รังไข่ ดูแลรังไข่ มดลูก มะเร็งรังไข่ อวัยวะเพศหญิง

ไม่มี รังไข่ ทำแก่ง่าย โรคร้ายรุม จริงหรือ

ไม่มี รังไข่ ทำแก่ง่าย โรคร้ายรุม จริงหรือ

เรียนปรึกษาคุณหมอค่ะ ดิฉัน อายุ 40 ปี มีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน เมื่อไม่นานมานี้ตรวจพบว่ามีซีสต์ที่ รังไข่ คุณหมอแนะนำให้ตัดทิ้ง ต้องกินฮอร์โมนทดแทน หลังตัดรังไข่และกินฮอร์โมนแล้วก็ยังมีอาการร้อนวูบวาบอยู่ค่ะ รู้สึกกังวลใจมากว่าการไม่มีรังไข่และกินฮอร์โมนจะทำให้เกิดโรคร้ายๆ ตามมา เลยอยากทราบว่าต่อจากนี้ดิฉันต้องพบกับความผิดปกติอะไรบ้าง และควรดูแลตัวเองอย่างไรหลังจากไม่มีรังไข่แล้ว ขอบคุณค่ะ

 

คุณหมอชัญวลี ตอบ

การตัดมดลูกไม่ได้ทำให้แก่เร็ว อ่อนแอ หรือมีปัญหาสุขภาพ เนื่องจากมดลูกมีหน้าที่สองประการเท่านั้น หนึ่งคือ เป็นที่อยู่ของลูก สองคือ สร้างประจำเดือน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนใดๆ เมื่อตัดมดลูกจึงไม่สามารถมีลูกได้ตามธรรมชาติและไม่มีประจำเดือนเท่านั้น นอกเสียจากการตัดมดลูกนั้นได้ตัดรังไข่ทั้งสองข้างออกไปด้วย จึงอาจจะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้

รังไข่ของผู้หญิงมีสองข้าง ตั้งอยู่ที่ปลายปีกมดลูกซ้าย – ขวา เป็นอวัยวะที่สร้างฮอร์โมนเพศหญิงเอสโทรเจน โปรเจสเทอโรน และฮอร์โมนเพศชายทำให้มีลักษณะเป็นผู้หญิง เช่น มีเต้านม มีสะโพกผิวพรรณนุ่มนวล เสียงแหลม มีประจำเดือนมีความต้องการทางเพศ กระดูกเชิงกรานผาย นอกจากนั้นยังทำให้กระดูกแข็งแรง ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ

รังไข่
ผู้ที่ต้องตัดรังไข่ทั้งสองข้างตอนอายุยังน้อย อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในอนาคตได้

ในปัจจุบันยังพบว่า ถึงหมดประจำเดือน รังไข่ไม่สร้างฮอร์โมนเพศหญิงแล้วแต่ก็ยังสร้างฮอร์โมนเพศชายต่อไปจนอายุถึง 65 ปี ดังนั้นหากไม่จำเป็นจึงไม่ควรตัดรังไข่ เพราะการตัดรังไข่ทั้งสองข้างในคนอายุน้อยที่ยังไม่หมดประจำเดือนอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้

แต่ในกรณีที่รังไข่มีพยาธิสภาพคือมีความผิดปกติ เช่น ติดเชื้อ เป็นมะเร็งกำลังจะเป็นมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งที่อาจจะกระจายมาที่รังไข่ การตัดรังไข่ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาชีวิตไว้ แม้จะมีปัญหาสุขภาพตามมาก็ต้องแก้ไขกันไป

เมื่อ 30 ปีก่อน หากผู้หญิงที่มีอายุเกิน 40 ปีต้องตัดมดลูกจากโรคภัยไข้เจ็บของมดลูก เช่น เน้อื งอกมดลูก แพทย์มักจะตัดรังไข่ออกด้วย แม้รังไข่จะปกติก็ตาม เพื่อลดการเกิดมะเร็งรังไข่ แต่ความนิยมในการตัดรังไข่ขณะตัดมดลูกได้ลดลงในเวลาต่อมา

สถิติของประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ในปี พ.ศ. 2548 ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 51 ปีที่ต้องตัดมดลูก แพทย์ได้ตัดรังไข่ออกด้วยถึงร้อยละ 60 – 68 ทว่าต่อมาในปี พ.ศ. 2556 – 2557 แพทย์ตัดรังไข่เมื่อต้องตัดมดลูกเพียงร้อยละ 44

ปัจจุบันองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทำให้การตัดสินใจตัดรังไข่ขณะตัดมดลูกเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับกับผลเสียที่จะเกิดขึ้น โดยแพทย์จะมีการแนะนำล่วงหน้า และคนไข้เป็นคนตัดสินใจ

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.