วิธีคั่วถั่วลิสง อย่างไร? ให้สุกทั่วทุกเม็ด เคล็ดลับที่คุณอาจไม่รู้
วิธีคั่วถั่วลิสง ของแต่ละบ้านนั้นก็มีวิธีทำที่แตกต่างกัน แต่เชื่อเลยว่าหลายๆคนคงต้องพบกับปัญหา การคั่วถั่วลิสงแล้วไม่สุกบ้าง ไหม้บ้าง ดิบบ้าง หรือ อาจมีความกรอบที่ไม่ทน แถมยังมีกลิ่นเหม็นเขียวเข้ามาอีกด้วย และในวันนี้ A Cuisine มีเคล็ดลับที่คุณอาจไม่เคยรู้ หรืออาจจะรู้อยู่แล้ว มาบอกเล่าให้แฟนเพจทุกคน พร้อมสูตรเมนูทานเล่นอย่าง ถั่วกรอบแก้ว เอาล่ะมาดูกันเลยจ้า…
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันเสียก่อน!
โดยทั่วไปแล้ว (คนส่วนใหญ่) มักมีความเชื่อว่า…คั่วนั้นต้องคั่วในสภาวะที่ แห้งที่สุด แถมบางคน ไม่ได้ล้างถั่วดิบ ก
ดังนั้น… การคั่วถั่วที่ดี ควรจะต้องล้างถั่วให้สะอาดเสียก่อน และควรคั่วทั้งน้ำเดือนจนแห้ง จะทำให้ถั่วคั่วนั้นมีกลิ่น รส รูปลักษณ์ที่ดี แต่โดยส่วนมากมักจะพบปัญหาการคั่วโดยไม่ผ่านการต้ม หรือนึ่งให้สุกเสียก่อน ทำให้พบปัญหา ถั่วสุกไม่ทั่ว ไหม้บ้าง ดิบบ้าง หรือกรอบในระยะเวลาสั้นๆ สักพักก็กลับมาเหนียว แถมยังมีกลิ่นเหม็นอับ หรือกลิ่นเหม็นเขียวตามมาอีกด้วย…
ดังนั้น…จะเรียกว่า วิธีการคั่วถั่ว อย่างเดียวไม่ได้ ต้องขอเรียกว่า การเคี่ยวให้น้ำงวดจนแห้ง และถึงจะคั่วต่อ นั่นเอง…
ทำไมถึงต้องทำให้ถั่วสุกก่อน โดยผ่านการต้ม นึ่ง ?
เนื่องจากว่าการต้มในน้ำเดื
นอกจากนั้นการต้มก่อนคั่วนั้น จะทำให้เมล็ดถั่วนั้นสามา
ที่มาของกลิ่นเหม็นเขียวเกิดขึ้นได้อย่างไร?
บทบาทของเอนไซม์ลิพ็อกซีจิเ
ซึ่งเจ้าเอนไซม์ตัวนี้จะสาม
เนื่องจากความร้อนที่ไม่สมบ
วิธีคั่วถั่วให้สุกอย่างถั่วถึง มีวิธีดังนี้…
- นำถั่วลิสงมาล้างน้ำให้สะอา
ดก่อน - หลังจากนั้นก็รินน้ำล้างทิ้
ง แล้วเติมน้ำใหม่ลงไปเพียงแค ่พอขลุกขลิกเท่านั้น - เปิดไฟแรงจัดจนน้ำเดือดจนงว
ดแห้ง แล้วหรี่ไฟเบาก่อนที่จะคั่ว ถั่วจนสุก - ผึ่งลมทิ้งไว้ให้เย็น และไล่ความชื้น ถ้าใจร้อนก็สามารถเปิดพัดลม
จ่อได้นะครับ - เก็บถั่วคั่วที่เย็นและกรอบ
แล้วในภาชะปิดสนิททึบแสง รวมไปถึงไม่ให้ความชื้นและอ ากาศจากภายนอกเข้ามาปะปนได้ เพื่อเป็นการยืดอายุการหืน (Rancidity) ของถั่วด้วย
เคล็ดลับนี้สามารถใช้ได้ดีก
ขอบคุณข้อมูลจาก
เคล็ดลับที่น่าสนใจอื่นๆ