เดินลดอ้วน ทำได้จริงแม้ในวัยกลางคน
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ปัญหาโรคอ้วนก็ตามมา วันนี้ชีวจิตพลิกคัมภีร์เพื่อแนะนำวิธีการเดินลดอ้วนให้ทุกคนได้ทำตาม
ที่วัยกลางคนอ้วนนั้น สาเหตุก็เพราะไขมันส่วนเกินมาสะสมอยู่ที่หน้าท้อง ต้นขา กล่าวคือ ไขมันส่วนเกิน ไม่ถูกเผาผลาญเป็นพลังงาน แต่ถูกเก็บสะสมไว้ในใต้ผิวหนัง
ส่วนที่ไขมันถูกเก็บสะสมไว้ง่ายที่สุดคือ หน้าท้อง ถัดมาคือต้นขา และ ต้นแขนและรอบๆ หัวใจ แต่ไขมันเป็นอันตรายต่อหัวใจเป็นอย่างมาก หากมีไขมันมาเกาะอยู่รอบๆ แล้วละก็ เปรียบเสมือนสัญญาณอันตราย มาถึงแล้ว
แต่ไมใช่ว่าความอ้วนในวัยกลางคนจะไม่ดีไปเสียหมด เพียงแต่ ไม่ควรปล่อยให้มีไขมันหน้าท้องมาก หรือมีไขมันเกาะตามอวัยวะภายใน ที่สำคัญ อ้วนขนาดอุ้ยอ้าย ทำอะไรไม่ไหว แบบนี้มีปัญหาแน่ๆ
สาเหตุความอ้วนเกิดจาก “3 ตัวการ” คือ
อาหารจำพวกแป้ง อาหารจำพวกแต่งหน้าสวยๆ และสุดท้าย ออกกำลังกายไม่พอ แม้คุณๆ จะไม่ใช่คนอ้วนง่ายแต่หากมีครบ “3 ตัวการ” น้ำหนักตัวย่อมเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
การทานอาหารมากเกินไปและออกกำลังกายไม่พอ ไขมันจึงจับตามใต้ผิวหนัง เมื่อไขมันจับตามใต้ผิวหนังจนไม่เหลือ ที่แล้วจะไปจับอยู่ที่อวัยวะภายใน และลำไส้ ส่งผลให้กลายเป็นคนอ้วนอุ้ยอ้ายไปทั้งตัว (ผู้ป่วยโรคอ้วนจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์) อินซูลิน, การหลั่งโฮรโมนต์ผิดปกติ การหลั่งโฮรโมนต์เพศลดลง. ต่อมฮอร์โมนต์เพศไม่ปกติ
ไขมันมีลักษณะเฉพาะที่น่าเป็นห่วงคือ จับตัวกันง่ายแต่สลายตัวยาก ดังนั้นหากไขมันจับตัวกันเพียงครั้งเดียว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะเอาออกไปง่ายๆ แม้การออกกำลังกายจะเป็นการทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว แต่คนอ้วนมีน้ำหนักตัวมาก การวิ่งจ๊อกกิ้งจึงไม่เหมาะกับคนอ้วน เพราะเข่าจะเจ็บง่าย
ว่ายน้ำ น่าจะเป็นกีฬาที่เหมาะกว่า แต่การว่ายมากๆ หัวใจอาจจะทนไม่ไหว ควรเอาแค่เดินในน้ำจะดีกว่า แต่เป็นเรื่องยากที่จะเป็นสระว่ายน้ำทุกวัน ดังนั้น การเดิน จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่การเดินขึ้นอยู่กับความอ้วนของแต่ละคนและความ ทนทานของหัวเข่า จึงควรนำมาดัดแปลงให้เข้ากับสภาพของตน
วิธีที่จะไม่ให้แพ้ต่อน้ำหนักตัววิธีหนึ่ง คือ เดินบนลู่วิ่งภายบ้าน เมื่อรู้สึกว่าตัวเบาขึ้น แล้วคราวนี้ควรออกไปข้างนอกสูดอากาศ สลัดแขนให้คล่องแล้วออกเดินอีกครั้ง จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น มิหนำซ้ำมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไม่ขาดตอน
การที่จะลดไขมันใต้ผิวหนังได้ จำเป็นต้องอาศัย การเดินติดต่อกันทุกวัน เดินวันละนิดวันละหน่อยก็ได้ แต่ขอให้เดินทุกวัน ในขั้นแรก ระยะทางและเวลาควรน้อยไว้ก่อน เพื่อไม่เป็นอันตรายต่อหัวเข่า หากเป็นไปได้ควรเพิ่มวันละ 1 นาทีทุกวัน การใช้งานที่เอวและขาเป็นการลดไขมันออกไปได้มาก
ขอกลับมาที่คุณสมบัติของไขมันอีกครั้งหนึ่ง จำนวนของเซลไขมันจะเพิ่มจำนวนจนคงที่เมื่ออายุ 1-5 ปี คิดเป็นราวๆ 2 หมื่นล้านเซล หากไขมันเข้าไปอยู่ในเซลไขมันทุกเซลๆ แล้ว ทำให้เซลไขมันขยายตัว กลายเป็นคนที่มีโครงร่างอ้วน ดังนั้นวิธีหยุดความอ้วนจึงต้องดึงเอาไขมันออกจากเซลไขมันทุกๆ เซล
ความอ้วนมีหลายระดับ คนที่อ้วนประมาณ 30% สามารถรักษาด้วยการเดินได้ แต่หากอ้วนเกิน 50% ขึ้นไป อันตรายต่อหัวเข่าย่อมมีมากขึ้น ต้องใช้วิธี “เดินแบบพิเศษ”
หากปล่อยให้อ้วนขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งแรกที่ตามมาคือ ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว เบาหวาน โรคไต มะเร็ง เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคร้ายแรงทั้งนั้น
แจกโปรแกรม เดิน เร่งเผาผลาญ
ในการเดินเพื่อเร่งระบบเผาผลาญ ไม่ใช่การเดินทอดน่องนะคะ แต่ต้องเดินให้เร็ว ยิ่งเดินเร็วเท่าไร ยิ่งเผาผลาญได้มากเท่านั้น วันนี้ชีวจิตมีโปรแกรมง่าย ๆ กับการเดินบนลู่ ซึ่งสามารถทำตามได้ทุกเพศทุกวัย มาฝาก
สำหรับนาทีที่ 1-5 เป็นการวอร์มอัพ ใช้ความเร็ว 3.4
เมื่อถึงนาทีที่ 5.00-10.59 ถัดมา ให้เดินเร็วสลับช้า โดยเดินเร็วรอบละ 60 วินาที ความเร็วที่ 4.0 สลับเดินช้า รอบละ 60 วินาที ความเร็ว 3.4
จากนั้น เมื่อนาทีที่ 11.00-15.59 เดินเร็วสลับช้า โดยเดินเร็วรอบละ 40 วินาที ความเร็ว 4.2 เดินช้ารอบละ 20 วินาที ความเร็ว 3.4
ในนาทีที่ 16.00-20.59 เดินเร็วสลับช้า โดยเดินเร็วรอบละ 30 วินาที ความเร็ว 4.4 เดินช้ารอบละ 30 วินาที ความเร็ว 3.4
สำหรับนาทีที่ 21.00-25.59 เดินเร็วสลับช้า โดยเดินเร็วรอบละ 20 วินาที ความเร็ว 4.6 แล้วเดินช้ารอบละ 30 วินาที 3.4
และสุดท้าย นาทีที่ 28-30 ให้เดินช้า ๆ เพื่อเป็นการคูลดาว์น
ที่มา
- หนังสือเดินเพื่อสุขภาพ
- นิตยสารชีวจิต
บทความอื่นที่น่าสนใจ
เจาะลึกระบบต่างๆ ที่ทำให้เรา อ้วน
บอกต่อวิธีชะลอวัย 1. เร่งเมแทบอลิซึม 2. เร่งขับพิษ เพื่อสุขภาพดี
ปวดท้องประจำเดือน อาการนี้ไม่ปกตินะสาว
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โรคซึมเศร้า จึงสัมพันธ์กับฤดูกาล
ติดตามชีวจิตได้ที่