เทคนิคการเลือกแว่นตา ของดู๋ สัญญา แบรนด์แอมบาสเดอร์เอสซีลอร์
ปัญหาสายตาไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้นค่าสายตาก็เปลี่ยนไป และแว่นตา ก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มของคนที่เริ่มมีความบกพร่องทางด้านสายตา ฉะนั้นการที่เราจะรู้ เทคนิคการเลือกซื้อแว่น ก็เป็นสิ่งสำคัญ และล่าสุด เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายเลนส์แว่นตาจากประเทศฝรั่งเศส จับมือ ดู๋-สัญญา คุณากร พิธีกรคุณภาพมากฝีมือ และแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเอสซีลอร์ประเทศไทย มาเปิดใจแบบเรียลไทม์ครั้งแรก พร้อมด้วย ดร. มายูมิ ฟาง ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บริษัท เอสซีลอร์ ภูมิภาคอินโดไชน่า กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ และป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม ร่วมพูดคุยผ่าน Essilor Live Streaming แบบเรียลไทม์ครั้งแรกของประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพดวงตาพร้อมเผยเคล็ดลับการเลือกเลนส์ในแบบผู้บริโภคฉลาดซื้อ
ชีวจิตมีโอกาสได้พูดคุยกับ สัญญา คุณากร พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ที่ภาพจำอย่างหนึ่งของเขาก็คือการสวมใส่แว่นตา โดยคุณดู๋ เล่าว่า “เลนส์แว่นตาไม่ใช่อะไรก็ได้ แต่ต้องตอบโจทย์ครบทุกคุณสมบัติในหนึ่งเดียว เรื่องแว่นตากับผม มี 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่ผมต้องการ เรื่องแรกคือ ต้องแก้ค่าความผิดปกติของดวงตา ไม่ว่าเราจะสายตาสั้น ยาว หรือเอียง และต้องทำให้ผมมีความสะดวกในการมองตรงไหนก็ชัด ซึ่งความสามารถตรงนี้เรามีเมื่อยังเด็ก พอโตค่าการมองเห็นก็เริ่มมีสายตาสั้น สายตาเอียง พอเลยอายุเลย 40 เราก็เริ่มสายตายาว สิ่งที่ผมอยากได้จากแว่นก็คือ การหาวิธีมองแบบตอนเป็นเด็ก คือมองตรงนี้ก็ได้ อ่านตรงนี้ก็ได้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เลนส์โปรเกรสซีฟตอบโจทย์ตรงนี้ได้แล้ว แล้วทำให้มีชีวิตปกติไม่ต้องกังวล ก่อนหน้านี้มันมีปัญหาอันนี้มองได้ แต่อะไรที่อยู่ใกล้มองไม่ได้ เป็นพิธีกรก็จะลำบากมาก สิ่งที่สองที่ผมอยากได้จากแว่นก็คือ การปกป้องจากอะไรก็ตาม แดด ฝุ่น แสงสว่างเกินไป หรือรังสียูวี ที่เรามองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่จริงแล้วสร้างผลกระทบต่อดวงตาได้จริง หรือแสงสีฟ้าจากหน้าจอต่างๆ”
อีกทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในโลกยุคนิวนอร์มอลที่ผู้คนต้องจ้องมองหน้าจออุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ยาวนานตลอดวัน “การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกแว่นหรือการเลือกเลนส์แว่น ยิ่งจำเป็นต้องกว่าคนยุคเก่า เพราะเด็กยุคก่อนไม่ได้ถูกอาบรังสียูวีจากหน้าจอตั้งแต่เกิด เดี๋ยวนี้ผมเห็นเด็กน้อยอายุ 2-3 ขวบ พ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เอามือถือให้ลูกเล่น เพราะดูแลปกครองได้ง่ายจากการดื้อของเด็ก แต่ทีนี้เด็กก็จะได้รับแสงบลูยูวีจากหน้าจอต่างๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่าระยะยาวเมื่อเขาโตขึ้นจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อมันมี เราก็ควรจะป้องกัน เพราะในผู้ใหญ่ที่เราเห็นเล่นมือถือทุกวันนี้ คุณไม่ได้โดนหน้าจอตั้งแต่เด็ก คุณมาใช้เยอะตอนโตแล้ว”
นอกจากนี้ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์เอสซีลอร์ ดู๋ สัญญา ยังกล่าวว่าการตัดสินใจรับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเอสซีลอร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผม ถึงจะเป็นคนที่คุ้นเคยกับการใส่แว่นสายตา แต่เรื่องเลนส์สายตา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การที่จะสื่อสารให้ผู้บริโภคเชื่อถือและเข้าใจในผลิตภัณฑ์ ถ้าไม่ได้ใช้จริง หรือรู้สึกจริง ก็คงไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มปาก ว่าผลิตภัณฑ์ของเอสซีลอร์นั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสายตาและปกป้องดวงตาได้ ซึ่งตอนนี้ตัวผมเองใช้เลนส์โปรเกรสซีฟอยู่ ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตประจำวันของผมมาก ไม่ว่าจะทำงาน หรือทำกิจกรรมยามว่าง สามารถมองเห็นในทุกระยะจากการมองใกล้จนถึงไกลอย่างชัดเจน
สำหรับคนที่สนใจสอบถามหาเลนส์แว่นตาจากเอสซี
ขอบคุณรูปเพิ่มเติมจาก
บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด