แกงมัสมั่น นัมเบอร์วันของโลก

“มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา…” ส่วนหนึ่งจากกาพย์แห่ชมเครื่องคาวหวาน ที่เราหลายคนคงเคยท่องกันตอนเด็กๆ แต่ความพิเศษที่เราจะมาพูดวันนี้ก็คือ ทุกคนรู้หรือไม่ว่า “แกงมัสมั่น” ถูกยกย่องให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก อ้างอิงจากสำนักข่าว CNN ได้ทำการจัดอันดับ 50 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกประจำปี 2020 โดยให้ แกงมัสมั่น ของประเทศไทย เป็นอันดับ 1 พร้อมอธิบายว่า “เป็นราชาแห่งแกง และเป็นราชาของอาหารทุกอย่างบนโลก ที่มีทั้งรสเผ็ดร้อน รสหวาน รสมันจากกะทิ และรสชาติที่จัดจ้าน”

อันดับ 2 คือ พิซซ่าตำรับเนเปิลส์ จากประเทศอิตาลี ตามด้วยอันดับ 3 ช็อกโกแลต จากเม็กซิโก อันดับ 4 ซูชิ ประเทศญี่ปุ่น อันดับ 5 เป็ดปักกิ่ง ประเทศจีน ต่อมาอันดับ 6 เป็น แฮมเบอร์เกอร์ ประเทศเยอรมัน อันดับ 7 ปีนัง ลักซา ระเทศมาเลเซีย อันดับ 8 ต้มยำกุ้ง ประเทศไทย อันดับ 9 ไอศกรีม และอันดับ 10 Chicken muamba จากประเทศกาบอง

ต่อจากความอร่อยที่ถูกขนามนามให้เป็นอันดับ 1 ของโลก แกงมัสมั่น ในตำรับไทยนั้น มีการใช้สมุนไพรสดในพริกแกง ซึ่งแต่ละสมุนไพรนั้นก็มากด้วยคุณค่าทางอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ยี่หร่า ลูกกระวาน ใบกระวาน โป๊ยกั๊ก อบเชย ข่า ตะไคร้ หอมแดง พริก และกระเทียม เป็นต้น ซึ่งถ้าใครสนใจลองทำแกงมัสมั่นทาน คลิกที่สูตรนี้ได้เลย สูตรแกงมัสมั่น

แกงมัสมั่นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย เพราะมีส่วนผสมเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้อย่าง ลูกผักชี ยี่หร่า ลูกจัน ดอกจันทน์ เม็ดกระวาน กานพลู ซึ่งให้กลิ่นรสที่ร้อนแรง ในตำรับอินเดียจะใช้เฉพาะเครื่องเทศแห้งและไม่ใส่กะทิ แต่ตำรับของไทยมีการใช้สมุนไพรสดในพริกแกง และมีการปรุงรสให้ออกเค็ม หวาน มัน นั่นเอง

ประโยชน์สมุนไพรในแกงมัสมั่นมีอะไรบ้าง

กระวาน
สมุนไพรที่ช่วยขับลม บำรุงเลือด มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยสารสกัดน้ำเอทานอลมีผลกระตุ้นการดูดกลับของกลูโคส และช่วยเสริมฤทธิ์ของอินซูลิน อีกทั้งยังช่วยให้เจริญอาหารด้วย

ยี่หร่า
อุดมด้วยวิตามินซีและแคลเซียม ช่วยขับเหงื่อออกจากร่างกาย แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ และมีส่วนช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร นอกจากตามภูมิปัญญาโบราณ นิยมหมักเนื้อด้วยผงเมล็ดยี่หร่า เพื่อไม่ให้เนื้อสัตว์เน่าเสีย

อบเชย
สมุนไพร เครื่องเทศ รสร้อน ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี มีการศึกษาในสัตว์ทดลองของอบเชย พบว่า ช่วยเพิ่มการขยายหลอดเลือดและการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ โดยหนูที่ได้รับสารสกัดจากเปลือกอบเชย 91 มิลลิกรัม ต่อปอนด์ (200 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม) ทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่า อบเชย สามารถลดความดันโลหิตในคนได้ อย่างมีประสิทธิภาพโดยการทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยเพิ่มการไหลเวียนและช่วยให้หัวใจของคุณแข็งแรง

กระเทียม

นับว่าเป็นส่วนผสมสําคัญในน้ําพริกแกง มีงานวิจัย หลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่ากระเทียมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด อาทิรายงานจาก Journal of Nutrition ระบุว่า ไม่ว่ากระเทียมสดหรือกระเทียมที่ผ่านความร้อน หากกินเป็นประจํามีผลช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลําไส้ใหญ่

หอมแดง
ข้อมูลจากวารสาร Archives of Medical Science พบว่า สารสกัดจากหอมแดงอันเล็กๆ นี่แหละ มีคุณสมบัติ ต้านการอักเสบ ต้านการเจริญของเซลล์มะเร็ง ที่สําคัญคือ ไม่ทําลายเซลล์ปกติที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย

พริก
เป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ ในการทำเครื่องปรุงพริกแกง ซึ่งในพริกนั้นมีสารแคปไซซิน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเซลล์มะเร็ง โดยนักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีมัทราส ประเทศอินเดีย (The Indian Institute of Technology Madras) พบว่า สารแคปไซซิน สามารถยึดเกาะผิวของเซลล์มะเร็งและแทรกซึมเข้าไปได้ถึงเยื่อหุ้มเซลล์ ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์มะเร็งเกิดการเปลี่ยนแปลง และหากมีปริมาณมากพออาจมีผลทําลายเซลล์มะเร็ง

โป๊ยกั๊ก
ในประเทศแถบเอเชีย โป๊ยกั๊กถูกนำมาใช้เป็นยาแผนโบราณ เช่น ป้องกันโรคผิวหนังอักเสบ โรคปวดข้อ โรคหอบหืด และโรคหลอดลมอักเสบ และยังเชื่อว่าสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส แต่ในทางการแพทย์ ยังไม่มีผลวิจัยที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ฉะนั้นเราไม่ควรทานโป๊ยกั๊กเป็นยา ควรใช้เพียงแต่งเติมเสริมรสกลิ่นในอาหารจะเกิดผลดีกว่า

แต่ทั้งหมดทั้งมวล แกงมัสมั่น เป็นแกงที่ค่อนข้างมีความมันและไขมันค่อนข้างสูง ฉะนั้นอย่ากินเยอะนะ ไม่งั้นอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดี

ข้อมูลเพิ่มเติม
https://bit.ly/31rru8g
https://cnn.it/37vLavK
นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 430

————————————————————————————————————————————————————————–
บทความน่าสนใจอื่นๆ