ปกติแล้ว ช่องทางเดียวสำหรับขอความช่วยเหลือเมื่ออยากฆ่าตัวตาย คือสายด่วนฮอตไลน์ แต่อัตราการฆ่าตัวตายยังสูงขึ้นเรื่อยๆ สาธารณสุขและนักวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาจึงต้อง การช่องทางใหม่
ในปีค.ศ. 2013 คุณแนนซี ลูบลิน ซีอีโอขององค์กร DoSomething.org ซึ่งทำงานช่วยเหลือเด็กวัยรุ่นด้อยโอากาส จึงปิ๊งไอเดีย Crisis Text Line ให้บริการปรึกษาปัญหาฉุกเฉินทุกชนิด เช่น อยากฆ่าตัวตาย หรือโดนทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ผ่านข้อความ SMS ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาในยุคที่ใครๆก็ติดแชท
ภายใน 3 ปีหลังเปิดให้บริการ มีการแลกเปลี่ยนข้อความผ่าน Crisis Text Line กว่า 19 ล้านข้อความ โดยพบข้อมูลว่า ผู้คนมักอยากฆ่าตัวตายในช่วงเวลา 1-3 ทุ่ม วันอังคารเป็นวันที่ผู้มีอาการซึมเศร้าหรือโดนทำร้ายร่างกาย จะมาขอความช่วยเหลือมากที่สุด และร้อยละ 35 ของข้อความ มาจากกลุ่มคนวัยกลางคน ซึ่งมักต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับลูก การหย่าร้าง หรือปัญหาด้านการงาน
การ บริการรูปแบบนี้ยังเป็นประโยชน์มาก สำหรับผู้พิการทางการได้ยินที่เป็นโรคซึมเศร้า คุณลิลี่ เรยน์ หนึ่งในคนหูหนวกที่คิดอยากฆ่าตัวตาย บอกว่า เธอไม่ได้โตมากับการใช้ภาษามือ เวลามีปัญหาจึงไม่สามารถปรึกษานักบำบัดได้ การโทรพูดคุยผ่านสายด่วนฮอตไลน์ก็เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณลิลี่ แต่ Crisis Text Line ถือ เป็นความหวังใหม่ ช่วยเหลือผู้ที่กำลังท้อแท้หรือหลงทางในชีวิต เธอยังบอกว่ามันเป็นความช่วยเหลือในแบบที่คนหูหนวกไม่เคยได้รับมาก่อน
น่าเสียดายที่การบริการนี้ยังครอบคลุมเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ที่มา: USA Today
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com