบเรียงความคิดว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง นิสัยกระตือรือร้น เตรียมตัวพร้อม จะทำให้เรามีโอกาสในการเติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพขององค์กรสูง
อย่างไรก็ตาม หากอยากเป็นมนุษย์ตื่นเช้ามืดก็ต้องนอนเร็ว ต่อให้อยู่ดึกแค่ไหนก็ต้องเข้านอนก่อนเที่ยงคืน จึงจะได้พักผ่อนเพียงพอ ไม่เสียสุขภาพ การไปกินเลี้ยงกับที่ทำงานหรือดื่มสังสรรค์ยังตี 1 ตี 2 จะทำให้เราตื่นเช้ายากและเสียสุขภาพ ดังนั้นเงื่อนไขจำเป็นข้อแรกของมนุษย์ตื่นเช้ามืดคือการเข้านอนไว
หากอยากฝังตัวทำงานในองค์กรดี ๆ ได้ค่าตอบแทนสูง คุณสมบัติแรกที่พึงมีคือความจงรักภักดีต่อองค์กร ซึ่งจุดเริ่มต้นของความจงรักภักดีนี้เริ่มจากการเข้าทำงานแต่เช้า เพื่อให้ทำเช่นนั้นได้ เราต้องวางแผนชีวิตประจำวันให้ดี จะนัดใครช่วงเย็นก็นัดอย่างเหมาะสม ควบคุมตัวเองไม่ให้เลยเถิดอยู่จนดึกดื่น
บนโลกนี้มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถ้าเราใช้ชีวิตแบบให้เวลาไล่กวดเราตลอดเวลา เราจะไม่มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเมื่อไม่มีเวลาพอให้คิด จิตใจก็เหมือนถูกบีบให้ตีบตันไปด้วย เหมือนกับงานที่เร่งรัดไม่ได้ทบทวน ย่อมสับสนอลหม่าน เราต้องมีจังหวะง่าย ๆ สบาย ๆ ให้ได้คิดทั้งกับเวลาและงาน ฉะนั้นเราจึงต้องเป็นคนที่ตื่นเช้ามืด
พนักงานใหม่ต้องคิดว่าการบ้านของตนคือการฝึกตัวเองให้มีนิสัยตื่นเช้า เมื่อมีนิสัยตื่นเช้าเสียอย่าง ถึงจะกลับบ้านดึก นอนดึก ก็ตื่นนอนตอนตี 5 ทุกเช้าได้เองโดยอัตโนมัติ นี่เป็นกลเม็ดอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราทำผลงานได้ดีกว่าคนอื่นแม้จะมีต้นทุนเท่า ๆ กัน ถึงจะทำงานไม่โดดเด่น แต่ถ้าเปลี่ยนตัวเองเป็นมนุษย์เช้ามืด เริ่มต้นวันใหม่เร็วกว่าเก่า ก็เท่ากับเราได้เดินบนทางลัดสู่ความสำเร็จแล้ว
ที่มา :
ขยันให้ถูกที่ ทำงานไม่ถึงปีก็สำเร็จ โดย โชยองฮวัน
ภาพ :
บทความน่าสนใจ
ทำงานได้อย่างมด และมีความสุขได้อย่างตั๊กแตน นิทานอีสปสะท้อนความสุขกับปัจจุบัน
คุณลุงรปภ.ใส่ใจคนรอบข้าง รักทุกคนเหมือนญาติ ทำงานด้วยใจแบบนี้มาร่วม 10 ปี
โต๊ะทำงานวัดประสิทธิภาพของการทำงานได้อย่างไร
โต๊ะทำงานที่โล่งสบายตาคือ เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ ในการทำงาน ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
