ใครบ้าง ไม่ควรกิน
แม้บริเวอร์ยีสต์จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
1. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพราะยังไม่มีการศึกษาที่ยืนยันถึงความปลอดภัยอย่างชัดเจน ต่อทารกที่แม่กินบริเวอร์ยีสต์ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ยีสต์ ควรหลีกเลี่ยงการกินบริเวอร์ยีสต์ เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น คัน บวม ตามร่างกาย
3. ผู้ที่เป็นโรคโครห์น (Crohn’s Disease) หรือกลุ่มโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease) เนื่องจากการกินบริเวอร์ยีสต์เสริมมีผลให้อาการของโรคทรุดหนักลง
4. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนกินบริเวอร์ยีสต์เสริม เพราะบริเวอร์ยีสต์มีโครเมียม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กินยา หรือฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากกินบริเวอร์ยีสต์เสริมอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ซึ่งทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
รู้ข้อมูลอย่างนี้แล้ว ควรเลือกกินให้เหมาะกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ที่สำคัญต้องดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วยก็จะช่วยให้สาว 40+ ทุกคนสวยสดใสสุขภาพเลิศอย่างแน่นอนค่ะ

กินน้ำมันปลาเยียวยาอาการซึมเศร้าอย่างไร
Q: ลูกชายอายุ 25 ปี มีปัญหาเรื่องการเรียน ทำให้มีอาการซึมเศร้า เช่น เก็บตัว อารมณ์ขึ้นๆ ลง ๆ ทราบข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่า ควรกิน Fatty Acid Fish Oil จึงอยากทราบว่าควรกินปริมาณเท่าไร อย่างไร
A: มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีระดับกรดไขมันโอเมก้า - 3 ในเลือดต่ำเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้า ทั้งยังพบว่า ผู้ที่กินปลาทะเลเป็นประจำมีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าน้อยกว่าผู้ที่ไม่กินปลาทะเล
ดังนั้นหากต้องการกินน้ำมันปลาหรือ Fatty Acid Fish Oil เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า - 3 อย่างเพียงพอและเพื่อลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า แนะนำให้กินปลาทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
นายแพทย์แอนดรูว์ ไวล์ พ่อมดแห่งวงการแพทย์ทางเลือกแนะนำให้กินน้ำมันปลาหรือเสริมกรดไขมันโอเมก้า - 3 ที่มีครบทั้งชนิดอีพีเอ (EPA) และดีเอชเอ (DHA) ชนิดสกัดจากปลาทะเลวันละ 2 – 4 กรัม และหากเป็นไปได้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Molecularly Distilled” หรือผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ปลอดจากสารพิษ
เนื่องจากโรคซึมเศร้าเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากคุณแม่สงสัยว่าอาการของลูกชายเข้าข่ายโรคซึมเศร้า อย่านิ่งนอนใจแนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ให้ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 445
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ผิวมัน ดูแลยังไงให้หน้าเนียนเด้ง ไร้สิว