ครอบครัว
ความสัมพันธ์ใดก็ไม่แข็งแรงเท่า ครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อถึงคราวหน้าสิ่วหน้าขวาน หรือป่วยด้วยโรคที่สังคมล่ำลือกันว่า ต้องตายแน่ๆ อย่างมะเร็ง
จากผลงานการวิจัยเรื่อง A Family Perspective in Healthcare ตีพิมพ์ในสื่อของ A Center of Excellence, School of Human Ecology มหาวิทยาลัยวิสคอนซิล เมดิสัน สหรัฐอเมริกา กล่าวถึงบทบาทของครอบครัวที่มีต่อความเจ็บป่วยไว้ดังนี้
- ครอบครัวช่วยนำการดูสุขภาพสู่สมาชิกในบ้าน ช่วยป้องกันโรคและความเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะหากใครคนหนึ่งดูแลสุขภาพตนเองอย่างแข็งขัน ก็จะช่วยให้คนอื่นๆ สามารถหันมาดูแลตนเองตามได้
- ความแข็งแรงของความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วยป้องกันความเครียด และปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงกายอื่นๆ ได้
- ความเชื่อทางการแพทย์และสุขภาพ จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจ เลือกรับการรักษาได้ดีกว่า
- หากคนหนึ่งคนใดในบ้านป่วย ย่อมนำความเครียดมาสู่สมาชิกคนอื่นที่เหลือได้
- ครอบครัวมีบทบาทสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ง่าย
คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป
ในรายของครอบครัวเรา…อันมีแม่เป็นผู้นำ ก็เช่นกัน แม่รักเราๆ รู้ แต่แม่ไม่ได้มีการศึกษาสูงส่ง จึงไม่มีคำพูดคมเข้ม ชุดเหตุผลรายเรียง ชุดความรู้ปรัชญาคมกริบ แบบที่คนรุ่นเราเรียนกันมาจากโรงเรียน ซึ่ง (ครั้งหนึ่ง-หรือตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่) ทำให้หลายคนเชื่อว่า เราเก่งกว่า ฉลาดกว่า…ถูกค่ะ แต่เฉพาะเรื่องทฤษฎี (วิชาหุน-ตามหนังจีน) เท่านั้นนะ
เพราะในความเป็นจริง วิชาบู๊ (หรือวิชาที่ว่าด้วยการลงมือทำ- ตามหนังจีน) คนที่เกิดก่อน ย่อมมีประสบการณ์มากกว่า โดยเฉพาะแม่ของเรานั้น ท่านสอนน้อย และท่านทำให้ดูเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อตอนเราป่วย
ก็ไม่กินข้าวขาว หมู เนื้อ ไก่ รวมถึงซุปที่ต้มจากอวัยวะของสัตว์เหล่านี้ เครื่องปรุงหลายอย่าง น้ำมันทอดซ้ำ และน้ำมันบางชนิด สิ่งที่กินได้คือ ข้าวกล้อง ผักสุก ผักสด อาหารที่ไม่ผ่านการทอด ไม่ปรุงรสด้วยน้ำตาล ปลา เต้าหู้…แม่เรา ซึ่งกุมบังเหียนเรื่องอาหารในบ้านอยู่แล้ว ก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนทุกสิ่งอย่าง ให้เป็นสิ่งที่เรากินได้ (ท่านเคยปฏิเสธข้าวกล้อง อ้างว่า ข้าวมีสี เวลาตักใส่บาตรพระบิณฑบาตแล้วดูไม่งาม) แล้วทุกคนในบ้านก็กินอาหารชีวจิตตาม
คลิกเลข 3 เพื่ออ่านหน้าถัดไป
แม่ขับรถไม่เป็น แม่เลยพาไปให้ยาที่บ้านอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตไม่ได้ แต่แม่ช่วยปฏิเสธญาติทุกคนที่พุ่งความหวังดีเข้าใส่ ด้วยการผลักไสสารพัดตำรับยาแผนไทย-จีน หมอพระ หมอเด่นดังตามคำล่ำลือให้ แล้วบอกทุกคนเหมือนที่เราบอก “ขอใช้แผนชีวจิตก่อน หายไม่หายค่อยว่ากันอีกที”
ที่สำคัญ แม่ไม่เคยยอมป่วย ถ้ารอบไหนไปตรวจสุขภาพแล้วความดันฯ ไขมันฯ หรือน้ำตาลขึ้น แม่จะกลับมาปรับอาหาร วิ่งเหยาะๆรอบบ้าน “ลูกป่วยคนหนึ่ง ก็สงสารมันจะแย่อยู่ล่ะ เราอย่าป่วยเลย จะได้ไม่เป็นภาระลูก และจะได้คอยดูแลลูกตอนกำลังป่วยด้วย” ท่านประกาศบอกใครต่อใคร
ถ้าจะว่าไป จากสิ่งที่แม่คิดและทำนี่เอง ทำให้เราเกิดแรงฮึด…ในเมื่อไม่รู้จะตอบแทนพระคุณนี้ของแม่ยังไง ก็ต้องทำให้ตนเองไม่ป่วย โดยเฉพาะใจ เพื่อแม่จะได้สบายใจ ยิ้มได้ และมีความสุขต่อไปอีกนานๆ
ชีวิตย่อมต้องมีโหมดดราม่าแบบนี้บ้างล่ะนะ