สลายเนื้องอก

BIG CHANGE สูตร 14 วัน สลายเนื้องอก (ตอนแรก)

สลายเนื้องอก

สูตร 14 วัน เพื่อ สลายเนื้องอก

ขอถามสาวๆ วัยทํางานว่าเคยเป็นแบบนี้กันบ้างไหมคะ ? อยากร่างกายแข็งแรง…แต่ไม่ยอมออกกําลังกาย อยากหายจากโรคที่รุมเร้า…แต่ไม่ยอมดูแลอาหารการกิน อยากสมองสดชื่นแจ่มใส…แต่ไม่ยอมผ่อนคลายความเครียด

หากกเหตุผลในการไม่ยอมดูแลสุขภาพของคุณมักจบลงด้วยข้ออ้างว่า เพราะแต่ละวัน มัวทํางานจนไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ โดยเฉพาะกับการปฏิบัติตัวตามแนวทางชีวจิตด้วยแล้ว ขอให้อ่านเรื่องราวของ คุณกานต์สินี จิตพนมกาญจน์ อายุ 41 ปี ต่อไปนี้ดูค่ะ

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b5
คุณกานต์สินี จิตพนมกาญจน์

เธอจะมาบอกเคล็ดลับเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบทันใจด้วยสูตร 14 วัน (ดูรายละเอียดในหนังสือชีวจิต:การใช้ชีวิตอย่างเข้าใจธรรมชาติ ของอาจารย์สาทิส อินทรกําแหง สํานักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ) พร้อมคอนเฟิร์มว่า แม้จะทํางานวันละ 11 ชั่วโมง   แต่ก็สามารถดูแลสุขภาพได้ แค่ปรับ เปลี่ยน และปล่อยวางเท่านั้นเอง

ทํางานไม่สมดุล อิมมูนป่วย

เมื่อไรที่กิน นอน พักผ่อน ออกกําลังกาย และทํางานไม่สมดุลท อาจารย์สาทิส อินทรกําแหง กูรูต้นตํารับชีวจิต ย้ำเสมอว่าจะทําให้ภูมิชีวิต(immune system) ซึ่งเป็นแหล่งพลังที่สําคัญของร่างกายบกพร่อง เป็นเหตุให้ความเจ็บป่วยปะทุขึ้นมา ดังเช่นกรณีของคุณกานต์สินี ที่เมื่อหักโหมทํางาน เธอต้องพบกับปัญหาก้อนเนื้องอก

ช่วงเกิดเรื่อง(พ.ศ.2536) เปิดร้านนวดแผนไทยพร้อมกัน 2 สาขา ที่จังหวัด กาญจนบุรีกับราชบุรี

ควบตําแหน่งทั้งเจ้าของร้านและพนักงานนวดเอง แต่ละสัปดาห์จะขับรถเทียวไปเทียวมาระหว่างจังหวัด

ไม่นานร้านก็ได้รับความนิยมมาก มีลูกค้าแน่นตลอด

แม้จะไม่มีภาระครอบครัวเพราะยังโสด แต่อยากมีเงินมากๆ ตั้งเป้าไว้เลยว่าต้องรับลูกค้าให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 คน เลยลุยงานตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม ไม่มีวันหยุด ถ้าวันไหนทําไม่ได้จะรู้สึกเครียดและหงุดหงิดจนปวดศีรษะ” เธอเล่า

สามเดือนหลังเปิดร้าน อาการปวดศีรษะตื้อๆ ที่เคยมาเยือนเธอเป็นพักๆ ยามเครียดเริ่มลามมาที่ใบหน้า พ่วงด้วยสภาพตาลาย  มือไม้สั่นทํางานไม่ได้ ต้องกินยาแก้ปวดทุก 4 ชั่วโมง

“เช้าวันหนึ่งลองคลําขมับขวา ซึ่งเป็นจุดที่ปวดมากเป็นพิเศษ เจอก้อนเนื้อแข็งๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยนูนขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังไม่เอะใจ ผ่านไปแค่หนึ่งสัปดาห์ ก้อนเนื้อบวมปูดออกมาเท่าลูกมะนาว ดูคล้ายคนหัวโน คราวนี้แหละ ตกใจมากจริงๆ”

นี่จึงเป็นที่มาในการปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่

ปรับตารางชีวิต บริหารเวลาได้ประโยชน์

          จากเคยอ้างกับตัวเองว่ายุ่งมาก คุณกานต์สินีตระหนักดีว่าก่อนอื่นต้องบริหารจัดการเวลาใหม่ จะได้ปฏิบัติตัวตามแนวทางชีวจิตเพิ่มเติมในแต่ละวันได้ครบถ้วน และไม่กระทบกับงานประจํา โดยเฉพาะช่วง 5 วันแรกของโปรแกรมที่ต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษ

“การทําดีท็อกซ์ ต้มน้ำอาร์ซี และออกกําลังกายในตอนเช้านั้นใช้เวลาพอสมควร จึงพยายามตื่นนอนให้เร็วกว่าเดิม โดยจากตื่นเจ็ดโมงเช้าแล้วออกไปทํางานเลย ก็ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสี่ ช่วยให้มีเวลามากขึ้นราว 3 ชั่วโมง สามารถทําทุกอย่างเสร็จแบบไม่รีบร้อน

“ตื่นนอนปุ๊บมาต้มกาแฟเตรียมทําดีท็อกซ์ และต้มน้ำอาร์ซีดื่ม ระหว่างรอกาแฟดีท็อกซ์หายร้อนจะฝึกโยคะหรือรํากระบองราวครึ่งชั่วโมง เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จากนั้นจึงกลับมาทําดีท็อกซ์ พร้อมอบสมุนไพรต่ออีกครึ่งชั่วโมง 2 – 3 วันแรกเป็นช่วงที่คุณกานต์สินีเพิ่งเริ่มปรับตัว เธอพบปัญหาว่า

“ขี้เกียจตื่นมาก พอเสียงนาฬิกาปลุกดังก็อิดออดไม่ยอมลุกจากเตียง ขอผัด 5 นาทีบ้าง 10 นาทีบ้างไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายตื่นสาย ทําให้มีเวลาเหลือน้อย ต้องรีบทําทุกอย่างให้เสร็จ ซึ่งกลายเป็นว่าเรายิ่งเครียดหนักกว่าเก่า วันต่อๆ มาจึงใช้เป็นบทเรียน ไม่ตื่นสายอีก แล้วทําอาหารเช้ารวมเวลาเบ็ดเสร็จประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ”

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b5-1
คุณกานต์สินี จิตพนมกาญจน์

“สิ่งสําคัญคือ จะปรับเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นตาม เมื่อก่อนนอนประมาณตีหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้ไม่เกินสี่ทุ่ม เพราะไม่อย่างนั้นวันรุ่งขึ้นอาจตื่นไม่ไหวหรือรู้สึกเพลีย”

เปลี่ยนกินของริมรั้ว  ครัวชีวจิตอย่างง่าย

หนทางไม่เพิ่มท็อกซินเข้าสู่ร่างกายและเติมสารอาหารดีๆ ที่ง่ายที่สุดคือ การกินอาหารชีวจิตร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนแรกคุณกานต์สินีคิดว่ายาก แต่เมื่อถามผู้รู้แล้วพบว่า ง่ายนิดเดียว

“ไม่ต้องลําบากไปหาที่ไหนไกล แค่หยิบพืชผักที่มีอยู่ในรั้วบ้านมากินก็ได้ นอกจากสะดวกแล้ว ยังปลอดภัยจากสารเคมีอีก”

คิดได้ดังนั้น เวลาที่เหลือจากการทํากิจกรรมช่วงเช้าเสร็จ คุณกานต์สินีจะออกเดินสํารวจสวนรอบบ้านว่ามีผักชนิดใดบ้าง แล้วนํากลับมาปรุงอาหาร

“เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าใกล้ตัวมีแต่ของดีๆ เพียงแค่ไม่เคยสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหัวปลี ฟักข้าว ชะอม ผักหวาน ตะไคร้ หรือยอดมะขาม ซึ่งจะนํามาทําอาหารที่ปรุงไม่ยาก เพื่อช่วยประหยัดเวลา เช่น ผัดผัก ต้มจืด แกงส้ม ยํา

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b5-2
คุณกานต์สินี จิตพนมกาญจน์

ส่วนอาหารกลางวันเน้นปรุงอาหารจานเดียว เช่น ผัดซีอิ๊ว ผัดมะกะโรนี ผัดผัก เพราะทําง่ายและกินได้เร็ว แถมยังได้สารอาหารสดใหม่ ทีนี้ยิ่งสบายใหญ่ เพราะไม่ต้องเหนื่อยออกจากที่ทํางานไปร้านอาหารเหมือนเดิมอีกแล้ว

ระหว่างวัน อาจารย์สาทิส อินทรกําแหง ยังแนะนําให้ดื่มน้ำเอนไซม์ เพื่อบํารุงระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทํางานดีขึ้น รวมถึงกระตุ้นความสดชื่น คุณกานต์สินีบอกเทคนิคว่า

          “น้ำเอนไซม์ต้องดื่มทันทีหลังคั้นเสร็จ ทําให้เตรียมล่วงหน้าเหมือนน้ําอาร์ซีไม่ได้ จึงนําเครื่องแยกกากและผ้าขาวบางไปไว้ที่ทํางาน ตอนเช้าเตรียมวัตถุดิบที่เก็บจากสวน ใส่รถไว้เลย ตกบ่ายก็หยิบมาคั้นดื่มในที่ทํางานง่ายมาก”

ข้อมูลจาก : คอลัมน์ประสบการณ์สุขภาพ นิตยสารชีวจิต

ติดตามเรื่องราว ในตอนจบได้ที่

http://www.cheewajit.com/43195/healthy-body/story-14-day-2/

 

 

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.