อ้วนลงพุง

เคล็ดไม่ลับ ช่วยหลับสบาย ลดเสี่ยง อ้วนลงพุง

อ้วนลงพุงอย่าปล่อยไว้ โรคอ้วนลงพุงเป็นภาวะที่มีการสะสมของไขมันในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) ซึ่งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างมาก โดยคนท้วมมีโอกาสเกิดอ้วนลงพุงได้ถึงร้อยละ 25   

คนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปมีปัญหาลงอ้วนลงพุงเกือบร้อยละ 30 เคยมีการการสำรวจสถานการณ์ความอ้วนในประเทศไทยเทียบ เมื่อปี 2011 พบว่า ประชากรในประเทศไทยมีค่าเฉลี่ย BMI ≥ 25 อยู่ที่ 32.2% สูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน เห็นได้ว่าภาวะอ้วนในประเทศมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 – 20 ปี โดยสาเหตุที่ทำให้อ้วนลงพุง ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงเกินความต้องการของร่างกาย, ขาดการออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย พฤติกรรมทำงานใช้กำลังกาย ร่างกายไม่พร้อม อดนอน, กรรมพันธุ์,   หยุดและเลิกบุหรี่, กินยาที่ทำให้น้ำหนักขึ้น เช่น ยาจิตเวช ยากันชัก อินซูลิน สเตียรอยด์ และเป็นโรคต่อมไร้ท่อ เช่น โรคถุงน้ำในรังไข่ กลุ่มอาการคุชชิ่ง ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ

เคล็ดไม่ลับ ลดเสี่ยง อ้วนลงพุง ปัญหานี้มีทางแก้ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสนธิ์ จงตระกูล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำวิธีสร้างสุขลักษณะการนอนที่ดี (Sleep Hygiene) ช่วยให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารและความรู้สึกอิ่มอยู่ในระดับปกติ

วิธีลดความเสี่ยงโรค อ้วนลงพุง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่น ๆ มีดังนี้

10 B E T T E R S L E E P T I P S

นอนเท่าที่ร่างกายต้องการ

แต่ไม่ควรนอนนานเกินไป ดังนั้นเมื่อรู้สึกตัวตื่นแล้วให้รีบลุกจากเตียง แนะนำให้ไปเดินออกกำลังกายสัก 10 – 15 นาที แล้วค่อยไปทำกิจวัตรประจำวัน

นอนและตื่นเป็นเวลา

ฝึกให้เป็นนิสัยว่าต้องเข้านอนเวลากี่โมงและจากนั้นถ้าร่างกายพักผ่อนเพียงพอก็จะรู้สึกตัวตื่นในเวลาที่เหมาะสมได้อย่างสม่ำเสมอเอง

งดการงีบในช่วงกลางวัน

ที่นานกว่า 20 – 30 นาที ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 10 – 15 นาที

งดดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนหลังเที่ยง

ส่วนเครื่อมดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้งดตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ นอกจากนี้ควรงดสูบบุหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็นถึงค่ำ เพราะมีสารกระตุ้นให้ร่างกายตื่น

ออกกำลังกายเป็นประจำ

อย่างน้อยวันละ 20 นาที ควรออกกำลังกายก่อนถึงเวลานอน 4 ชั่วโมง เช่น ถ้าต้องเข้านอนสี่ทุ่ม ให้ออกกำลังกายได้จนถึงเวลาไม่เกินหกโมงเย็น

จัดห้องนอนให้เหมาะสมกับการพักผ่อน

ต้องมืด เงียบ มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป แนะนำที่อุณหภูมิ 25 องศาเชลเซียส

ไม่ใช้ที่นอนทำกิจกรรมอื่น ๆ

เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ กินอาหาร กินขนม ถ้านอนบนเตียงนานกว่า 20 นาทีแล้วยังไม่หลับ ให้ลุกจากเตียงไปทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น จิบน้ำอุ่น จิบนมอุ่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง และไม่กลับไปที่นอนจนกว่าจะรู้สึกเพลียหรือง่วง ถ้ายังไม่ง่วงอย่าฝืนนอน เพราะจะยิ่งทำให้นอนหลับยากขึ้นไปอีก

งดใช้อุปกรณ์สื่อสารและแก็ดเจ็ตต่าง ๆ ในห้องนอน

เพราะจะส่งผลรบกวนต่อการนอนหลับ ปิดไฟ ปิดโทรทัศน์ ปิดวิทยุ ลดการดูจอภาพในเวลาก่อนนอน เช่น จอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์ เพราะมีแสงสีฟ้าที่รบกวนคุณภาพการนอน

ลดเครียด

พยายามทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนเข้านอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ เพื่อช่วยขจัดความเครียดและความกังวลให้หมดไปก่อนจะเข้านอน

การใช้ยาบางประเภทอาจส่งผลรบกวนการนอนหลับ

เช่น ยาที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาที่ทำให้จมูกโล่ง ยาที่กดระบบประสาทส่วนกลางหรือกดความอยากอาหาร ยาขยายหลอดลม ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด

กรณีที่เป็นผู้ป่วยซึ่งต้องใช้ยาเหล่านี้เป็นประจำ หากมีปัญหาการนอนควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อนำไปสู่การปรับยาที่สามารถทำให้หลับได้ตามปกติ

ที่มา: นิตยสารชีวจิต ฉ.536

/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คนอ้วนต้อง กินคาร์โบไฮเดรต อย่างไร ถ้าอยากจะผอม

บอกต่อวิธี เดินลดอ้วน สำหรับวัยกลางคน

เจาะลึกระบบต่างๆ ที่ทำให้เรา อ้วน





© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.