กินอาหารสุขภาพ
ปรับสมดุลกระเพาะอาหารและร่างกายโดยรวม
อาหารสุขภาพ ในวันนี้ จะเป็นอาหารที่ช่วยคืนสมดุลภาวะกรด-ด่างของร่างกาย เพราะหากร่างกายมีกรดหรือด่างมาเกินไป จะทำให้สุขภาพโดยรวมนั้นได้รับผลกระทบไปด้วย นำมาซึ่งความเจ็บป่วยที่ใครๆ ก็ไม่อยากเจอ
เมื่อร่างกายเสียสมดุล
รองศาสตราจารย์ศรีสนิท อินทรมณี ภาควิชาเคมีคลินิก คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายภาวะที่ร่างกายเสียสมดุลกรด-ด่างว่า
“ในภาวะปกติ เลือดของเราจะมีความเป็นด่างอ่อนๆ หรือมีค่า pH ประมาณ 7.35 – 7.45 เมื่อค่า pH ในเลือดเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ จะทำให้เกิดภาวะกรดเกินหรือภาวะด่างเกินได้ ถ้าค่า pH ในเลือดต่ำกว่า 6.8 จะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด (Acidosis) อาจโคม่าและเสียชีวิตได้ หรือถ้า pH ในเลือดสูงกว่า 7.8 จะเกิดภาวะเลือดเป็นด่าง (Alkalosis) อาจมีอาการชักและเสียชีวิตในที่สุด”
แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะ อาจารย์บอกว่า ภาวะกรดเกินและด่างเกินเกิดขึ้นได้น้อยมาก นอกจากจะมีความผิดปกติของปอดหรือไตซึ่งเป็นอวัยวะที่ควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกายเท่านั้น โดยปกติแล้ว หากร่างกายมีภาวะเป็นกรดหรือด่างไม่มาก คืออยู่ระหว่าง 6.8 – 7.8 ร่างกายจะมีกลไกปรับสภาพความเป็นกรดด่างในร่างกายให้สมดุลได้ โดยการขับถ่ายกรดออกนอกร่างกายทางปัสสาวะ (กรดอินทรีย์) หรือลมหายใจออก (ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์)
เมื่อกรดเกินแล้วเป็นอย่างไร
ภาวะกรดเกินมีผลต่อการทำงานของร่างกายแทบ ทุกส่วน เป็นผลให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆ ดังนี้
- ระบบย่อยอาหาร มีอาการอาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ กรดไหลย้อน กรดเกินในกระเพาะ
- ระบบไหลเวียนโลหิต เป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจ เพราะเมื่อร่างกายมีภาวะความเป็นกรดสูง ทำให้ต้องเร่งสร้างผนังหลอดเลือดให้หนาขึ้นด้วยไขมันเพื่อป้องกันการรั่วซึม เป็นเหตุให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
- ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากเชื้อโรคตัวร้าย จะเจริญได้ดีในภาวะที่เป็นกรดสูง เมื่อมีภาวะความเป็นกรดสูง จึงทำให้เป็นหวัด ติดเชื้อได้ง่าย
- ระบบทางเดินหายใจ สภาวะเป็นกรดทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆในร่างกายติดขัด เมื่อเซลล์ต่างๆขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย จึงเป็นไข้ หลอดลมอักเสบ และโรคหืดได้
- ระบบกระดูก เนื่องจากร่างกายต้องดึงแคลเซียมและแมกนีเซียมจากกระดูกไปเพื่อลดระดับความเป็นกรดในเลือด ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน ฟันโยกและผุง่าย เป็นสาเหตุหลักของโรครูมาทอยด์(Rheumatoid) และโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ซึ่งเกิดจากการสะสมของกรดในข้อต่อต่างๆ ทำให้กระดูกอ่อนถูกทำลาย
- ผิวหนัง ติดเชื้อได้ง่าย ภูมิต้านทานการติดเชื้อลดลง ผิวหนังถลอกและเป็นแผลได้ง่าย
- ระบบประสาทอ่อนแอ เป็นผลให้ความคิด ความจำ และอารมณ์ผิดปกติ
- ไต เนื่องจากไตมีหน้าที่รักษาสมดุลความเป็นกรดในร่างกาย หากร่างกายมีภาวะกรดเกิน ไตจะดึงแร่ธาตุ จากกระดูกมาทิ้งลงในเลือด ถ้าปล่อยไว้นานวันเข้า แร่ธาตุเหล่านี้ไปพอกพูนที่ไต อาจทำให้เป็นนิ่วในไตได้
- กล้ามเนื้อขาดความยืดหยุ่น เพราะกรดจะไป ขัดขวางการเปลี่ยนกลูโคสและออกซิเจนเป็นพลังงาน ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นน้อยลง
เมื่อกรดเกินแล้วต้องทำอย่างไร
เพื่อปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำให้กินอาหารที่เป็นกรดให้น้อยลง และกินอาหารที่จะไปสร้างภาวะด่างให้ร่างกายเพิ่มขึ้นอาหารที่ช่วยเพิ่มความเป็นด่าง ได้แก่
- ข้าวไม่ขัดสีจำพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ
- เนื้อปลา อาหารทะเล
- เมล็ดพืชต่าง ๆ เป็นต้นว่า อัลมอนด์ แฟลกซ์ซี้ด เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ลูกเดือย ลูกบัว ข้าวฟ่าง งาดำ งาขาว ข้าวโอ๊ต หัวมัน เช่น มันไข่ มันเลือด
- ผักและผลไม้ แนะนำให้กินผักใบเขียว ผักบุ้ง ปวยเล้ง ขึ้นฉ่าย ฟักทอง กระเทียม มะเขือเทศ ข้าวโพด สาหร่าย แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง พืชตระกูลกะหล่ำ บรอกโคลี เยื่อไผ่ อะโวคาโด แอ๊ปเปิ้ล แตงโม กล้วย ลูกแพร์ องุ่นม่วง
นอกจากนี้ยังแนะนำให้กินผลไม้รสเปรี้ยวบางชนิดที่หลังจาก ผ่านกระบวนการย่อยแล้ว ส่วนที่เหลือจะมีความเป็นด่าง เช่น เลมอน มะนาว ส้ม สับปะรด กีวี อีกทั้งยังควรกินแร่ธาตุแคลเซียม โซเดียม และแมกนีเซียมเสริม เพื่อทดแทนปริมาณแร่ธาตุที่สูญเสียไปจากการรักษาสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย
ที่สำคัญ อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หักโหม จะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้หมุนเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีขึ้น
เมื่อด่างเกินแล้วควรทำอย่างไร
ควรรักษาที่ต้นเหตุและโรคที่เป็น ถ้าเป็นที่ระบบทางเดินหายใจ ควรนั่งพักสักครู่ หายใจลึกๆช้าๆเพื่อควบคุมระดับออกซิเจนในร่างกาย และควรไปพบแพทย์
เมื่อใช้วิธีปรับสมดุลกรด-ด่างตามธรรมชาติเช่นนี้แล้ว ร่างกายก็จะสดใสแข็งแรง โรคร้ายก็ไม่มารุกรานเลยค่ะ
บทความน่าสนใจอื่นๆ