7 วิธีกำหราบ ความเครียด ให้อยู่หมัด ทริคสำหรับคน ไม่อยากเครียด
การดำเนินชีวิตในสังคมยุคปัจจุบัน มีปัจจัยหลากหลายที่ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องที่มีแต่ ความเครียด สารพัน ตั้งแต่ตื่นนอน จนเข้านอน และเป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซีเคร็ตขอแนะนำวิธีคลายความเครียดอย่างง่ายๆ สำหรับคนที่ ไม่อยากเครียด ที่จะช่วยให้จิตใจเบิกบาน และพร้อมยิ้มรับทุกสถานการณ์ในทุกๆ วัน
- อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือนับเป็นวิธีการคลายเครียดที่ดีวิธีหนึ่ง เพราะเมื่อได้อ่านหนังสือที่ชอบสักเล่ม จินตนาการจะทำให้เราก้าวห่างจากโลกแห่งความจริงอันแสนวุ่นวาย และเข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกของหนังสือ นอกจากนั้น เมื่ออ่านหนังสือ เราจะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับหนังสือ และลืมเรื่องกังวลต่างๆ ไปโดยปริยาย ทำให้ความเครียดทั้งหลายบรรเทาเบาบางลง
2. เดินทางท่องเที่ยว
การเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใหม่ๆ นอกจากเป็นการเปิดหูเปิดตา เปิดโลกทัศน์ ลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นเมือง เรียนรู้วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของผู้คนในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ยังเป็นการพักร่างกายและจิตใจจากความตึงเครียดรายวัน จากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
นอกจากนั้น การไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ ยังทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เติมออกซิเจนให้ร่างกาย ผลการวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Physiological Anthropology พบว่า การสัมผัสใบไม้เพียงแผ่วเบาประมาณ 2 นาทีช่วยให้ผู้เข้ารับการทดลองรู้สึกสงบมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการไหลเวียนโลหิตซึ่งส่งไปเลี้ยงสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดอีกด้วย
3. ฟังเพลงโปรด
การฟังเพลงส่งผลต่อสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึก และควบคุมความดันโลหิต การฟังเพลงช้าช่วยลดความดันโลหิตได้ ผลการวิจัยพบว่าดนตรีคลาสสิคมีพลังกระตุ้นสมองส่วนลิมบิค (Limbic) ซึ่งช่วยลดความเครียด และช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม การฟังเพลงไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็สามารถช่วยลดความเครียดได้ทั้งสิ้น หากเป็นเพลงที่เราชื่นชอบ ไม่จำกัดเฉพาะเพลงคลาสสิคเพียงอย่างเดียว
4. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายนับเป็นวิธีคลายเครียดอีกวิธีหนึ่ง เพราะเมื่อเราออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา เราไม่จำเป็นต้องเข้ายิม หรือฟิตเนสราคาแพง เพราะการออกกำลังกายกลางแจ้งนั้นทำให้ร่างกายได้สัมผัสกับธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาวะอารมณ์และจิตใจมากกว่าการออกกำลังกายในสถานที่แคบๆ
5. นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธินอกจากจะทำให้จิตใจสงบแล้ว ยังช่วยคลายเครียดได้อีกด้วย เพราะเมื่อเรานั่งสมาธิความดันโลหิตจะลดลง ต่อมหมวกไตจะหยุดการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน และร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟีนออกมาทำให้ความเครียดบรรเทาเบาบาง นอกจากนั้น การนั่งสมาธิยังเป็นการทำให้จิตใจของเราจดจ่ออยู่กับลมหมายใจ ไม่ฟุ้งซ่านไปคิดจมจ่อมอยู่กับเรื่องเครียดต่างๆ
6. หางานอดิเรกทำยามว่าง
การหางานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบในยามว่างนับเป็นอีกวิธีคลายเครียดที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมักเกิดจากการที่จิตใจของเราจดจ่ออยู่กับความเครียดในเรื่องต่างๆ การทำงานอดิเรกอย่างเช่น การปลูกต้นไม้ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ หรือเลี้ยงสัตว์จะช่วยให้เราละความสนใจจากความเครียดต่างๆ สร้างความสุข ทั้งยังทำให้รู้สึกภูมิใจในตนเองอีกด้วย
7. หัวเราะ
การหัวเราะนับเป็นวิธีคลายเครียดที่ทำได้ง่าย และประหยัดที่สุด นอกจากนั้น เรายังสามารถหัวเราะได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย เวลาที่เราหัวเราะ สมองส่วนพรีฟรอนทอลคอร์เทกซ์ (Prefrontal Cortex) ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมอารมณ์เชิงบวกและลบจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟีนออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุข
นอกจากนั้น ผลการวิจัยจากศูนย์การแพทย์ทางเลือกมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียยังระบุอีกว่า การนึกถึงเรื่องตลกขบขันทำให้ความโกรธลดลง 19 เปอร์เซ็นต์ และความหดหู่ลดลงถึง 51 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
แหล่งที่มา : คอลัมน์ Life Management นิตยสาร Secret ฉบับที่ 190
ว่างงานจนเครียดและจิตตก ต้องทำอย่างไร
ถาม : ว่างงานจนเครียดและจิตตก เหมือนตัวเองเป็นคนไร้ค่ามากเลยครับ ใจจริงผมอยากช่วยเหลือที่บ้าน ไม่อยากให้ พ่อแม่ ทำงานหนักอีกแล้ว แต่ก็ช่วยอะไรพ่อแม่ไม่ได้ เพราะลาออกจากงานเสียแล้ว
พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ไขปัญหาข้อนี้ว่า
กุศลจิตในใจ เรายังมีไม่พอ จึงทำให้เราจิตตกแบบที่ว่า พออกุศลเข้ามาแทรก จิตใจเราก็จะเกิดความเศร้าหมอง แบบนี้ทำกรรมฐานเสริมได้เลย ฝึกสติเจริญสมาธิ
ลองบริกรรมบทสวดมนต์ นึกถึงสิ่งที่ดี ๆ กุศลจะทำให้จิตไม่เศร้าหมอง จิตก็จะเบิกบานแจ่มใส พอทำแล้วสุดท้ายเราจะไม่มีปัญหา ไม่มีอาการคร่ำครวญ เพราะ ใจไม่เศร้าหมองอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากจิตมีร่มกาง คือ มีสติปกป้องจิต ฝากให้คนที่กำลังมีปัญหาลองเจริญสติดู จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง เพราะ สติจะขีดเส้นเป็นรั้วเป็นยันต์ ป้องกันไม่ได้ปัญหาเข้ามากระทบถึงใจ ใจก็จะผ่องใสสงบเย็นอยู่อย่างนั้น
ทุกวันนี่้ คนไม่ค่อยเจริญสติกัน ปกติสติก็มีน้อยนิดอยู่แล้ว ยังไปกินเหล้าเมามายทำลายสติอีก ชอบทำร้ายตัวเอง แล้วมาบอกว่ารักตัวเอง เคยได้ยินไหม…ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ได้เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง ให้เธอคิดเอาเองว่าชีวิตเธอเป็นของใคร ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่รับมันมาใส่ใจ ถูกเขาทำร้ายเพราะใจเธอแบกรับมันเอง…
แหล่งที่มา : คอลัมน์ Dhamma Daily นิตยสาร Secret
บทความที่น่าสนใจ
ข้อคิดเรียกสติ จาก หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
คลายเครียด จากการทำงานด้วย การเจริญสติ หนทางที่ ปรับตนเอง ให้เป็นกุศล