ต้มสับปะรดกับโคนปีกไก่ เมนูนี้ได้รับอิทธิพลจากคนจีนที่อยู่ในเมืองไทย นิยมใช้สับปะรดพันธุ์ศรีราชาห่าม ๆ หรือพันธุ์ภูเก็ตแบบสุกมาต้มกับหมูสามชั้นหรือกระดูกหมู เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำรสเปรี้ยวอมหวานจากสับปะรดออกมา ทำให้น้ำแกงมีรสชาติ
ซดแล้วคล่องคอแถมสับปะรดยังช่วยให้เนื้อสัตว์เปื่อยนุ่มไว เรานำมาเติมเครื่องโขลกหรือสามเกลอของไทยลงไปเพิ่มความหอม และเปลี่ยนจากเนื้อหมูเป็นโคนปีกไก่แทนเพราะเป็นโปรตีนเนื้อขาว ย่อยง่ายแบบฉบับ H &C แต่ยังคงความอร่อยเหมือนเดิม
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 15 นาที ปรุง 30 นาที
- โคนปีกไก่ 500 กรัม
- สับปะรดศรีราชาห่ามหั่นชิ้นพอคำ 4 ถ้วย
- รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนชา
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
- พริกไทยขาวเม็ด ¼ ช้อนชา
- น้ำมันสำหรับเจียว
- เครื่องโขลก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 6 ถ้วย
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทาย 1 – 2 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีเล็กน้อยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
โขลกรากผักชี กระเทียมพริกไทยให้ละเอียดเข้ากัน นำไปเจียวให้หอม ตักขึ้นพักไว้จากนั้นเทน้ำใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น่องไก่และเกลือลงไปต้มด้วยไฟกลางพอเดือด หรี่ไฟลง (คอยช้อนฟองออก) เติมสับปะรดลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาล พอเนื้อไก่เปื่อยนุ่มชิมรสน้ำซุปให้ออกเปรี้ยวหวานเค็ม รอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟตักเครื่องโขลกที่เจียวไว้ใส่ลงไปคนพอเข้ากัน ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 467.41 กิโลแคลอรี
โปรตีน 23.18 กรัม ไขมัน 27.12 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 32.83 กรัม ไฟเบอร์ 0.44 กรัม
วิธีรับประทานสับปะรดให้ถูกต้อง
สำหรับการรับประทานที่ถูกวิธี ให้ใช้มีดขนาดใหญ่เฉือนเปลือกออกจนหมด จากนั้นจึงใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียงเรียงแถวจนหมด ก่อนตัดเป็นชิ้นแล้วเอาเกลือแกงทาให้ทั่ว หรือแช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2 – 3 นาที การทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือนอกจากจะทำให้รสชาติดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการทำลายสารจำพวกไกลโคอัลคาลอยด์ (Glycoalkaloid) และเอนไซม์บางชนิดซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้หลังรับประทาน
เรื่อง : เป็นเอก ทรัพย์สิน ภาพ : จิรวัฒน์ มหาทรัพย์ถาวร
ผู้ช่วยช่างภาพ : ณัฐยา วิชัยกุล สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์