ป่วยบ่อย

ป่วยบ่อย ป้องกันได้ ถ้ามี “ภูมิชีวิต”

ป่วยบ่อย คำนี้เชื่อว่าเป็นคำที่หลายคนรำคาญ กังวล รวมถึงอยากหลีหนีให้ห่าง เพราะหากป่วยบ่อยๆ ผลเสียตามมามากมาย ไม่ว่าจะในวัยเล่าเรียนที่อาจเรียนไม่ทันเพื่อน ในวัยทำงานยิ่งแล้วใหญ่ ที่อาจส่งผลต่อความมั่นคงในการทำงานได้เลยทีเดียว วันนี้ชีวจิตจึงชวนทุกคนมาสร้าง “ภูมิชีวิต” เพื่อป้องกันการ ป่วยบ่อยกันค่ะ

ภูมิชีวิต คำนี้ ดร.สาทิส อินทรกำแหง กูรูชีวจิต ได้เขียนบบทความที่อธิบายความหมายและความสำคัญของภูมิชีวิต หรือ Immune System-IS (อิมมูน ซิสเต็ม) ไว้อย่างดีในหนังสือหลายๆเล่ม เช่น “เรื่องของภูมิชีวิต” “มะเร็งแห่งชีวิต” ของสำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์ กรุ๊ป เป็นต้น แอดจึงขอนำมาให้ทุกคนทำความเข้าใจ และนำไปปรับใช้ เพื่อลดการ ป่วยบ่อย นั่นเองค่ะ

ธรรมชาติมอบ IS มาตั้งแต่เกิด ป้องกัน ป่วยบ่อย

แม้จะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า เด็กเล็ก โดยเฉพาะในวัยเริ่มเข้าเรียนนั่นป่วยบ่อย และติดต่อกันแสนง่ายดาย จนพาลคิดกันไปว่า หรือเด็กวัยนี้จะไม่มีภูมิชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้ว ธรรมชาติมอบภูมิชีวิต (ที่ต่อไปนี้แอดขอเขียนสั้นๆ ว่า IS นะคะ)

ธรรมชาติให้ ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด อีกทั้งยังสมบูรณ์และมีความจำเป็น ไม่มีขาด ไม่มีเกิน แลไม่มีส่วนประกอบใดเลยของ IS ที่ธรรมชาติให้มาโดยบังเอิญ เช่น “ไส้ติ่ง” ที่เราคิดว่ามีไว้ก็เป็นภาระ แต่ในปัจจุบันมีการศึกษาว่าไส้ติ่งอาจมีหน้าที่ในการช่วยย่อยสลายเซลลูโลสในอาหารที่มีใยอาหารสูง รวมถึงมีบทบาทในการสร้างภูมิคุ้มกัน

การรักษาดูแลสุขภาพต้องพึ่ง IS แม้ Immunology (ระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันไม่ให้ร่างกายป่วยบ่อย) จะเข้าใจยาก แต่เราไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญเรื่องนี้ก็มีสุขภาพที่ดีได้ เหมือนดังเราไม่จำเป็นต้องรู้ระบบภายในของสมาร์ทโฟนว่าทำงานอย่างไร มีกลไททางเทคนิด / อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไร Internal Circuity ถูกออกแบบมาอย่างไร ขอให้เราเข้าใจวิธีใช้ /วิธีดูแลเท่านั้น ก็สามารถนำสมาร์ทโฟนมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว

รู้จักระบบ IS

IS แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ

  1. ระบบต่างๆ ของร่างกายที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น ระบบประสาท ระบบหายใจ ระบบเลือด ระบบย่อย เป็นต้น
  2. ต่อมต่างๆ ที่ทำหน้าที่ป้องกัน และควบคุมเชื้อโรค ที่เข้ามาในร่างกาย ได้แก่ ทอนซิล อดีนอยด์ไทมัส ต่อมน้ำเหลือง ม้าม ไส้ติ่ง ไขกระดูก Peyer’s Patches ต่อมต่างๆ นี้ สร้าง Lymphocytes, Phagocytes, Macrophages, Monocytes, B Cells, T Cells, Antibodies และอื่นๆ ซึ่งก็คือ กลุ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว (Leukocytes) นั่นเอง
  3. ต่อมต่างๆ ในสมองที่สร้างฮอร์โมน (Hormones) เช่น ไฮโปทาลามัส พิทูอิทารี ไพเนียล และส่วนที่เรียกว่า”จิต” (Mind) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง อารมณ์ ความรู้สึกเศร้า ความเครียด ความคิดบวก คิดลบ

ความเข้าใจเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพอันเนื่องมาจากจิต อารมณ์ ความคิด ยังคงต้องมีการศึกษาอีกมาก ขอยกตัวอย่าง
กรณีผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งไต ที่กลุ่มชีวจิตได้พบเจอมาจำนวนมากนั้น เรายังสรุปไม่ได้ว่ามะเร็งประเภทนี้ เป็นเหตุสำคัญ หรือมีปัจจัยการเกิดโรคจากความคิด ความรู้สึกด้านลบ แต่โดยสรุปคือ
ทั้งสามกลุ่มนี้ทำงานร่วมกัน พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยมีศูนย์บัญชาการคือสมองและฮอร์โมน

ป่วยบ่อย

เพื่อปกป้องร่างกาย IS ต้องทำงานตลอดเวลา เพราะร่างกายเราต้องผจญกับเชื้อโรคมากมาย ร่างกายจึงเตรียมตัวที่จะรักษาตัวเองอยู่เสมอ ผ่าน Healing Power เช่น เลือดออกจากแผลมีดบาด ร่างกายจะสร้างเกร็ดเลือดเพื่อปิดบาดแผล ไม่ให้เลือดออกมามากเกินไป จนเป็นอันตรายกับสุขภาพ และสุดท้ายแล้วแผลก็จะค่อย ๆ หายไป

อาจารย์สาทิสจึงได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าภูมิชีวิตดี เราก็ไม่ป่วย ถ้าเราป่วย แสดงว่าภูมิชีวิตของเราไม่ดี”

หน้าที่ของ IS นั้นครอบคลุมตั้งแต่การรักษาตัวของตัวเองเมื่อมีโรคเกิดขึ้น การปราบปรามเชื้อโรคที่เข้ามา หรือเกิดขึ้นในร่างกาย การสร้างบำรุงพละกำลังร่างกายและจิตใจให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์

ไม่อยาก ป่วยบ่อย IS ต้องดี

การดูแลรักษา IS ของเราให้แข็งแรงมีหลายวิธี คือ

  • ไม่เอาท็อกซินจากภายนอกเข้ามาสู่ร่างกาย
  • ไม่สร้างท็อกซินให้เกิดขึ้นภายในร่างกาย
  • เอาท็อกซินที่มีอยู่ออกจากร่างกาย เช่นการ ขับเหงื่อ เป็นต้น
  • นอนให้หลับลึก / หลับสนิท
  • ทำสมาธิในระดับที่สามารถรู้ถึงกระแสสั่นสะเทือน
  • เพิ่มวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็น

ขอยกตัวอย่าง แร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของ IS เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี ซีลีเนียม วิตามินซี บี บี 1 บี 6 บี 12 ไนอะซิน (บี 3) เป็น แร่ธาตุและวิตามินเหล่านี้มีในอาหารที่ดีกับสุขภาพอยู่แล้ว (แต่หากจะหาวิตามินเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือเกสัชกรหรือนักโภชนากร มิฉะนั้นอาจจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์)

เหมาะกับใคร

การใช้ IS ที่แข็งแรงมาดูแลสุขภาพนั้น เหมาะมาก ๆ ที่จะใช้เป็น หรือการดูแล สุขภาพเชิงป้องกัน อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของกลุ่มชีวจิต สรุปได้ว่า ในกรณีที่ผู้ป่วยที่ใช้การรักษาแผนปัจจุบันเป็นหลักและใช้แบบทางเลือกควบคู่ไปด้วยจะเพิ่มผลสำเร็จในการรักษา ทั้งเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาแผนปัจจุบันแต่เพียงอย่างเดียว

ที่มา นิตยสารชีวจิต ฉบับ 551

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

4 ผักพื้นบ้าน ป้องกันโรคความจำเสื่อม

เทคนิคกินอาหาร ป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ แตก ก่อนวัย

ชีวจิต ชวนรู้จัก 6 สมุนไพร ป้องกันโรค NCDs

ติดตามชีวจิตได้ที่ :

Facebook : นิตยสารชีวจิต
Instagram : Cheewajitmedia
TikTok : cheewajitmediaofficial

© COPYRIGHT 2025 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.