ผู้ป่วยโรคไตที่กินมังสวิรัติ
นายแพทย์โดนัลด์ เวสสัน (Donald Wesson) จาก The Texas A&M Health Science Center College of Medicine ผู้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคไต ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยของเขาใน Journal of the
American Society of Nephrology ยืนยันว่า
การกินผักและผลไม้ช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้ โดยพบว่า ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์ปริมาณสูงทั้ง 3 มื้อ จะพัฒนาเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายมากกว่าผู้ป่วยที่กินอาหารที่มีผักและผลไม้ปริมาณสูง
นายแพทย์โดนัลด์อธิบายว่า หลังจากกินเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดงร่างกายจะเปลี่ยนโปรตีนเป็นกรด ไตจะผลิตสารที่ช่วยกำจัดกรด หากกรดมีปริมาณมาก ไตจะทำงานหนักและเสื่อมเร็ว นอกจากนี้อาหารที่มีผักและผลไม้สูงยังช่วยลดความดันโลหิต มีผลชะลอความเสื่อมของไต
ไม่เพียงเท่านี้ คุณเอกหทัยเสริมว่า “การกินอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น อาหารมังสวิรัติ ไม่เพียงช่วยชะลอความเสื่อมของไตยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะแทรกซ้อนจากโรคหัวใจ ภาวะโปรตีนรั่วในปัสสาวะ อีกด้วย”
กินถนอมไต : คุณเอกหทัยย้ำข้อควรจำสำหรับชาวมังสวิรัติว่า
“อาหารมังสวิรัติทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่เคร่งครัดกับการกินผักและผลไม้เพียงอย่างเดียว อาจทำให้ร่างกายไม่ได้รับกรดแอมิโนจำเป็นครบถ้วน อีกทั้งโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง มีฟอสฟอรัสสูง ผู้ป่วยที่มีปริมาณฟอสฟอรัสในเลือดสูงอยู่แล้วอาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
“จึงแนะนำให้กินโปรตีนจากผักให้หลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับกรดแอมิโนจำเป็นครบถ้วน ส่วนโปรตีนจากแหล่งอื่น เช่น ไข่ขาว (กรณีกินอาหารมังสวิรัติชนิดกินไข่) โปรตีนเกษตร เต้าหู้ขาว นัตโตะ (ถั่วเน่าญี่ปุ่น) ควรกินอย่างน้อย 2 ใน 3 ของแหล่งโปรตีนทั้งหมด
“ควรเลือกผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง โดยกินผักมื้อละ 1 – 2 ทัพพี และผลไม้มื้อละ 1 – 2 จานรองถ้วยกาแฟ
“สำหรับผักที่แนะนำให้กิน เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี เห็ดหูหนู บวบ กวางตุ้ง ผักบุ้ง ตำลึง หอมหัวใหญ่ พริกหวาน ฟักเขียว กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก มะละกอดิบ น้ำเต้า ส่วนผลไม้ เช่น สับปะรด แอ๊ปเปิ้ล มะม่วง มังคุด เงาะ สาลี่ สละ”
การพิถีพิถันในการเลือกกินผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำนับว่ามีความสำคัญ ไม่เพียงกับผู้ป่วยโรคไตที่กินอาหารมังสวิรัติเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับผู้ป่วยโรคไตชนิดอื่นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายขับปัสสาวะได้น้อยเพราะหากกินผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง จะทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ หากไม่ควบคุมอาหารอาจมีผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้